-/> *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๒ พระมหาชนก ***

หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๒ พระมหาชนก ***  (อ่าน 12951 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 09:26:29 PM »

Permalink: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๒ พระมหาชนก ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๒  พระมหาชนก
บทนำ

** เมื่อพระโพธิสัตว์เสวยพระชาติ
เป็นจอมราชมหาชนกผู้ยิ่งใหญ่
บำเพ็ญเพียรบารมีอย่างเกรียงไกร
ว่ายน้ำในมหาสมุทรสุดเดียวดาย

** คราวที่ได้เดินเรือทำการค้า
ต้องลอยคอในธาราไร้ที่หมาย
ตอนที่เรืออับปางแทบวางวาย
ชีพเกือบจะสลายกลางสายชล

** พระชาตินี้ทรงบำเพ็ญบารมี
เป็นส่วนที่เสริมสร้างทางกุศล
คือวิริยะหรือความเพียรที่ต้องทน
แต่ดอกผลหอมหวานซ่านซึ้งจินต์

** เป็นแบบอย่างที่ดีควรศึกษา
เพื่อนำมาปฏิบัติดังถวิล
จะประสบความสำเร็จชั่วชีวิน
การทำมาหากินจะรุ่งเรือง

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #1 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 09:33:05 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๒ พระมหาชนก ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๒  พระมหาชนก
ตอนที่ ๑  ลูกกำพร้า

** ในชาตินั้นทรงเป็นพระโอรส
พระทรงยศจอมกษัตริย์ที่ฟูเฟื่อง
“อริษฐชนก” ผู้ครองเมือง
มิถิลาประเทืองของผู้คน

** ขณะที่ยังอยู่ในพระครรภ์
พระบิดาออกโรมรันโกลาหล
กับอนุชา “โปลชนก” จนวายชนม์
พระมารดาต้องดั้นด้นหนีจากวัง

** ทรงลี้ภัยที่เมืองกาฬจำปาก์
ไกลจากเมืองมิถิลาสุดเสียงสั่ง
ทรมานวรกายเหลือกำลัง
เพียงความหวังให้รอดจากศัตรู

** ในวันหนึ่งทรงประทับที่ศาลา
ริมทางเดินไปมาเพราะหดหู่
ในวาสนาของตนทนคิดดู
หมดอาลัยไม่รู้จะพึ่งใคร

** โอ้ชะตาเรานี้มีแต่เศร้า
เป็นกรรมเก่าสร้างมาแต่ปางไหน
จึงต้องทนทุกข์ยากจากมาไกล
โธ่กระไรชีวิตอนิจจัง

** ในขณะที่จิตใจเกิดเศร้าโศก
พราหมณ์ทิศาปาโมกข์วิชาขลัง
เห็นพระนางนั่งเศร้าเพียงลำพัง
เข้าไปนั่งใกล้ใกล้สอบถามนาง

** ครั้นได้สนทนาพาทีกัน
จึงรู้เรื่องสำคัญทุกทุกอย่าง
เกิดเห็นใจสงสารไม่จืดจาง
คิดหาทางช่วยเหลือและเกื้อกูล

** รับนางไว้ในฐานะของน้องสาว
มาถึงคราวความดีมิสิ้นสูญ
ได้ที่พักที่อาศัยคนเกื้อกูล
บริบูรณ์ด้วยความสุขตามอัตตา

** ครั้นไม่นานต่อมามเหสี
ก็ทรงมีประสูติกาลโอรสา
ช่างน่ารักน่าชังเต็มประดา
พระมารดาชื่นชมสุขสมใจ

** ทรงตั้งชื่อว่าพระมหาชนก
โดยหยิบยกชื่อปู่มาตั้งให้
เพราะระลึกถึงความหลังที่ผ่านไป
พระโอรสเป็นสายใยคอยผูกพัน

** เมื่อพระโอรสเจริญวัยไปตามกาล
ทรงวิ่งเล่นในหมู่บ้านอย่างสุขสันต์
มีเพื่อนอยู่มากมายคอยจำนรรจ์
ทุกทุกวันเฮฮาไปตามวัย

** บางครั้งมีทะเลาะตามประสา
เพื่อนเรียกเด็กกำพร้ายังสงสัย
จะดีหรือว่าร้ายมีทุกข์ภัย
ยังเป็นเลศนัยอยู่ทุกวัน

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #2 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 09:38:54 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๒ พระมหาชนก ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๒  พระมหาชนก
ตอนที่ ๒  เตรียมแก้แค้น

** พระกุมารเฝ้าทูลถามพระมารดา
ถึงความหมายของกำพร้าอย่างแข็งขัน
มีเหตุผลเป็นไปอย่างไรกัน
อ้อนวอนแม่ช่วยจำนรรจ์ให้ลูกฟัง

** พระมารดานิ่งเงียบไม่เปิดเผย
ไม่ยอมเอ่ยถ้อยคำถึงความหลัง
กลัวโอรสมีปมด้อยคอยระวัง
เกิดพลาดพลั้งพูดออกมาจะเสียใจ

** ฝ่ายมหาชนกราชกุมาร
เฝ้าครุ่นคิดมานานทำไฉน
ให้มารดาทรงเล่าความเป็นไป
เพื่อจะได้รู้ความจริงสิ่งเกิดมา

** จึงคิดหาอุบายล้วงความลับ
เพื่อระงับข้อสงสัยในปัญหา
ที่คาอกหมกหมมในอุรา
จนตลอดเวลามานมนาน

** ครั้นวันหนึ่งทะเลาะกับเพื่อนเพื่อน
กลับมาเรือนขอดูดนมแม่ท่าน
พระนางก็ยอมให้ตามต้องการ
พอแม่เผลอกลับรุกรานกัดหัวนม

** ทั้งทั้งที่ก็รู้ว่าแม่เจ็บ
ต้องทนเก็บความรู้สึกอันขื่นขม
ที่ต้องทำให้แม่ร้าวระบม
เพราะอยากฟังคารมเรื่องกำพร้า

** .ในที่สุดพระนางต้องจำนน
เล่าเรื่องคนผู้เป็นพ่อดังปรารถนา
นับตั้งแต่เริ่มต้นของราชา
อริษฐชนกพระบิดาจนเสียเมือง

** เกิดพลาดพลั้งเสียทีแก่น้องชาย
ถูกฆ่าตายกลางสนามรบจนลือเลื่อง
ตัวของแม่สุดแสนจะแค้นเคือง
มันเป็นเรื่องต้องจดจำจนวันตาย

** นับตั้งแต่วันนั้นมหาชนก
ไม่หยิบยกเรื่องนี้มาขยาย
เพื่อนจะเรียกอย่างไรไม่เขินอาย
ไม่กริ้วโกรธโวยวานประการใด

** ประการเดียวทรงครุ่นคิดเป็นอย่างหนัก
คือแก้แค้นให้ประจักษ์ไม่หวั่นไหว
เอาเมืองคืนจากท่านอาโดยเร็วไว
ไม่เกรงกลัวใครใครชีพยอมพลี

** ด้วยเหตุนั้นตั้งพระทัยใฝ่ศึกษา
ศิลปะวิทยาไม่หน่ายหนี
จวบจนมีพนระชนม์สิบหกปี
ศึกษาจบพอดีวิชาครู

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #3 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 09:43:46 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๒ พระมหาชนก ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๒  พระมหาชนก
ตอนที่ ๓  ออกเดินทาง

** พระมหาชนกตั้งใจว่า
จะไปเมืองมิถิลาหวังต่อสู้
เพื่อแก้แค้นท่านอาผู้ศัตรู
แทนบิดาที่อยู่ทิพย์วิมาน

** เดินทางได้เร็วสุดคือทางเรือ
ท่องทะเลสุขเหลือชวนเสียวซ่าน
ยามเมื่อเรือโต้คลื่นแสนชื่นบาน
คงสราญรื่นรมย์ที่กลางทาง

** พระมหาชนกคิดขายค้า
เพื่อจะมีเงินมาช่วยเสริมสร้าง
ฐานะด้านการเงินที่เบาบาง
ทำสงครามได้อย่างสบายใจ

** จึงปรึกษาหารือผู้เป็นแม่
ที่รักลูกแน่แท้และยิ่งใหญ่
ไม่สามารถเปรียบเทียบกับอะไร
สละได้แม้ชีวิตเพื่อลูกตน

** พระมารดาฟังแล้วทรงเห็นด้วย
คงจะช่วยทำสงครามอย่างได้ผล
ชมลูกชายช่างคิดอย่างแยบยล
ขอกุศลผลบุญช่วยหนุนนำ

** ท่านทิศาปาโมกก็ส่งเสริม
ได้เพิ่มเติมกลยุทธสุดคมขำ
พระโอรสฟังแล้วทรงจดจำ
เพื่อจะไม่เพลี่ยงพล้ำทำให้อาย

** พระนางจึงประทานทรัพย์สินให้
เพื่อจะได้เริ่มต้นการค้าขาย
เชื่อมั่นความตั้งพระทัยของลูกชาย
ที่ขวนขวายกู้เมืองกลับคืนมา

** ครั้นเมื่อพระมาดาทรงเห็นด้วย
พร้อมทั้งช่วยเงินทุนแสนเริงร่า
จะต้องลองทำศึกดูสักครา
ให้ประจักษ์แก่สายตาของชาวเมือง

** พระมหาชนกเตรียมสินค้า
มีเสื้อผ้าแพรพรรณอันลือเลื่อง
ทั้งของใช้จำเป็นที่ฝืดเคือง
พร้อมทั้งเครื่องยังชีพที่สำคัญ

** เมื่อพร้อมแล้วกราบลามารดาท่าน
ไม่รอให้เวลาผ่านด้วยมุ่งมั่น
พร้อมด้วยเพื่อนพ่อค้ากลุ่มเดียวกัน
รีบผายผันออกเรือเจ็ดร้อยลำ

** ขณะที่มิถิลาในวันนั้น
องค์ราชันโปลชนกทุกข์กระหน่ำ
ทรงประชวรหนักมากสุดระกำ
โรคภัยทำให้ผ่ายผอมนอนตรอมตรม

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #4 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 09:48:17 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๒ พระมหาชนก ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๒  พระมหาชนก
ตอนที่ ๔  ภัยกลางทะเล

** ขบวนเรือสินค้ามุ่งหน้าจ้อง
มิถิลาที่หมายปองต้องสุขสม
กางใบให้เรือแล่นไปตามลม
ช่างรื่นรมย์ท่ามกลางสายธารา

** เรือโต้คลื่นเป็นละลอกแตกฟองฝอย
ปลาตัวน้อยแหวกว่ายดูหรรษา
โลมาเป็นคู่คู่ดูงามตา
ฝูงนกร่อนโฉบไปมาหาเหยื่อกิน

** ครั้นผ่านไปสามวันก็เกิดเหตุ
เป็นอาเพศของคนที่ไกลถิ่น
เกิดพายุกระหน่ำเรือพังภินท์
ชวนให้สิ้นอาลัยไม่พ้นตาย

** พวกพ่อค้าตกใจกลัวจนตัวสั่น
ร้องดังลั่นร่ำหาพาใจหาย
เสียงระงมเพราะความกลัวร้องโวยวาย
อย่างไม่อายดาวดินจะนินทา

** คนที่มีสติยกมือไหว้
สิ่งศักดิ์สิทธิ์เทพไทในเวหา
จงได้ช่วยป้องกันภัยนานา
ให้ลูกยาปลอดภัยในครั้งนี้

** พระมหาชนกไม่หวั่นไหว
เตรียมพร้อมว่ายน้ำไปอย่างเต็มที่
เมื่อเรือใกล้อับปางไม่รอรี
เริ่มวิธีช่วยตนไม่ลนลาน

** เอาน้ำอ้อยมาคลุกกับเนยใส
เสวยแล้วชื่นใจมหาศาล
แล้วหยิบผ้าสองผืนมาจัดการ
ชุบน้ำมันไม่ทันนานเปียกชุ่มเลย

** เสร็จแล้วทรงนุ่งอย่างมุ่งมั่น
อีกผืนคาดเอวพลันไม่นิ่งเฉย
เรือใกล้จมน้ำแล้วโอ้อกเอย
ไม่เฉยเมยปีนเสากระโดงเรือ

** แล้วจ้องดูที่ตั้งแห่งวังหลวง
ที่หมายทวงบัลลังก์อย่างล้นเหลือ
กำหนดทิศทางได้ไม่คลุมเครือ
กระโดดลงน้ำเพื่อหนีให้ไกล

** การอยู่ห่างบริเวณที่เรือล่ม
จะพ้นคมฟันฉลามตัวยาวใหญ่
พวกพ่อค้ารายอื่นเป็นเหยื่อไป
หรือจมน้ำทันใดจบชีวัน

** วันที่เรืออับปางเป็นลางร้าย
ชาวมิถิลาทั้งหลายต้องโศกศัลย์
พระเจ้าโปลชนกองค์ราชัน
ก็ถึงวันสวรรคตหมดลมปราณ

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #5 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 09:51:11 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๒ พระมหาชนก ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๒  พระมหาชนก
ตอนที่ ๕  ผู้ช่วยเหลือ

** พระมหาชนกทรงว่ายน้ำ
ใจก็คร่ำครวญหามารดาท่าน
จงปกปักรักษาดลบันดาล
ให้รอดพ้นภัยพาลในทะเล

** มองซ้ายขวาหน้าหลังช่างเวิ้งว้าง
ไม่มีเพื่อนร่วมทางแสนว้าเหว่
เห็นแต่น้ำจรดฟ้าสุดคะเน
เกินถ่ายเทความเศร้าให้บรรเทา

** หวนคำนึงถึงบ้านและท่านแม่
จะเหลียวแลทางไหนก็เงียบเหงา
ป่านฉะนี้จะมีใครคิดถึงเรา
เพราะพวกเขาต่างอยู่สุขสบาย

** ว่ายน้ำในมหาสมุทรสุดลึกเหลือ
ตั้งแต่เรืออับปางแตกสลาย
ต้องอาศัยความเพียรอย่างมากมาย
เอาแต่ว่ายถึงเจ็ดทิวาวาร

** ก็พอดีเป็นวันอุโบสถ
บ้วนพระโอษฐ์เตรียมงดอดอาหาร
ทำจิตให้ผ่องใสใจเบิกบาน
สมาทานศีลแปดด้วยเคยชิน

** ในวันนั้นนางมณีเมขลา
เทพธิดาผู้เฝ้ากระแสสินธุ์
ต้องคอยดูทะเลเป็นอาจิณ
โฉมยุพินมองเห็นคนลอยคอ

** จึงเหาะเข้าไปหาเพื่อถามทัก
ให้ประจักษ์ว่าเหตุไฉนหนอ
จะรีบช่วยทันทีมิรั้งรอ
เพียงแต่ขอให้ปลอดภัยในวารี

** พระมหาชนกรีบแหงนหน้า
เมื่อได้ยินเสียงถามมาอย่างเร็วรี่
จึงทรงรีบตอบคำนางมณี
ไปตามที่เหตุการณ์ได้ผ่านมา

** ที่ว่ายน้ำอยู่อย่างนี้เพราะเชื่อมั่น
ว่าสักวันคงสมปรารถนา
ความเพียรพยายามจักช่วยพา
ให้ตัวข้าสมหวังดังตั้งใจ

** นางมณีเมขลาสงสสารยิ่ง
เราจักทำความจริงให้ยิ่งใหญ่
ได้เห็นว่าความเพียรดีอย่างไร
เหาะลงไปอุ้มขึ้นมาแนบอกตน

** เปรียบดังมารดาประคองบุตร
แล้วรีบรุดเหาะไปไม่หมองหม่น
มุ่งมิถิลานครแหล่งรวมคน
ซึ่งเป็นเมืองบรรพชนของภูธร

** พระมหาชนกอ่อนเพลียมาก
อันเกิดจากว่ายน้ำไม่หยุดหย่อน
พร้อมทั้งต้องอดหลับขับตานอน
รวมเจ็ดวันตะลอนไม่หยุดเลย

** จึงได้เผลอหลับไปในอ้อมแขน
เป็นบุญแสนคล้ายประทับกับเขนย
น้ำใจเอื้ออารีน่าชมเชย
แม่คุณเอ๋ยช่างซาบซึ้งตรึงอุรา

** นางมณีจึงเหาะไปที่สวน
หอมอบอวลด้วยกลิ่นมวลบุปผา
จึงวางบนแท่นหินเมืองมิถิลา
แล้วมอบเทวดาดูแลแทน

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #6 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 09:55:53 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๒ พระมหาชนก ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๒  พระมหาชนก
ตอนที่ ๖  เจ้าหญิงสิวลี

** พระเจ้าโปลชนกจอมกษัตริย์
ผู้ครองรัฐมิถิลาสง่าแสน
มีธิดางามกว่าใครในดินแดน
ทุกแว่นแคว้นเลื่องลือระบือไกล

** เปรียบดังนางอัปสรในฟากฟ้า
ได้จุติลงมาให้หวั่นไหว
ทรงพระนามสิวลีผ่องอำไพ
แม้นชายใดได้เห็นเป็นบุญตา

** แต่ยังไม่มีคู่ตุนาหงัน
เฝ้ารอวันผู้มีวาสนา
เป็นเนื้อคู่สู่สมภิรมยา
ครองพาราด้วยกันจนวันตาย

** พระราชาได้กำหนดคุณสมบัติ
ไว้แน่ชัดสี่ประการเป็นเป้าหมาย
ผู้ใดผ่านจะขอมอบใจกาย
ให้ผู้ชายโชคดีที่มีบุญ

** ข้อที่หนึ่งจะต้องรูปลักษณ์ดี
เมื่ออยู่ใกล้จะมีความอบอุ่น
ทำให้นางโปรดปรานเอื้อการุณ
ยอมเป็นผู้ร่วมหุ้นชีวิตกัน

** หรือข้อสองต้องมีความรอบรู้
การเป็นอยู่ในวังดังมุ่งมั่น
รู้ทิศทางหัวนอนสิ่งสำคัญ
คือบังลังก์สุวรรณอันสุนทร

** หรือข้อสามมีพลังดังช้างสาร
เพื่อทำการยกธนูหรือลูกศร
ต้องใช้คนหนึ่งพันหาบและคอน
หากได้โฉมงามงอนพร้อมวิวาห์

** หรือข้อสี่มีความรู้เป็นพิเศษ
รู้จักเขตเป็นแหล่งเก็บรักษา
ซึ่งทรัพย์สินสิบหกแห่งในพารา
อย่ารอช้ารีบเฉลยเอ่ยวจี

** ถ้าถึงพร้อมคุณสมบัติในข้อใด
อรไทจอมนางไม่หน่ายหนี
จะทรงยอมอภิเษกในทันที
ได้เป็นจอมบดีครอบครองเมือง

** เมื่อพระเจ้าโปลชนกสวรรคต
ไม่ปรากฏผู้ที่จะสืบเนื่อง
ให้บัลลังก์คงมั่นและรุ่งเรือง
มีศัตรูนองเนืองหวังครอบครอง

** หมู่อำมาตย์จึงพร้อมใจให้ประกาศ
ผู้มีความสามารถไม่เป็นสอง
ซึ่งทำให้เจ้าหญิงหันมามอง
ทรงโปรดปรานและยกย่องสมชายชาญ

** ไม่ปรากฏว่ามีใครทำได้
จึงสั่งให้ค้นหาผู้ห้าวหาญ
ในคุณสมบัติอีกสามประการ
ผู้ที่ผ่านได้เป็นองค์ราชัน

** ยกธนูและชี้ขุมทรัพย์ใหญ่
ถ้าทำได้จะต้องมีสุขสันต์
รู้หัวนอนของบัลลังก์ก็เหมือนกัน
ชั่วชีวันรมย์รื่นชื่นในทรวง

** แต่ไม่มีชายใดผ่านทดสอบ
ตามระบอบจึงว่างพระเจ้าหลวง
มิถิลาตอนนี้ปล่อยตามดวง
แม้แสนห่วงเพียงใดก็จำทน

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #7 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 10:00:20 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๒ พระมหาชนก ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๒  พระมหาชนก
ตอนที่ ๗  เจ้าชายในอุทยาน

** อันบัลลังก์ที่ไร้ซึ่งกษัตริย์
เศวตฉัตรไร้ผู้ครองต้องหมองหม่น
เปรียบดังเรือหางเสือหักจักอับจน
หลีกไม่พ้นต้องอับปางอย่างแน่จริง

** พวกอำมาตย์ราชมนตรีรู้ดีอยู่
คิดเสี่ยงรถหาคู่ให้เจ้าหญิง
ครั้นทุกคนเห็นดีมิท้วงติง
ยอมรับว่าเป็นสิ่งที่สมควร

** จึงเริ่มด้วยการตกแต่งราชรถ
ให้งามงดสดใสอย่างครบถ้วน
ด้วยบุบผชาติหลากสีเต็มกระบวน
กลิ่นหอมหวนกระจายไปไม่จืดจาง

** ประดิษฐานเครื่องราชกกุธภัณฑ์
บนราชรถอย่างพร้อมสรรพ์ครบทุกอย่าง
เทียมด้วยม้าอัสดงงามท่าทาง
ยามเยื้องย่างดูสง่าในท่าที

** แล้วปล่อยม้าออดไปโดยกำหนด
ถ้าหากรถหยุดที่ใดไม่หน่ายหนี
จะถือว่าชายนั้นผู้โชคดี
ตั้งอยู่ที่ตำแหน่งกษัตรา

** แล้วจึงปล่อยราชรถไม่รอรั้ง
ออกจากพระราชวังดังปรารถนา
สู่ประตูตะวันออกไม่รอรา
แล่นมุ่งหน้าตรงไปในอุทยาน

** ครั้นเมื่อถึงจึงตรงไปยังแท่น
แล้วก็แล่นประทักษิณตามมาตรฐาน
ครบสามรอบก็หยุดพลันไม่ทันนาน
ทุกคนก็เบิกบานเพราะโล่งใจ

** ปุโรหิตจึงสั่งการไม่รอช้า
ให้โห่ร้องขึ้นมาเสียงหวั่นไหว
แล้วดนตรีก็ประโคมขึ้นทันใด
เป็นสัญญาณว่าได้กษัตริย์แล้ว

** พระมหาชนกตื่นบรรทม
เพราะเสียงที่ชื่นชมดังแว่วแว่ว
เห็นคนจำนวนมากยืนเป็นแนว
พูดคุยกันเจื้อยแจ้วล้อมรอบตน

** ปุโรหิตจึงอัญเชิญขึ้นครองราชย์
มอบอำนาจที่ยิ่งใหญ่เพราะกุศล
ดังคำว่าสั่งสมบุญเป็นมงคล
เป็นเสบียงส่งผลตลอดกาล

** มหาชนพร้อมกันอภิเษก
ให้เป็นเอกครองรัฐอันไพศาล
เป็นกษัตริย์ที่เกรียงไกรหาใดปาน
ชาวพาราสุขสำราญทั่งนคร

** แล้วอัญเชิญเข้าสู่ปรางค์ปราสาท
ครองอำนาจมิถิลามไหศรย์
ประชาชนก้มกราบพนมกร
พร้อมถวายพระพรทรงพระเจริญ

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #8 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 10:03:12 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๒ พระมหาชนก ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๒  พระมหาชนก
ตอนที่ ๘  พบพระมเหสี

** พระมหาชนกทรงชมชื่น
ได้บัลลังก์กลับคืนแบบฉุกเฉิน
ไม่ต้องเสียเลือดเนื้อโดยบังเอิญ
ได้รับเชิญจากเหล่าปวงประชา

** จึงเสด็จทอดพระเนตรพระราชฐาน
ทรงชื่นชมเบิกบานเป็นหนักหนา
นี่หรือพระราชวังพระบิดา
ช่างสวยงามยิ่งกว่าเมืองใดใด

** แล้วเสด็จไปยังพระตำหนัก
ซึ่งเป็นที่พำนักอันยิ่งใหญ่
ของพระธิดาโฉมไฉไล
สิวลีอรไทผู้จอมนาง

** ครั้นได้พบทรงโปรดสิริโฉม
ช่างประโลมพระหทัยใสสว่าง
ดุจดังเทพธิดางามไม่จาง
ฉวีวรรณพระนางดุจดังทอง

** ถวายบังคมคมแล้วยื่นพระหัตถ์
ให้พระนางสัมผัสผิวงามผ่อง
เกี่ยวดรรชนีเป็นสัญญาณว่าจับจอง
ทรงประคองขึ้นนั่งบัลลังก์รัตน์

** ท่ามกลางหมู่อำมาตย์ทั้งซ้ายขวา
อีกข้างหลังข้างหน้าแน่นขนัด
ต่างยินดีปรีดาปรากฏชัด
คลายความอึดอัดเรื่องผู้ครองราชบัลลังก์

** พระมหาชนกจึงตรัสถาม
ถึงเนื้อความที่ราชาได้ตรัสสั่ง
เกี่ยวกับผู้ที่มาครองเวียงวัง
จงรีบบอกให้ฟังอย่ารีรอ

** ปุโรหิตรีบสนองพระดำร้ส
ว่ามีสิ่งผูกมัดอยู่สี่ข้อ
หนึ่งเจ้าหญิงโปรดปรานพะเน้าพะนอ
พร้อมที่จะเคลียคลอเคียงคู่กัน

** ข้อที่หนึ่งพระองค์ทรงผ่านแล้ว
พระนางเป็นนางแก้วร่วมสร้างสรรค์
ยอมเป็นคู่บารมีองค์ราชัน
จนชั่วนิจนิรันดร์สองพระองค์

** ข้อที่สองรู้ขุมทรัพย์สิบหกแห่ง
สามารถที่จะชี้แจงดังประสงค์
เพื่อบำรุงบ้านเมืองอย่างมั่นคง
และดำรงความยิ่งใหญ่ในแผ่นดิน

** พระมหาชนกจึงได้เอ่ย
รีบเฉลยปริศนาอย่างมีศิลป์
ซึ่งเรียนรู้อย่างรอบคอบสมดังจินต์
จนจบสิ้นกระบวนความตามต้องการ

** หนึ่งที่ลานซึ่งราชายืนรับพระ
ปัจเจกพุทธะได้เดินผ่าน
เพื่อรับบิณฑบาตส่งเสริมทาน
มีโภคทรัพย์บรืวารโสตถีเทอญ

** สองที่ลานซึ่งราชาส่งพระกลับ
หลังจากรับอาหารไม่ห่างเหิน
สามประตูราชนิเวศน์เป็นทางเดิน
ที่ด้านในขอเชิญลองขุดดู

** สี่ประตูด้านนอกจะบอกให้
ซึ่งไม่ไกลใกล้กันนั้นฝังอยู่
ห้าธรณีทวารท่านจงรู้
นั่นคืออู่ขุมทรัพย์นับอนันต์

** หกทางขึ้นพระราชนิเวศน์
ของจอมเกศผู้ครองมไหศวรรย์
เจ็ดที่เกยชาลาน่าอัศจรรย์
ลงจากคอช้างฉัตรทัณฑ์สู่ปรางค์ใน

**  แปดประตูสี่แห่งที่มีพระแท่น
ทำด้วยไม้รังแสนจะสดใส
เก้าห่างจากแท่นบรรทมงามไฉไล
วัดออกไปสี่ศอกบอกตรงตรง

** ทั้งสี่ทิศขุดดูจะรู้แน่
ไม่ผันแปรมีขุมทรัพย์อย่าไหลหลง
สิบที่โรงคชสารดังจำนง
ตามเจาะจงครบสิบหกดังกล่าวมา

** คงสงสัยทำไมพระองค์รู้
เพราะมีปริศนาอยู่ให้ศึกษา
ถ้าจะกล่าวคงไม่พอกับเวลา
รวบรัดว่าขอเล่าเพียงพอดี

** ข้อที่สามรู้หัวนอนของบัลลังก์
เพื่อนอนนั่งจะได้เกิดเป็นศรี
จึงถอดปิ่นส่งให้สิวลี
จงช่วยเก็บให้ทีที่สมควร

** พอนางรับมาแล้วบรรจงวาง
ในทิศทางที่เหมาะสมเป็นสัดส่วน
ซึ่งได้แก่ทิศเหนือไม่เรรวน
ตามกระบวนสิ่งสูงค่าองค์ราชัน

** พระมหาชนกจึงทรงเอ่ย
ขอเฉลยว่าทิศเหนือใช่ไหมนั่น
ข้อความที่พระองค์ทรงจำนรรจ์
ช่างแม่นมั่นถูกต้องทุกประการ

** ข้อสุดท้ายต้องทรงยกคันศร
เป็นขั้นตอนที่ได้ทรงกล่าวขาน
จะต้องใช้แรงคนมาร่วมงาน
มากประมาณจำนวนหนึ่งพันคน

** พระองค์ทรงยกอย่างง่ายดาย
เป็นความหมายว่าทรงสำเร็จผล
ธ ทรงแก้ปัญหาอย่างแยบยล
ไม่ตกหล่นครบถ้วยกระบวนความ

** ขึ้นครองราชย์สมศักดิ์ศรีมีสง่า
เป็นราชาที่ยิ่งใหญ่น่าเกรงขาม
แต่ทรงมีเมตตาสง่างาม
ชนทุกนามสรรเสริญเจริญคุณ

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #9 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 10:07:32 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๒ พระมหาชนก ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๒  พระมหาชนก
ตอนที่ ๙  ตอบแทนพระคุณ

** พระมหาชนกเสวยสุข
นิราศทุกข์นิราศภัยไม่เคืองขุ่น
ชาวประชาหน้าใสด้วยใบบุญ
เกิดจากคุณบารมีโพธิสมภาร

** การทำมาค้าขายเจริญยิ่ง
เกษตรกรรมทุกสิ่งก็ไพศาล
คมนานคมก้าวหน้าอย่างโอฬาร
การทหารมั่นคงอย่างยงยืน

** หวนระลึกนึกท่านพระมารดา
ลูกจากมาคงเหงาเศร้าสุดฝืน
คงจะคิดถึงลูกสุดกล้ำกลืน
ลูกก็อยากหวนคืนมากราบเท้า

** คิดถึงครูท่านทิศาปาโมกข์
ผู้เปิดโลกวิทยาคราหมองเศร้า
ได้สั่งสอนศิลปะไม่ดูเบา
ทำให้คลายความเขลาเกิดปัญญา

** จึงได้ส่งอำมาตย์ให้ไปรับ
พระมารดาพร้อมกับท่านทิศาฯ
ซึ่งอาศัยอยู่ที่เมืองจำปาก์
ให้เดินทางสู่มิถิลาอย่าช้าพลัน

** เมื่อพบหน้าก็รีบเข้าสวมกอด
ปากอ้อนออดด้วยคิดถึงจึงโศกศัลย์
อยากเจอหน้าพบเห็นไม่เว้นวัน
สุดจะกลั้นน้ำตาพาอิ่มใจ

** ครั้นสร่างโศกจึงเล่าให้แม่ฟัง
จากเริ่มต้นจนกระทั่งได้เป็นใหญ่
แนะนำให้รู้จักอรไท
หน้านวลไยสิวลีคู่ครองตน

** พระมารดาจึงได้ให้โอวาท
การปกครองประเทศชาติให้ได้ผล
เป็นที่รักที่บูชามหาชน
ต้องเปี่ยมล้นด้วยคุณธรรมจำให้ดี

** พระมหาชนกรับคำสอน
ของมารดรใส่ไว้ในเกศี
กราบขอพรอันศักดิ์สิธิ์ของชนนี
เพื่อเสริมสร้างบารมีเพิ่มพลัง

** ทรงให้ตั้งโรงทานขึ้นหกแห่ง
สำหรับแหล่งช่วยเหลือเพื่อความหวัง
แก่คนที่ยากไร้อย่างเรื้อรัง
ซึ่งเปรียบดังบำบัดโรคให้โศกคลาย

** ได้นิมนต์พระปัจเจกพุทธเจ้า
มาฉันภัตตาหารเช้าจัดถวาย
ด้วยศรัทธาเปี่ยมล้นทั้งใจกาย
จุดมุ่งหมายสั่งสมบุญอุ่นชีวา

** ตั้งพระทัยบำบัดทุกข์บำรุงสุข
สมเป็นยุคแห่งธรรมมานำหน้า
จะส่งเสริมให้เหล่าปวงประชา
มีเมตตาเอื้ออารีมีน้ำใจ

** ทั้งทิศาปาโมกข์โชคประเสริฐ
นับเป็นสิ่งล้ำเลิศจักหาไหน
เกิดมีแต่ความสุขทุกข์ห่างไกล
เป็นเพราะความห่วงใยของราชัน

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #10 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 10:12:46 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๒ พระมหาชนก ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๒  พระมหาชนก
ตอนที่ ๑๐  สัจจธรรมปรากฏ

** พระมหาชนกมีโอรส
ดูหมดจดงดงามดังใฝ่ฝัน
“ทีฆาวุ”” คือพระนามที่จำนรรจ์
เรียกขานกันทั่วไปในพารา

** พระองค์ทรงแต่งตั้งเป็นอุปราช
มีความรู้ความสามารถไม่กังขา
ออกว่าราชการมาหลายครา
สมความปรารถนาของบิดร

** รับผิดชอบงานแผ่นดินเอาใจใส่
ไม่เสียทีที่ได้ทรงสั่งสอน
และได้ทรงอบรมตามขั้นตอน
เพื่อพระองค์ทรงพักผ่อนอยู่เนืองเนือง

** ณ วันหนึ่งท้าวเธอทรงประพาส
ที่พระราชอุทยานอันลือเลื่อง
ดุจดังสวนสวรรค์อันรุ่งเรือง
เพื่อประเทืองพระหทัยสุขสำราญ

** ทอดพระเนตรมองเห็นต้นมะม่วง
มีผลดกเป็นพวงเมื่อมองผ่าน
อีกต้นหนึ่งใบดกมโหฬาร
ไม่มีผลให้ทานเขียวขจี

** ค้นมีผลผู้คนรุมกันสอย
กิ่งก็พลอยหักไปโทรมเต็มที่
ส่วนต้นไม่มีผลยังงามดี
เพราะไมมีผู้ใดมาทำลาย

** ทรงเปรียบเทียบการออกบวชกับกษัตริย์
ปรากฏชัดช่างแตกต่างอย่างเหลือหลาย
กษัตริย์เหมือนมะม่วงผลมากมาย
การออกบวชคล้ายมะม่วงมีแต่ใบ

** จึงทรงสนพระทัยการออกบวช
อย่างยิ่งยวดมากกว่าสิ่งไหนไหน
ครั้นเสด็จกลับมายังกรุงไกร
ทรงมอบราชกิจให้เจ้าชายเลย

**  พร้อมทั้งพวกอำมาตย์ปุโรหิต
ช่วยกันคิดช่วยกันสร้างอย่างเปิดเผย
เพื่อความสุขของปวงราษฎร์ไม่เฉยเมย
ทำได้ดีน่าชมเชยในผลงาน

** พระราชาได้ประทับบนปราสาท
ด้วยมุ่งมาตรบำเพ็ญธรรมกัมมัฏฐาน
ห้ามผู้ใดมาสร้างความรำคาญ
เพราะต้องการความสงบพบความจริง

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #11 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 10:17:07 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๒ พระมหาชนก ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๒  พระมหาชนก
ตอนที่ ๑๑  แรงปรารถนา

** พระมหาชนกพบความสุข
ปราศจากทุกข์เมื่อใจสงบนิ่ง
ใจวุ่นวายเป็นเหตุทุกข์อ้างอิง
เข้าพักพิงภายในจิตใจคน

** ทรงนึกถึงพระปัจเจกพุทธเจ้า
ผู้ที่เฝ้าคอยสร้างทางกุศล
ผู้ละคลายกิเลสคอยฝึกตน
เพื่อหลีกหนีวังวนหนทางกรรม

** อยู่ไหนหนอตัวข้าขอนอบน้อม
กายใจพร้อมบูชาทุกเช้าค่ำ
อยากพบหน้าใครหนาจะน้อมนำ
ช่วยกระทำความฝันได้ดังใจ

** สีเดือนผ่านตามกาลจักราศี
ก็เกิดมีความศรัทธาอย่างยิ่งใหญ่
ประสงค์จะออกบวชอยู่พงไพร
เพื่อจะได้บำเพ็ญธรรมนำสุขมา

** มองเห็นพระราชวังดังนรก
สกปรกเหลือหลายด้วยตัณหา
เป็นแหล่งรวมกิเลสคอยบีฑา
อยากหนีหน้าไปให้ไกลไม่พบเจอ

** เห็นความเริงร่าสนุกสนาน
เหมือนกับการเล่นกลนำเสนอ
ใช่เล่ห์เหลี่ยมหลอกตามาบำเรอ
จนผู้ดูหลงเพ้อและชื่นชม

** ครั้นแล้วจึงได้ทรงตั้งคำถาม
เป็นข้อความ “เมื่อไรหนอ” เป็นปฐม
เพื่อหลีกหนีให้พ้นความระทม
ที่ฝังจมในพระทัยของพระองค์

** เมื่อไรหนอเราจักได้โอกาส
สละราชบัลลังก์ดังประสงค์
คงจะมีความสุขดังจำนง
อยู่ไพรพงสงบใจไม่คลุมเครือ

** เมื่อไรหนอเราจักได้โอกาส
นุ่งห่มผ้าย้อมฝาดพาดหนังเสือ
มีเวลาบำเพ็ญธรรมอย่างเหลือเฟือ
จุดมุ่งหมายก็เพื่อบรรลุณาน

** หลังจากนั้นผ่านไปไม่นานนัก
พระทรงศักดิ์รับสั่งให้ทหาร
ผู้ใกล้ชิดปิดความลับรีบจัดการ
ซื้อเครื่องบริขารเพื่อบวชกาย

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #12 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 10:20:32 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๒ พระมหาชนก ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๒  พระมหาชนก
ตอนที่ ๑๒  ออกบวช

** ครั้นวันหนึ่งตัดสินใจออกบวชแน่
เพื่อความสุขจริงแท้ดังมุ่งหมาย
ด้วยศรัทธาที่ตั้งมั่นไม่เสื่อมคลาย
จึงสั่งนายภูษาฯ เข้าพบตน

** ให้ปลงพระเกศาพระมัสสุ
ด้วยความมุมานะในมรรคผล
ห่มผ้ากาสาวพัสตร์ในบัดดล
เป็นมงคลเกินจักพรรณนา 

** หยิบบาตรดินมาคล้องที่พระศอ
ปลื้มพระทัยจริงหนอสมปรารถนา
แล้วทรงเสด็จเดินไปมา
บนปรางงค์ปราแล้วจึงทรงอุทาน

** การบวชนี้ช่างมีความสุขหนอ
ขอเพียงพอโลกีย์ปล่อยให้ผ่าน
หลังจากที่หลงใหลมาแสนนาน
คิดว่าอดีตกาลคือบทเรียน

** หลังจากที่ได้ทรงผนวชแล้ว
พระปิ่นแก้วตัดสินใจไม่หันเหียน
เสด็จออกสู่ป่าบำเพ็ญเพียร
เพื่อพ้นการว่ายเวียนวังวนกรรม

** จึงเสด็จออกจากปรางค์ปราสาท
พบอนงค์นาถมเหสีมิถลำ
ปล่อยให้ตัวตัณหามาครอบงำ
คอยกระทำให้ใจต้องร้อนรน

** มเหสียกหัตถ์ขึ้นนบไหว้
โดยมิได้สังเกตแต่ฉงน
พระปัจจเจกฯ ได้รับการนิมนต์
ไม่มีคนบอกกล่าวให้รู้เลย

** จึงเสด็จไปยังปรางค์รูจี
เรื่องราวของภูมีถูกเปิดเผย
ดูทุกอย่างเปลี่ยนไปไม่เหมือนเคย
ทั้งผมเอยหนวดเอยดูเกลื่อนไป

** อีกเครื่องทรงถอดวางที่พระแท่น
เครื่องประดับแก้วแหวนไม่สวมใส่
จากสภาพที่เห็นจึงมั่นใจ
ที่เดินผ่านอย่างเร็วไวคือราชัน

** รีบเสด็จตามโดยไม่รอช้า
เมื่อพบองค์ราชาที่ผายผัน
มุ่งหน้าตรงไปยังพนาวัน
จึงจำนรรจ์อ้อนวอนให้ย้อนคืน

** พระมหาชนกจึงเอื้อนเอ่ย
พระนางเอยเรานี้สุดจักฝืน
เสียงเรียกร้องของใจสุดกล้ำกลืน
ความสุขอื่นยิ่งกว่าบวชย่อมไม่มี

** จงกลับไปดูแลประชาราษฎร์
หมู่อำมาตย์ไพร่พลให้สุขศรี
เราบวชแล้วต้องอาศัยในพงพี
เชิญเทวีกลับวังอย่ารั้งรอ

** ข่าวการออกบวชของเหนือหัว
แพร่กระจายไปทั่วทุกห้องหอ
ชาวประชาทุกคนน้ำตาคลอ
ขาดที่พึ่งแล้วหนอมิถิลา

** จึงรวมตัวพร้อมกันไม่หวั่นไหว
มุ่งหน้าไปเข้าเฝ้าถึงกลางป่า
ขอร้องให้พระองค์จงกลับมา
เพื่อครอบครองพาราให้ร่มเย็น

** พระมหาชนกทรงปฏิเสธ
เราถือเพศบรรชิตไม่ทุกข์เข็ญ
ชีวิตการครองเมืองสุดลำเค็ญ
มันช่างเป็นทุกข์ใจหาใดปาน

** พวกท่านจงกลับสู่นครเถิด
ขอจงเกิดสิริมีสุขศานต์
ชีวิตจงแพ้พระชนะมาร
ตลอดกาลนิราศทุกข์สุขทวี

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #13 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 10:23:47 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๒ พระมหาชนก ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๒  พระมหาชนก
ตอนที่ ๑๓  อุบายพระมเหสี

** ครั้นเห็นว่าหว่านล้อมไม่ได้ผล
หาอุบายแยบยลมาใส่สี
เพื่อหลอกลวงให้องค์พระภูมี
กลับจากพนาลีสู่มิถิลา

** สั่งให้เจ้าหน้าที่ทำการเผา
โรงเรือนเก่าที่ชำรุดนานหนักหนา
แล้วสั่งให้พลเมืองชาวประชา
กระพือข่าวไปว่าถูกเผาเมือง

** เจ้าหน้าที่ปลอมตัวเป็นโจรร้าย
บุกเข้าปล้นทำลายจนลือเลื่อง
จนผู้คนหวาดกลัวอยู่เนืองเนือง
จะต้องรีบปลดเปลื้องให้เบาบาง

** สิวลีรีบกราบบังคมทูล
จอมไอศูรย์ผู้บวชกายให้ขัดขวาง
พระมหาชนกผู้ละวาง
บอกไม่ใช่วิถีทางของนักบุญ

** แล้วจึงมุ่งเข้าสู่ภูเขาใหญ่
หวังวิเวกสงบใจเป็นทุนหนุน
บรรลุฌานไม่ติดในกามคุณ
เพื่อเจือจุนหนทางโพธิญาณ

** ปวงประชาและพระมเหสี
ไม่รีรอติดตามหวังประสาน
ให้พระองค์หันหลังกลับอย่าเนิ่นนาน
เป็นประธานคอยบัญชาข้าแผ่นดิน

** พระมหาชนกทรงขีดเส้น
เพื่อทำเป็นสัญลักษณ์ดังถวิล
แล้วประกาศก้องพื้นธรณิน
ใครฝ่าฝืนต้องสิ้นชีวาวาย

** ห้ามก้าวล่วงขอบเขตรอยขีดนี้
มิฉะนั้นมีความผิดดังมั่นหมาย
ไม่เชื่อฟังต้องโทษทัณฑ์ถึงขั้นตาย
แล้วผันผายสู่พนาไม่ช้าที

** พระนางสิวลีทรงกรรแสง
แทบหมดแรงเกลือกลิ้งอยู่กับที่
เส้นจึงเลือนจางไปไม่เหลือดี
ประชาชีถือโอกาสข้ามมันไป

** พวกชาวเมืองตามพระองค์เข้าพงป่า
ด้วยหวังว่าเจ้าเหนือหัวทรงคิดใหม่
เมื่อประสบความลำบากทรงเปลี่ยนใจ
หันกลับสู่ความยิ่งใหญ่ในปฐพี

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #14 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 10:34:32 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๒ พระมหาชนก ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๒  พระมหาชนก
บทส่งท้าย

** ความพากเพียรย่อมทำให้สำเร็จ
กลเม็ดที่จะเป็นเศรษฐี
ประสบผลที่หวังดังมณี
สูงค่ามากเกินที่จะบรรยาย

** ความเพียรต้องประกอบด้วยความรัก
ช่วยนำชักให้ไปสู่เป้าหมาย
น้อมใจรักสิ่งที่ทำอย่าเสื่อมคลาย
ตอนสุดท้ายจะสุขใจไปนานวัน

** ต้องมีความเข้าใจเป็นพื้นฐาน
เพื่อจะให้การงานได้สร้างสรรค์
มีความเพียรเป็นหลักที่สำคัญ
ใช้ศรัทธายึดมั่นขยันทำ

** ความตั้งใจช่วยเสริมเพิ่มแรงส่ง
สามประสานมั่นคงดูคมขำ
ความรัก ความเข้าใจ ช่วยน้อมนำ
ความมุงมั่นจดจำทำความเพียร

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ



บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: