-/> *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๕ พระมโหสถ ***

หน้า: [1] 2   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๕ พระมโหสถ ***  (อ่าน 11470 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 5 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« เมื่อ: 25 มกราคม 2560, 01:05:31 PM »

Permalink: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๕ พระมโหสถ ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๕  พระมโหสถ
บทนำ

** ครั้งเสวยพระชาติเป็นพระมโหสถ
พระทรงยศเลิศปัญญาจักหาไหน
สามารถแก้ปัญหาลุล่วงไป
พร้อมมอบความสดใสให้ทุกคน

** ”ปัญญา” แปลว่าความรู้ทั่ว
ทั้งความชั่วความดีมีเหตุผล
และบาปบุญคุณโทษประโยชน์ตน
ไม่เกลือกกลั้วอกุศลหลงงมงาย

** ผู้ใดมีปัญหามาไต่ถาม
แก้ไขความข้องใจไม่แหนงหน่าย
ใช้ปัญญาเลิศล้ำประจำกาย
เป็นอาวุธแรงร้ายคอยเยียวยา

** ทั้งตนเองผู้อื่นพ้นทุกข์ยาก
ขจัดความลำบากที่โถมถา
ให้เกิดมีความสุขทุกเวลา
สมเป็นที่พึ่งพามหาชน

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #1 เมื่อ: 25 มกราคม 2560, 01:11:37 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๕ พระมโหสถ ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๕  พระมโหสถ
ตอนที่ ๑  เด็กอัศจรรย์

** ที่ “ปาจีนวยมัชฌคาม”
ซึ่งเป็นนามของหมู่บ้านอย่าฉงน
อยู่ทางทิศตะวันออกนอกมณฑล
มิถิลาเมืองผู้คนสุขสบาย

** มีเศรษฐีชื่อ “สิริวัฒกะ”
ผู้ยึดมั่นในธุระงานทั้งหลาย
“สุมนเทวี” คู่เคียงกาย
ร่วมกันมีลูกชายสืบสกุล

** ในตอนที่ลืมตามาดูโลก
นับเป็นโชคบุญกรรมเสริมนำหนุน
ช่างประหลาดเหลือกล่าวเจ้าพระคุณ
มือถือยามาเจือจุนชาวประชา

** พร้อมบอกแม่ให้ทราบว่ายาวิเศษ
ดีเกินเหตุเมื่อได้ใช้รักษา
โรคจะหายเร็วไวในพริบตา
แม่จงพาไปแจกจ่ายให้ผู้คน

** นางนำไปเพื่อใช้รักษาพ่อ
ที่คอยรอความหวังอย่างหมองหม่น
ปวดศีรษะมานานเนิ่นเกินจะทน
รอคอยคนมียาดีที่เมตตา

** มารักษาดูแลแก้ให้หาย
ทรมานใจกายนานหนักหนา
นับได้ครบหกปีที่ผ่านมา
รอคอยว่าเมื่อไรหายสักที

** ครั้นเอาไปใช้ทามที่หน้าผาก
ความเจ็บปวดที่ว่ามากหายเร็วรี่
ช่างวิเศษจักหายาใดมี
คุณสมบัติอย่างนี้ในโลกเรา

** สิริวัฒกะแจกยาให้
แก่คนที่ป่วยไข้ใจอับเฉา
หวังช่วยเหลือเกื้อกันเพื่อบรรเทา
ทุกข์ที่รุ่มร้อนรุมเร้าเศร้าเหลือใจ

** ใช้ยาที่เศรษฐีมีมามอบ
ทาแล้วชอบโรคร้ายที่ว่าใหญ่
พอทาเสร็จหายพลันในทันใด
จึงเลื่องลือกันไกลทั่วนิคม

** ผู้เป็นพ่ออาศัยเหตุมีเขตขอบ
ตามระบอบดูดีที่เหมาะสม
ตั้งชื่อลูก “มโหสถ” ยศอุดม
จากชั้นพรหมจุติมาค่าอนันต์

** อันชื่อนี้มีความหมายให้รู้ว่า
“ผู้มียาขนานเอก” ใช่เสกสรร
ผู้คนได้พึ่งพายามจาบัลย์
พ้นโรคอันร้าวรานสุดทานทน

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #2 เมื่อ: 26 มกราคม 2560, 03:40:09 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๕ พระมโหสถ ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๕  พระมโหสถ
ตอนที่ ๒  หนูน้อยสถาปนิก

** มโหสถเจริญวัยเป็นลำดับ
กำหนดนับเจ็ดปีมิตกหล่น
สร้างผลงานยิ่งใหญ่เกินวัยตน
ปวงประชาทุกคนต่างตะลึง

** เป็นสถาปนิกออกแบบสร้าง
ศาลากว้างหลังใหญ่นึกไม่ถึง
มีห้องหับมากมายหมายคำนึง
เป็นที่พึ่งคนจรพักผ่อนกาย

** ลักษณะของศาลาต่างระดับ
แบ่งเป็นห้องเหมาะกับคนหลากหลาย
เพื่อพักพาอาศัยให้สบาย
มีเรียงรายเป็นสัดส่วนล้วนสวยงาม

** เช่นห้องสำหรับคนที่จนยาก
ที่มาจากต่างถิ่นไม่หมิ่นหยาม
หรือคนบ้านเดียวกันทุกรูปนาม
มาพักได้ด้วยความสวัสดี

** ส่วนนักปราชญ์ก็มีให้ได้อาศัย
ในสมัยเดินทางกลางวิถี
มีที่พักผลอดภัยในราตรี
พร้อมกับที่บำเพ็ญธรรมไว้สำรอง

**ห้องสำหรับนายวาณิชคิดค้าขาย
คนเดินทางมากมายไว้สนอง
อำนวยความสะดวกตามครรลอง
ตามทำนองคนเอื้อเฟื้อช่วยเหลือกัน

** ห้องคนอนาถาคราคลอดลูก
เครื่องพันผูกสายใยให้สุขสันต์
สืบพงศ์เผ่าเหล่ากอนิจนิรันดร์
ได้พักผ่อนไม่ต้องพรั่นอันตราย

** ทุกทุกห้องล้วนมีหน้ามุขสวย
ประกอบด้วยลายวิจิตรนิมิตรหมาย
สวยงามดีมีระฆังรอบเชิงชาย
กนกลายที่หน้าบันงามชั้นครู

** มโหสถออกแบบสระขนาดใหญ่
บรรยากาศทั่วไปวิไลหรู
มีพันธุ์บัวมากมายชวนให้ดู
สำหรับผู้อาศัยผ่านไปมา

** ที่ขอบสระมีไม้ดอกไม้ประดับ
น่าพักผ่อนนอนหลับเป็นหนักหนา
มีกลิ่นหอมอบอวลมวลมาลา
หมู่ภมรแย่งกันหาน้ำหวานกิน

** ทางลงสระไม่น้อยหนึ่งร้อยท่า
มองดูละลานตาสมถวิล
ผู้คนลงไปอาบตราบอาจิณ
มีดวงจินต์สดใสในธารา

** ทั้งข้าวปลาอาหารครบทุกสิ่ง
ช่างสะดวกเสียจริงสุดหรรษา
มีที่พักที่กินพร้อมหยูกยา
มโหสถจัดหาบริการ

** แต่สิ่งที่สำคัญน่าสรรเสริญ
ช่างแสนดีเหลือเกินอย่ามองผ่าน
เขาและเพื่อนบริจาคเงินเป็นทาน
สร้างศาลามโหฬารเพื่อปวงชน

** มีประโยชน์มากล้นพ้นคำกล่าว
ชาวประชารู้ข่าวตามนุสนธิ์
พากันเปล่ง “สาธุการ” บันดาลดล
ให้เจ้าของไม่หมองหม่นสุขกายใจ

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #3 เมื่อ: 26 มกราคม 2560, 03:44:09 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๕ พระมโหสถ ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๕  พระมโหสถ
ตอนที่ ๓  ตัดสินคดีลักวัว

** ชายคนหนึ่งซื้อวัวจากบ้านนอก
จูงจากคอกด้วยความฝันอันยิ่งใหญ่
จะหักพงถางป่าโดยเร็วไว
ทำนาไร่สร้างครอบครัวของตัวเรา

** เดินผิวปากดังลั่นสนั่นพฤกษ์
ในใจนึกต่อแต่นี้ไม่มีเหงา
จะไถนาปลูกข้าวไม่ซบเซา
สร้างฐานะไม่อายเขาตอนชรา

** เดินมานานเหนื่อยนักอยากพักเหนื่อย
เกิดรู้สึกปวดเมื่อยทั้งแขนขา
อีกทั้งง่วงเมื่อลมเย็นโชยอีกครา
ไม่รอช้าผูกวัวไว้อย่างดี

** เสร็จแล้วจึงรีบนั่งใต้ตนไม้
ที่อยู่ใกล้ทางเดินเนินพฤกษี
ลมพัดอ่อนเอนกายนอนทันที
สุขเหลือที่หลับใหลในไม่นาน

** ตื่นขึ้นมาตกใจวัวไม่อยู่
จึงได้รู้มีขโมยมาล้างผลาญ
ลักเอาวัวเราไปใจร้าวราน
คนใจพาลทำได้ร้ายเหลือทน

** รีบออกเดินติดตามคนใจร้าย
ด้วยมุ่งหมายเอาคืนคงได้ผล
คิดอย่างนี้จึงรีบจรดล
ไปหาคนขโมยวัวชั่วได้ใจ

** เป็นโชคดีที่ตามทันกระชั้นชิด
จึงสะกิดถามว่าจะไปไหน
วัวของข้าท่านจูงมาเพราะเหตุใด
ข้าขอคืนเร็วไวส่งเชือกมา

** หัวขโมยจึงบอกว่าไม่ใช่
อันวัวตัวนี้ไซร้เป็นของข้า
มาขี้ตู่เอาด้านด้านพาลนี่นา
ซ้ำพูดจาใส่ร้ายน่าอายจริง

** ทั้งสองต่างแย่งกันเป็นเจ้าของ
ฝ่ายโจรอยากครอบครองต้องกรอกกลิ้ง
ต่างก็ยกเหตุผลมาอ้างอิง
กล่าวพาดพิงสิ่งต่างต่างอย่างเลื่อนลอย

** ขณะนั้นเถียงกันเพลินเดินมาถึง
ศาลาซึ่งมหาชนมาใช้สอย
ที่มโหสถได้สร้างไว้รอคอย
ให้พวกคนใหญ่น้อยได้พึ่งพา

** มโหสถผ่านมาจึงไต่ถาม
เขาจึงได้รู้ความตัวปัญหา
ช่วยตัดสินทันทีมิรอรา
ด้วยศรัทธาอยากช่วยเหลือเอื้ออาทร

** ท่านทั้งสองให้วัวกินสิ่งใด
จงพูดไปตามจริงอย่าหลอกหลอน
ฝ่าขโมยรีบตอบไม่ร้าวรอน
ข้าได้ป้อนจำพวกแป้งแฝงด้วยงา

** ทั้งขนมนมสดจดจำไว้
เราต้องให้อาหารดีมีคุณค่า
วัวจะต้องแข็งแรงไถคลาดนา
คนชั่วช้ามาหลอกอำทำวุ่นวาย

** เจ้าของวัวตอบว่าตัวข้านี้
เงินทองไม่ค่อยมีจะใช้จ่าย
ให้กินหญ้าตามประสาของวัวควาย
ไม่อาจหมายให้กินของดีดี

** มโหสถเริ่มพิสูจน์เรื่องจริงเท็จ
นำไม้เด็ดมาให้เห็นเป็นสักขี
สั่งให้โขลกใบประยงค์ในทันที
แล้วเอาน้ำอันเกิดมีให้วัวกิน

** ในไม่ช้าเจ้าวัวจึงสำรอก
อาหารในท้องออกจนหมดสิ้น
ปรากฏว่ามีแต่หญ้กองบนดิน
ไร้ราคินสิ่งเจือปนผลชัดเจน

** มโหสถจึงประกาศให้คนรู้
ผู้มาเยือนเฝ้าดูไม่หนีเผ่น
แล้วตัดสินให้ประจักษ์ตามหลักเกณฑ์
ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเป็นเรื่องฮา

** ชายผู้ที่ให้หญ้าเป็นอาหาร
ไม่ใช่คนคิดพาลดังกล่าวหา
เป็นเจ้าของที่แท้จริงเห็นกับตา
จงคืนวัวเขามานะพ่อคุณ

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #4 เมื่อ: 26 มกราคม 2560, 03:48:04 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๕ พระมโหสถ ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๕  พระมโหสถ
ตอนที่ ๔  ตัดสินคดีหญิงแย่งลูก

** สองผู้หญิงเดินเถียงกันเสียงลั่น
นี่ลูกฉันเธอไม่ใช่ให้เคืองขุ่น
ฉันรักของฉันมากอยากเจือจุน
ให้ไออุ่นสมกับที่มีเขามา

** อีกคนหนึ่งจึงกล่าวเราก็รัก
เฝ้าฟูมฟักเลี้ยงดูอยู่รักษา
ยามป่วยไข้ดูแลไม่ห่างตา
หาหยูกยามาให้ได้กลืนกิน

** เถียงกันมาเถียงกันไปไม่ยอมแพ้
จึงไม่รู้ว่าใครแม่ดังถวิล
เดินเถียงกันไม่หวั่นใจใครได้ยิน
ไม่สุดสิ้นข้อยุติที่ผู้ใด

** มโหสถทราบเรื่องมิเชื่องช้า
หวังรีบแก้ปัญหาพาสดใส
จะพิสูจน์ความถูกต้องเป็นของใคร
เพราะเป็นคนจริงใจไม่อำพราง

**จึงขีดรอยลงบนดินถวิลหวัง
เพื่อหยุดยั้งข้อพิพาทที่บาดหมาง
นำเด็กมาวางลงที่ตรงกลาง
ให้ผู้หญิงสองนางแย่งชิงกัน
** คนหนึ่งให้จับมือของเด็กไว้
อีกคนให้จับเท้าเอาไว้มั่น
แล้วให้สัญญาณดึงขึ้นมาพลัน
ผู้ชนะได้เด็กนั้นไปครอบครอง

** ต่างดึงกันด้วยหวังจะชนะ
ไม่ลดละอยากเป็นหนึ่งไม่ใช่สอง
เด็กเจ็บปวดทนไม่ไหวน้ำตานอง
ส่งเสียงร้องเพราะเจ็บปวดรวดร้าวกาย

** ผู้หญิงที่จับเท้าเศร้าในจิต
ยิ่งยิ่งคิดก็พาน่าใจหาย
เสียงร่ำร้องก้องหูไม่รู้คลาย
ใจวุ่นวายด้วยสาเหตุเวทนา

** นึกสงสารเด็กน้อยกลอยใจเอ๋ย
คงเจ็บปวดมากเลยร้องไห้จ้า
รีบปล่อยมือทันทีมิรอรา
ประหนึ่งว่าใจจะขาดพินาศลง

** ฝ่ายหญิงที่จับมือของเด็กน้อย
ไม่ยอมปล่อยหวังชนะดังประสงค์
เด็กจะเป็นอย่างไรไม่พะวง
มัวแต่หลงชนะแพ้แย่เกินการ

** มโหสถเห็นแล้วจึงตัดสิน
โฉมยุพินที่ปล่อยมือคือหลักฐาน
น้ำใจช่างประเสริฐเลิศโอฬาร
มีเมตตาเป็นบริวารแห่งความดี

** จิตใจแสนอ่อนโยนสมเป็นแม่
เป็นลูกเธอจริงแท้แม่โฉมศรี
จึงมอบเด็กให้ไปไม่รอรี
หญิงคนนี้คือแม่ที่แท้จริง

** ส่วนหญิงสาวอีกคนเป็นยักษ์แฝง
ที่ได้แปลงร่างเป็นคนวกวนยิ่ง
เพื่อกินเด็กเป็นอาหารไม่ประวิง
จึงอ้างอิงเป็นแม่แย่เกินใคร

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #5 เมื่อ: 26 มกราคม 2560, 03:52:18 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๕ พระมโหสถ ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๕  พระมโหสถ
ตอนที่ ๕  พระเจ้าวิเทหราชทดลอง

** ท้าววิเทหราชชาติกษัตริย์
ครองสมบัติมิถิลานครใหญ่
ทรงทราบข่าวมโหสถเลื่องลือไป
มีปัญญาเกินใครในแผ่นดิน

** ประสงค์จะทดสอบความสามารถ
ชาญฉลาดจริงไหมใช่ดูหมิ่น
หวังพิสูจน์ให้รู้สมดังจินต์
เจ้าธานินทรงมีพระบัญชา

** ให้เกลาไม้ตะเคียนยาวคืบหนึ่ง
ทรงหวังพึ่งเป็นแนวทรงปุจฉา
จงเกลาให้เท่ากันหวังหลอกตา
ไม่รู้ว่าโคนปลายเกลาให้งาม

** ครั้นสำเร็จเสร็จสรรพตามประสงค์
ให้นำตรงสู่ชาวบ้านพร้อมคำถาม
โคนด้านไหนปลายด้านใดอยากรู้ความ
จงรีบตอบไปตามความเป็นจริง

** ชาวบ้านได้เห็นแล้วงงไม่หาย
ไม่รู้โคนไม่รู้ปลายสงสัยยิ่ง
ปรึกษากันต้องหาที่พักพิง
ผู้รู้เรื่องเพื่ออ้างอิงได้ดังใจ

** จึงมุ่งตรงไปหามโหสถ
แล้วเล่าเรื่องทั้งหมดไม่เหลวไหล
ครั้นเล่าจบจึงรีบส่งท่อนไม้
เพื่อมโหสถจะได้สังเกตมัน

** มโหสถมองดูแล้วสั่งว่า
จงไปนำเชือกมาด้วยเชื่อมั่น
แล้วให้ผูกที่กึ่งกลางอย่างเร็วพลัน
เดี๋ยวคงจะได้รู้กันวันนี้เลย

** หลังจากนั้นให้หย่อนในอ่างน้ำ
หวังจะทำการพิสูจน์ไม่นิ่งเฉย
โคนท่อนไม้เริ่มจมก่อนเหมือนเช่นเคย
ธรรมชาติได้เฉลยเผยตัวตน

** ธรรมของต้นไม้มีอยู่ว่า
ส่วนโคนจะหนักกว่าอย่าสับสน
เป็นเพราะเนื้อหนาแน่นแก่นคงทน
มโหสถรู้แยบยลเป็นอย่างดี

** ให้ชาวบ้านผูกเชือกเป็นเครื่องหมาย
จะได้รู้โคนปลายเป็นสักขี
แล้วนำไปถวายองค์ภูมี
ผู้ครอบครองธานีมิถิลา

** ชาวบ้านได้กราบทูลเจ้าเหนือหัว
เพื่อได้รู้กันทั่วตามปรารถนา
มโหสถเอื้อเฟื้อและเมตตา
แก้ปัญหาตอบคำถามตามต้องการ

** ไม้ส่วนที่มีเชือกเป็นสัญลักษณ์
คือส่วนโคนจงประจักษ์เป็นหลักฐาน
ได้ทดลองโดยผู้ที่เชี่ยวชาญ
ขอรายงานพระองค์อย่าทรงเมิน

** องค์ราชาสมพระทัยในคำตอบ
ช่างรอบคอบด้วยปัญญาน่าสรรเสริญ
เหมาะเป็นปราชญ์มิถิลาเสียเหลือเกิน
ทรงชื่นชมเพลิดเพลินด้วยศรัทธา

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #6 เมื่อ: 31 มกราคม 2560, 08:47:56 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๕ พระมโหสถ ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๕  พระมโหสถ
ตอนที่ ๖  เข้าเฝ้าพระเจ้าวิเทหราช

** จอมบุรีมิถิลาคราครั้งนั้น
ทรงผูกพันค่ำเช้าเฝ้าปรารถนา
อยากให้มโหสถได้เข้ามา
เป็นหูตารับใช้ใกล้พระองค์

** จึงทรงมีรับสั่งให้เข้าเฝ้า
ในตอนเช้าวันหนึ่งซึ่งประสงค์
จะทดสอบเชาว์ปัญญาโดยเจาะจง
เจตจำนงให้เป็นปราชญ์รับราชการ

** มโหสถทราบเรื่องไม่เชื่องช้า
พร้อมบิดามุ่งสู่พระราชฐาน
อีกทั้งหมู่สหายบริวาร
เฝ้ากราบกรานแทบพระบาทหน้าอาสน์ทอง

** พระเจ้าวิเทหราชทรงเชื่อมั่น
พ่อแม่นั้นดีกว่าลูกย่อมถูกต้อง
เพราะท่านเป็นผู้ดูแลและปกครอง
คอยปกป้องแนะนำลูกทุกคน

** มโหสถทูลว่าน่าไม่ใช่
ลูกดีกว่าพ่อแม่ได้ในทุกหน
ขอยืนยันสิ่งนี้มีปะปน
ในกลุ่มของหมู่ชนบนโลก

** ฝ่ายนักปราชญ์ราชบัณฑิตคิดขัดแย้ง
เพราะแอบแฝงมีจิตริษยา
ในตัวมโหสถเจ้าปัญญา
ด้วยเกรงว่าจะมาแย่งตำแหน่งไป

** นักปราชญ์ที่กล่าวนี้มีสี่ท่าน
ประจำการราชสำนักอันยิ่งใหญ่
ที่ปรึกษาเจ้าบุรีที่เกรียงไกร
ซึ่งเก่งกว่าผู้ใดในแผ่นดิน

** ท่านผู้นี้มีชื่อว่า “เสนกะ”
อีกคนหนึ่ง “ปุกกุสะ” ดังถวิล
อีกคนเรียกขานชื่อคือ “กามินท์”
อีกคนชื่อ “เทวินท์” คู่หูกัน

** ไม่พอใจมโหสถที่ทักท้วง
ต่อองค์พระเจ้าหลวงครองเขตขัณฑ์
ตัวเป็นข้ามากล่าวแย้งองค์ราชัน
ช่างอวดดีเกินขั้นจะอภัย

** มโหสถผู้นี้ช่างยโส
ชอบคุยโวคุยโตเป็นนิสัย
องค์ราชาน่าขับไล่ไม่อาลัย
ยังอ่อนวัยไม่มีคารวะตา

** มโหสถยกตัวอย่างให้ได้เห็น
ดังเฉกเช่นการผสมพันธุ์อย่างไรหนา
ระหว่างสัตว์สองชนิดม้ากับลา
ออกลูกมาเป็นม้าอัสดร

** กราบบังคมล้นเกล้าเจ้าอยู่หัว
สัตว์สามตัวควรเลือกตัวไหนก่อน
เพราะเหตุใดจงแถลงเป็นขั้นตอน
ขออ้อนวอนพระองค์ทรงการุณ

** ท้าววิเทหราชองอาจยิ่ง
พระขวัญมิ่งผู้เอื้อเฟื้อและเกื้อหนุน
จึงตรัสว่าม้าอัสดรซิพ่อคุณ
งามละมุนสวยกว่าราคาแพง

** มโหสถจึงสรุปเป็นความว่า
ม้ากับลาคือแม่พ่อขอแถลง
มีลูกที่ดีกว่าอย่าเคลือบแคลง
ใช่กลั่นแกล้งพูดจามาล้อเลียน

** เปรียบดังเช่นมนุษย์ชาญฉลาด
ก็สามารถดีได้ด้วยอ่านเขียน
ฝึกสมองท่องจำทำความเพียร
ไม่เบียดเบียนใครใครให้เดือดร้อน

** อย่างนี้คือลูกที่ดีกว่าแม่พ่อ
ไม่ใช่คิดหยอกล้อและหลอกหลอน
ขอรับรองลูกอย่างนี้มีแน่นอน
ถวายพระพรขอพระองค์ทรงพระเจริญ

** เจ้าธานีมิถิลาทรงพระสรวล
เห็นดีด้วยทุกกระบวนไม่เคอะเขิน
คนผู้นี้สมควรจะชวนเชิญ
มาร่วมงานไม่ควรเมินปล่อยคนดี

** จึงทรงมีรับสั่งให้ปรากฏ
ข้าบริการทั้งหมดเป็นสักขี
ให้มโหสถปฏิบัติงานทันที
จนวันนี้เป็นข้าในพระองค์

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #7 เมื่อ: 31 มกราคม 2560, 08:51:56 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๕ พระมโหสถ ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๕  พระมโหสถ
ตอนที่ ๗  กิ้งก่าได้ทอง

** มโหสถจอมปราชญ์ราชบัณฑิต
ได้พิชิตพระทัยดังใจประสงค์
คอยติดตามรับใช้ไม่พะวง
หมายเจาะจงอยู่ใกล้ถวายงาน

** ณ วันหนึ่งพระเจ้าวิเทหราช
ได้เสด็จประพาสยังสถาน
ด้วยตั้งใจทอดพระเนตรอุทยาน
เพื่อให้ทรงสำราญสุขสบาย

** ที่ปลายเสาริมประตูใกล้ทางเข้า
มีกิ้งก่าคอยเฝ้าเช้าจนสาย
ผงกหัวขึ้นลงคงไม่อาย
เหมือนท้าทายให้รู้ดูแปลกดี

** ครั้นแล้วมันลงมาหาจอมนาถ
ที่พื้นดินใกล้พระบาทบนวิถี
คล้ายกับว่าสวามิภักดิ์องค์ภูมี
การกระทำเช่นนี้น่าสนใจ

** วิเทหราชตรัสถามมโหสถ
ดูภาพพจน์หมายว่าเป็นไฉน
เจ้ากิ้งก่าตัวนั้นทำอะไร
จงเล่าแจ้งแถลงไขให้เราฟัง

** มโหสถกราบทูลมูลแห่งเหตุ
ขอน้อมเกศทูลความตามรับสั่ง
กิ้งก่ามาคอยเฝ้าเจ้าเวียงวัง
ด้วยเคารพอย่างจริงจังต่อพระองค์

** พระราชาฟังคำน้อมนำกล่าว
ถึงเรื่องราวกิ้งก่าพาให้หลง
อยากจะให้สินน้ำใจใฝ่ดำรง
จึงตกลงมอบค่าเนื้อเพื่อทุกวัน

** ครั้นอยู่มาวันหนึ่งถึงวันพระ
หรือธัมมัสสวนะพาสุขสันต์
ชาวประชาไม่ฆ่าสัตว์โดยทั่วกัน
เนื้อขาดตลาดลงไปพลันวันฟังธรรม

** เจ้าหน้าที่ไม่มีเนื้อเผื่อกิ้งก่า
เอาเงินมาแขวนคอแทนแสนคมขำ
นับแต่นั้นกิ้งก่าน้อยลืมความจำ
ที่เคยทำกับราชาน่าอับอาย

** วันนั้นพระเจ้าวิเทหราช
จะเสด็จยุรยาตรดังมาดหมาย
จึงแต่งองค์ทรงเครื่องย่างเยื้องกราย
สู่อุทยานตอนสายให้ชุ่มเย็น

** ครั้นเสด็จถึงประตูดูจนทั่ว
มองหาตัวกิ้งก่าอยากจะเห็น
แต่มันกลับผงกหัวไม่เคยเป็น
น่าอนาถแสนเข็ญอนิจจา

** จึงตรัสถามโหสถโปรดขยาย
 อธิบายให้ด้วยช่วยเถิดหนา
เหตุใดที่ไม่เหมือนแต่ก่อนมา
ดูเฉยชาไม่สนใจในตัวเรา

** มโหสถจึงเล่าแจ้งแถลงไข
กิ้งก่าได้หยิ่งยโสเพราะโง่เขลา
มันถือว่ามีเงินเพลินมัวเมา
คิดว่าใหญ่กว่าใครเขาทั่วแผ่นดิน

** พระราชาสุดแค้นแสนพิโรธ
มันสุดโฉดแสนสาหัสตัดให้สิ้น
เงินค่าเนื้อริบให้หมดได้อดกิน
ให้สมกับที่หมิ่นองค์ราชา

** นี่คือบทเรียนสูงค่ายิ่ง
ใช้อ้างอิงสอนสั่งดังปรารถนา
คนที่ลืมหลงตนจนระอา
เปรียบกิ้งก่าได้ทองผยองตน

** การยกตนข่มท่านโบราณว่า
ขาดคนรักคนเมตตาพาหมองหม่น
คนรอบข้างชิงชังดังเดนคน
ชีวิตต้องอับจนตลอดกาล

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #8 เมื่อ: 01 กุมภาพันธ์ 2560, 10:54:57 AM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๕ พระมโหสถ ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๕  พระมโหสถ
ตอนที่ ๘  ฟ้ากับดิน

** ครั้นวันหนึ่งคนเก่งกล้ามโหสถ
ได้ติดตามพระทรงยศผู้ห้าวหาญ
เพื่อเสด็จเลียบเมืองเรืองตระการ
หวังเยี่ยมเยือนชาวบ้านรอบนคร

** พระนางอุทุมพรมเหสี
ทรงติดตามพระภูมีเหมือนครั้งก่อน
เห็นชายหนุ่มถางทางย่องย่างจร
จึงหัวเราะหวังขอดค่อนย้อนให้อาย

** ท้าววิเทหราชชาติกษัตริย์
ทรงกริ้วจัดขัดเคืองเรื่องโฉมฉาย
หัวเราะส่งเสียงดังนั่งยิ้มพราย
เป็นอะไรมากมายบรรยายมา

** อุทุมพรเทวีมีสัจจะ
ทูลหัวเราะ “ปิงคุตตะ” คนถางหญ้า
ชายคนนี้เป็นศิษย์เก่งของบิดา
ยกหม่อมฉันเป็นภรรยาด้วยหวังดี

** แต่ตัวเขารังเกียจเกลียดหม่อมฉัน
หลังจากนั้นพาเดินทางย่างวิถี
เมื่อมาถึงต้นมะเดื่อไม่รอรี
จึงรีบเผยวจีบังคับนาง

** ให้ปีนขึ้นไปอยู่บนคาคบ
แล้วหลีกหลบหนีไปจนไกลห่าง
พยายามปีนลงหมดหนทาง
จึงต้องค้างรอเวลากว่าจะตาย

** ด้วยเดชะผลบุญช่วยหนุนส่ง
มีพระองค์ช่วยไว้ไม่เสียหาย
ด้วยเมตตาปรานีมิวอดวาย
และสุดท้ายได้เป็นราชินี

** จึงรู้ว่าหม่อมฉันนั้นหลงผิด
ที่ได้คิดร่วมชายคาน่าบัดสี
ให้เขาทิ้งเสียชื่อไม่มีดี
ถึงวันนี้เห็นเขาเราสะใจ

** เคยคิดว่าเขาสำคัญอย่างที่สุด
จนเป็นยอดมนุษย์สุดยิ่งใหญ่
ถึงวันนี้จึงรู้เป็นอย่างไร
จึงหัวเราะออกไปอย่ากริ้วเลย

** ท้าววิเทหราชไม่อาจเชื่อ
คงจะเหลือความจริงสิ่งไม่เผย
ทิ้งหญิงงามอย่างนี้มีหรือเอย
มโหสถลองเผยเฉลยมา

** มโหสถน้อมกราบให้ทราบเกล้า
ผู้เป็นเจ้าชีวิตคิดหรรษา
เพื่อสนองความต้องการองค์ราชา
ได้ทรงทราบถึงคุณค่ายอดนารี

** อันสิริมงคลมากล้นค่า
เปรียบดังฟ้าสูงส่งดำรงศรี
ย่อมห่างไกลไปจากกาฬกัณณี
ดุจปฐพีต่ำกว่าฟากฟ้างาม

** พระนางอุทุมพรมีสิริ
สดใสไร้ตำหนิมิควรหยาม
ปิงคุตตะกาฬกัณณีเปรียบของทราม
พยายามอย่างไรไม่สัมพันธ์

** องค์ราชาพอพระทัยในคำกล่าว
มโหสถยกเรื่องราวใช่เสกสรร
จึงหายกริ้วอุทุมพรคู่ชีวัน
เหตุการณ์นั้นสมคำว่า “ฟ้ากับดิน”

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #9 เมื่อ: 26 มีนาคม 2560, 12:14:26 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๕ พระมโหสถ ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๕  พระมโหสถ
ตอนที่ ๙  ทรัพย์กับปัญญาอย่างไหนประเสริฐกว่ากัน

** ในวันหนึ่งถึงคราวเจ้าจอมราช
เกิดข้องใจในคำปราชญ์มิอาจสิ้น
จึงตรัสถามบัณฑิตแห่งธานิน
เป็นเพื่อนคิดคู่ชีวินสิ้นกาลนาน

** ท่านลองคิดปัญญาหรือว่าทรัพย์
สิ่งใดนับว่าประเสริฐเลิศมาตรฐาน
จงอ้างอิงสิ่งที่เห็นเป็นพยาน
รีบกล่าวขานพูดมาอย่าเฉยเมย

** สีบัณฑิตผู้เก่งกล้าปัญญาเลิศ
ความรอบรู้บรรเจิดรีบเปิดเผย
ทรัพย์ประเสริฐกว่าสิ่งใดในโลกเลย
พร้อมเฉลยเหตุผลของตนพลัน

** คนเรานี้มีตระกูลต่ำหรือสูง
จะเป็นยูงเป็นกาอย่าไหวหวั่น
มีหรือไร้การศึกษาไม่ต่างกัน
ต่างใฝ่ฝันความสุขกันทุกคน

** ไม่มีทรัพย์สับสนต้องทนทุกข์
ไม่สนุกเลยหนาพาหมองหม่น
ในที่สุดตกเป็นทาสเพราะความจน
ต้องอดทนรับใช้เขาจนเราตาย

** อันชนใดมีทรัพย์สินสิ้นทุกข์เข็ญ
แม้จะโง่ไม่ลำเค็ญเย็นเช้าสาย
สุขอาจิณกินอยู่ดูสบาย
ทรัพย์ประเสริฐมากมายดังกล่าวมา

** ถึงคราวที่มโหสถเอ่ยพจน์ไข
ตอบสนองผู้เป็นใหญ่ในปัญหา
เพื่อความรู้เพิ่มเติมเสริมศรัทธา
น้อมทูลเกล้าเจ้าพาราไม่ช้าที

** ปัญหานี้มีคุณค่าคณานับ
ถึงยากจนผลอาจกลับเป็นเศรษฐี
ความรู้รอบตอบสนองต้องได้ดี
ผู้ใดมีปัญญาน่าชื่นชม

** คนฉลาดเป็นอยู่รู้จักคิด
ใช้ชีวิตมีสาระจะเหมาะสม
ไม่มัวเมาหลงใหลใฝ่นิยม
ในอารมณ์ฝ่ายชั่วตัวทำลาย

** ไม่หลงติดในรูปรสกลิ่นเสียง
มีธรรมเคียงคู่ใจไม่แหนงหน่าย
ทำสิ่งที่มีประโยชน์ไม่งมงาย
เพียรขวนขวายทำกินไม่หมิ่นงาน

** เมื่อบังเกิดทุกข์ภัยก็ไม่พรั่น
สู้บากบั่นแก้ไขใจห้าวหาญ
ไม่ท้อถอยใช้ปัญญาฝ่าภัยพาล
จนพ้นผ่านวิกฤตพิชิตมัน

** คนไม่มีปัญญาน่าสงสาร
แม้มีทรัพย์มหาศาลไม่สุขสันต์
ประมาทใช้จนเพลินเกินจำนรรจ์
ไม่นานวันทรัพย์สินหมดรันทดทรวง

** ความพินาศฉิบหายมากรายกล้ำ
เพื่อตอกย้ำความโง่โซโชติช่วง
เหตุเกิดเพราะลำพองสมองกลวง
เป็นผลพวงให้ย่อยยับแสนอัปรีย์

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #10 เมื่อ: 26 มีนาคม 2560, 12:19:11 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๕ พระมโหสถ ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๕  พระมโหสถ
ตอนที่ ๑๐  เมียชาวนา

** มโหสถรับราชการสำราญยิ่ง
เจ้าเหนือหัวพร้อมขวัญมิ่งมเหสี
ให้ความรักความเมตตาและปรานี
นับเป็นน้องเป็นพี่มีน้ำใจ

** อุทุมพรเรียกน้องชายด้วยหมายมั่น
ผูกสัมพันธ์ดุจดังญาติปราศเงื่อนไข
จะเกื้อกูลอุ้มชูดูกันไป
หวังเพียงให้น้องชายสุขนิรันดร์

** ครั้นน้องชายได้ย่างเข้าวัยหนุ่ม
เกรงร้อนรุ่มเรื่องผู้หญิงแอบอิงฝัน
จึงดำริจะหานางคู่ชีวัน
เพื่อให้น้องสุขสันต์หรรษารมย์

** มโหสถทูลว่าตัวข้าขอ
หาคนที่ชอบพอและเหมาะสม
มาเป็นผู้รู้ใจใฝ่นิยม
ไว้ชื่นชมเคียงกายหมายเชิดชู

** อุทุมพรราชินีมิขัดข้อง
จงทำตามความคิดน้องผู้ครองคู่
เมื่อพบพานคนต้องจิตคิดเลี้ยงดู
พี่จะรับเป็นผู้สู่ขอนาง

** มโหสถไม่รอช้าบ่ายหน้ามุ่ง
ไปทิศเหนือของกรุงมุ่งสรรค์สร้าง
รีบไปยังจุดมุ่งหมายที่ปลายทาง
คือตอนกลางของหมู่บ้านย่านชุมชน

** พบนางหนึ่งพึงจิตพิสมัย
อรทัยเป็นชาวนาน่าฉงน
มีเรือนร่างโสภาช่างน่ายล
นฤมลแย้มยิ้มอิ่มอุรา

** ชื่อ “อมรกุมารี” สุดดียิ่ง
เป็นยอดหญิงแห่งแคว้นแสนสง่า
มโหสถรีบสู่ขอต่อบิดา
รับนางมาเป็นคู่อยู่เคียงใจ

** เมื่อบิดามารดาอนุญาต
รีบพานาฏกลับบุรีมิไถล
ครั้นเมื่อถึงเวียงทองผ่องอำไพ
ฝากนางไว้ที่ประตูผู้คุ้นเคย

** มโหสถคิดทดสอบเพื่อรอบรู้
ซึ่งนางคู่ชีวิตไม่คิดเฉย
เป็นอย่างไรใจคอเธอนะเอย
ขอทดสอบเพื่อเฉลยเผยความจริง

** ส่งชายที่เจ้าชู้ผู้เก่งกล้า
รู้มายาเชี่ยวชาญการจีบหญิง
สำเร็จไปทุกรายหมายพึ่งพิง
ช่วยลองจีบขวัญมิ่งดวงชีวี

** อมรกุมารีมิแยแส
ไม่คิดชายตาแลเอาแต่หนี
มิเคยคิดจะสนใจไม่ใยดี
เพราะนางมีรักให้เพียงชายเดียว

** มโหสถลองใช้อุบายใหม่
จึงบอกให้ฉุดคร่าน่าหวาดเสียว
แล้วรีบนำนางมาอย่าช้าเชียว
อย่าลดเลี้ยวชักช้าข้าจะรอ

** นางจำชายสามีนางมิได้
จึงหัวเราะแล้วร้องไห้แปลกจริงหนอ
มโหสถเอ่ยถามถึงต้นตอ
เป็นอย่างไรเราขอให้ชี้แจง

** เราหัวเราะเพราะชื่นชมบุญตัวนัก
ได้เห็นวังที่น่ารักและสีแสง
เจริญตาเจริญหูดูเหลืองแดง
เป็นบุญแห่งตัวข้าได้มายล

** ที่ร้องไห้เพราะสงสารตัวท่านมาก
จะตกยากในอเวจีที่หมองหม่น
ถูกเผาไหม้เร่าร้อนสุดผ่อนปรน
ต้องสู้ทนนานนับชั่วกัปกัลป์

** เป็นเพราะว่าเรามีสามีแล้ว
เปรียบเขาเป็นดวงแก้วหฤหรรษ์
ท่านล่วงเกินจะตกนรกพลัน
ผิดลูกเมียเขานั้นบาปเกาะกิน

** มโหสถยินดีปรีดาแสน
ดุจนางฟ้าจากเมืองแมนแสนถวิล
บริสุทธิ์ผ่องใสไร้ราคิน
ชั่วชีวินรักนางไม่ห่างไกล

** ขออนุญาตอุทุมพรมเหสี
จัดขบวนรับนารีอย่างยิ่งใหญ่
เป็นคู่คิดคู่บารมีตลอดไป
รักนวลใยขวัญตากว่าจะตาย

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #11 เมื่อ: 26 มีนาคม 2560, 12:22:29 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๕ พระมโหสถ ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๕  พระมโหสถ
ตอนที่ ๑๑  ข้อหาเป็นกบฎ

** ปุโรหิตทั้งสี่มีอคติ
คอยตำหนิด้วยจิตคิดมุ่งหมาย
ใส่ความมโหสถหมดความอาย
ว่ากบฏมุ่งทำร้ายต่อราชา

** มโหสถคิดว่าถ้าขืนอยู่
คงถูกผู้มีอำนาจวาสนา
จับประหารเพราะหลงในถ้อยวาจา
ของปุโรหิตผู้อิจฉามาเกลียดชัง

** จึงหลบหนีมุ่งประตูด้านทิศใต้
เพื่อจะไปบ้านช่างหม้อพอมีหวัง
ได้รอดตายหมายพึ่งประหนึ่งรัง
เปรียบดุจดังนกกาบินหาคอน

** ที่บ้าน “ทักษิณวยมัชฌคาม”
ขออยู่ตามประสาพาทอดถอน
ร้อนถึงเทวดาพาร้าวรอน
ต้องดับร้อนผ่อนปรนจนคลี่คลาย

** จึงไปเฝ้าท้าววิเทหราช
ที่หน้าอาสน์เกริกไกรในตอนสาย
เพื่อจะถามปัญหาหวังท้าทาย
มีนักปราชญ์มากมายให้ตอบมา

**ใครเอ่ยยิ่งต่อยตียิ่งเป็นที่รัก
ยิ่งตระหนักรักเขาเฝ้าปรารถนา
ไม่เคยคิดจะลืมเขาแม้สักครา
รักเท่าดินเท่าฟ้ามารวมกัน

** จึงมอบให้ทั้งสี่ปุโรหิต
ช่วยกันคิดตอบปัญหาพาสุขสันต์
คนทั้งสี่ตอบไม่ได้น่าอายครัน
คงโดนคนเย้ยหยันกันทั้งเมือง

** เทวดาจึงบอกให้พามโหสถ
มาตอบถ้อยร้อยพจน์ให้รู้เรื่อง
จงรีบตามเขามาอย่าขุ่นเคือง
เพื่อจะได้ประเทืองเรืองปัญญา

** อำมาตย์จึงรีบไปบ้านช่างหม้อ
ไม่รีรอบอกเรื่องราวกล่าวกถา
ให้มโหสถรู้ความตามวาจา
ของเทพไทเทวามาถามไว้

** มโหสถนั่งปั้นหม้อมิรอช้า
มิผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าที่สวมใส่
มีร่างกายเลอะเทอะด้วยเหงื่อไคล
ก็มิคิดสนใจรีบไคลคลา

** วิเทหราชมองเห็นมโหสถ
จึงรู้ว่าไม่กบฏดังกล่าวหา
มโหสถรีบกราบทูลองค์ราชา
เกรงจะช้าเสียการงานสำคัญ

**  ตอนที่ลูกเด็กเด็กยังเล็กนัก
แม่ฟูมฟักให้ดื่มนมจากถัน
ใช้เท้าถีบมือตีทุกวี่วัน
แม่จำนรรจ์บอกว่าน่ารักจัง

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #12 เมื่อ: 26 มีนาคม 2560, 12:24:55 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๕ พระมโหสถ ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๕  พระมโหสถ
ตอนที่ ๑๒  ผูกมิตร

** ท้าววิเทหราชชาติกษัตริย์
ผู้ครองรัฐมิถิลาพาสุขัง
ทรงโปรดปรานมโหสถหมดชิงชัง
ไม่อีนังการยุยงหลงวาจา

** ได้มอบหมายราชกิจมีสิทธิ์ขาด
พร้อมทั้งมีอำนาจสางปัญหา
แต่งตั้งให้สอนธรรมจำนรรจา
แก่องค์พระราชาฟังตามกาล

** มโหสถทำหน้าที่อย่างดียิ่ง
ผลดีจริงเกริกไกรแผ่ไพศาล
ได้ติดต่อต่างเมืองเรืองโอฬาร
เพื่อทำการค้าขายหมายกำไร

** พวกพ่อค้าวาณิชคิดหมายมั่น
นำสินค้าแลกเปลี่ยนกันไม่หวั่นไหว
ความเจริญรุ่งเรืองประเทืองใจ
เกิดขึ้นในราชธานีบุรีรมย์

** มโหสถได้ชี้แนะแก่จอมราช
ด้วยมุ่งมาดป้องกันภัยใฝ่สุขสม
ทำเครื่องราชูปโภคโลกชื่นชม
มีคุณค่าเอกอุดมมอบทุกเมือง

**เครื่องราชูปโภคมีสี่ชนิด
ช่างสวยงามวิจิตรจนลือเลื่อง
ประกอบด้วย “กุณฑล” ยลรองเรือง
ประดับหูฟูเฟื่องเรืองวิไล

** อีก “ฉลองพระบาท” หรือรองเท้า
สวยไม่เบา “ดอกไม้ทอง” งามผ่องใส
“พระแสงขรรค์” อีกอย่างช่างไฉไล
รวมกันได้เป็นสี่ที่คู่ควร

** พระองค์จงสลักพระนามไว้
แล้วมอบให้นักรบจนครบถ้วน
นำไปมอบถวายดังใคร่ครวญ
หนึ่งร้อยเอ็ดตามจำนวนเจ้านคร

** แล้วมอบให้นักรบครบทั้งสิ้น
มอบดวงจินต์อยู่รับใช้ไม่ถ่ายถอน
อยู่ที่เมืองเหล่านั้นไม่ผันจร
กลับมายังเมืองนอนบ้านเกิดตน

** หวังจะให้พวกเขาเป็นตาหู
ได้รับรู้เรื่องต่างต่างไม่ตกหล่น
เป็นไส้ศึกสอดส่องผองเล่ห์กล
ของราชาทุกคนผลอนันต์

** ผู้ใดคิดไม่ดีตีตนห่าง
จะเข้าใจกระจ่างทุกสิ่งสรรพ์
เมื่อรู้ก่อนแก้ไขได้โดยเร็วพลัน
เหตุการณ์ไม่คับขันแก้ทันการ

** นับว่าเป็นความคิดจิตฉลาด
ของนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ในราชฐาน
มโหสถคนซื่อสัตย์คอยจัดการ
ให้ภูบาลจอมบดีผู้มีบุญ

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #13 เมื่อ: 26 มีนาคม 2560, 12:29:21 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๕ พระมโหสถ ***


[/url]


พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๕  พระมโหสถ
ตอนที่ ๑๓  วางแผนรบ

** ในบรรดาร้อยเอ็ดเมืองเลื่องลือชื่อ
หนึ่งนั่นคือจุลลนีที่ว้าวุ่น
แสวงหาอำนาจมาค้ำจุน
สนองคุณของกิเลสเหตุภัยพาล

** ตามคำกราบบังคมทูลปุโรหิต
ปิยะมิตร “เกวัฏฏะ” ผู้กล้าหาญ
ให้รวบรวมเป็นหนึ่งพึงสำราญ
เป็นเมืองขึ้นบริวารของเมืองเรา

** ในที่สุดจุลลนีทำสำเร็จ
หนึ่งร้อยเอ็ดพาราถึงคราเศร้า
ต้องตกเป็นเมืองขึ้นถึงมึนเมา
แสนอับเฉาเกินกว่าคราครั้งใด

** ส่วนมิถิลากล้าหาญชาญฉลาด
ไม่สามารถตีเอาเขายิ่งใหญ่
จึงล้อมเมืองเคืองขุ่นว้าวุ่นใจ
ทำอย่างไรจะตีได้เฝ้าใคร่ครวญ

** พระเจ้าวิเทหราชอาจหาญกล้า
ให้มโหสถตรวจตราในทุกส่วน
ทั้งรุกรับกลวิธีที่สมควร
ตามกระบวนกลศึกฮึกเหิมครัน

** ในขั้นแรกส่งสายลับคอยจับผิด
ที่กองทัพปัจจามิตรคิดหยามหยัน
สืบดูข่าวความเคลื่อนไหวในทัพนั้น
เพื่อแก้ไขได้ทันไม่เสียการ

** ขั้นที่สองรอบกำแพงให้ปลูกข้าว
เพื่อบอกกล่าวศัตรูรู้ข่าวสาร
ว่าเมืองมิถิลาสุขสำราญ
มีข้าวปลาอาหารแสนอุดม

** ขั้นที่สามให้คัวทรายและน้ำโคลน
เทใส่พวกห้อยโหนให้สามสม
ปีนกำแพงเพื่อเข้าวังหวังรื่นรมย์
ได้ชื่นชมสมบัติขัตติยา

** ขั้นที่สี่ให้ชาวเมืองมารวมกลุ่ม
ร่วมชุมนุมบรรเลงเพลงเริงร่า
พากันเลี้ยงอาหารและข้าวปลา
เพื่อต้องการแสดงว่าอย่าวุ่นวาย

** ฝ่ายท้างจุลลนีกรีฑาทัพ
หมายจะจับวิเทหราชดังมาดหมาย
ถ้าจับได้จะเหยียบย่ำและทำลาย
เราจะฆ่าให้ตายแล้วยึดเมือง

** ฝ่ายทหารในกำกับมโหสถ
ไม่ละลดตอบโต้ได้ใจฟูเฟื่อง
ใช้กลยุทธกลวิธีมิสิ้นเปลือง
ชีวิตพลเมืองชาวมิถิลา

** ในที่สุดจุลลนีต้องหนีพ่าย
แตกกระจายกลับไปไม่เป็นท่า
ทั้งหมดนี้ไปได้สวยด้วยปัญญา
มโหสถสร้างสรรค์มาสนองคุณ

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #14 เมื่อ: 26 มีนาคม 2560, 12:32:06 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๕ พระมโหสถ ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๕  พระมโหสถ
ตอนที่ ๑๔  ศัตรูกลับเป็นมิตร

** จุลลนีและวิเทหราช
เป็นคู่แค้นอาฆาตที่คุกกรุ่น
เหมือนถ่านร้อนรอเวลาลุกเป็นจุณ
เมื่อได้รับแรงหนุนจากเชื้อเพลิง

** มโหสถอยากเป็นมิตรคิดหย่าศึก
ด้วยปัญญาล้ำลึกนึกคิดใหม่
สองธานีผูกสัมพันธ์กันวันใด
เกิดความสุขที่ยิ่งใหญ่ในแผ่นดิน

** มโหสถเป็นสื่อกลางสางปัญหา
ที่บังเอิญเกิดมาจนหมดสิ้น
ได้เสริมสร้างความปรองดองสองธานิน
ชนทั่วถิ่นยินดีและปรีดา

** จุลลนีสร้างสัมพันธ์ฉันมิตรแท้
มอบให้แก่วิเทหราชดังปรารถนา
ยก “ปัญจาลจันที” ที่โสภา
ผู้เป็นราชธิดาของพระองค์

** ให้เป็นมเหสีจอมกษัตริย์
ผู้เป็นฉัตรมิถิลาวาสนาส่ง
วิเทหราชทรงโปรดปรานยอดอนงค์
มีโอรสสืบสันตติวงศ์ต่อกันไป

** ครั้นวิเทหราชสวรรคต
พระโอรสอภิเษกขึ้นเป็นใหญ่
มโหสถกราบลาเพื่อคลาไคล
สัญญาใจมีไว้ให้จุลลนี

** พระองค์เคยทรงชวนไปอยู่ด้วย
จะชูช่วยให้สบายไม่หน่ายหนี
มอบยศถาบรรดาศักดิ์ให้ได้ดี
ความมั่งมีทรัพย์สินศฤงคาร

** มโหสถจึงกราบทูลพระองค์ว่า
ขอเป็นข้าวิเทหราชผู้อาจหาญ
ไปจนกว่าพระองค์ทรงวายปราณ
จึงจะยอมถวายงานการทั้งปวง

** พระเจ้าจุลลนีดีใจนัก
ต้อนรับให้พึ่งพักอย่างใหญ่หลวง
พร้อมบริวาร ภรรยา น่าชื่นทรวง
ทรงรักห่วงคนผู้นี้เท่าชีวา

** พระราชทานบ้านเรือนเหมือนกับญาติ
พร้อมข้าทาสสินทรัพย์นับสูงค่า
หมู่บ้านแปดสิบตำบลชนพัฒนา
เพื่อดำรงชีวาอย่างแยบยล

** มโหสถรับราชการงานทั้งหลาย
ด้วยมุ่งหมายสร้างสุขในทุกหน
ไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อยปวดเมื่อยตน
ชาวประชาทุกคนสุขสำราญ

** อยู่กับจุลลนีมีความสุข
ปราศจากทุกข์จนชีวิตอวสาน
มีปัญญาเป็นอาวุธตลอดกาล
สร้างประโยชน์อันยาวนานชั่วชีวิน

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

หน้า: [1] 2   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: