นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
กระทู้: 246
ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
|
|
« เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 02:23:31 PM » |
|
Permalink: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๑ พระเตมีย์ ***
พระเจ้าสิบชาติ พระชาติที่ ๑ พระเตมีย์ บทนำ ** จะขอกล่าวถึงเรื่องพระโพธิสัตว์ ทรงอุบัติในเมืองพาราณสี เสวยพระชาติเป็นพระเตมีย์ เพื่อบำเพ็ญบุญให้ดีอย่างอุดม
** พระชาตินี้ทรงบำเพ็ญเนกขัมมะ เพื่อลดละโลกีย์ให้สุขสม ปณิธานแน่วแน่น่าชื่นชม จะออกบวชให้รื่นรมย์ตลอดกาล
** เนกขัมมะคือการออกจากกาม สิ่งชั่วช้าเลวทรามที่หยาบกร้าน เพื่อป้องกันนิวรณ์ห้ามารุกราน และป้องกันกิเลสมารมารบกวน
** ตั้งมั่นรักษาศีลและให้ทาน เจริญสมถะกัมมัฏฐานเป็นสัดส่วน มีสันโดษรู้จักพอรู้จักควร มุ่งกระบวนโพธิญาณเบิกบานใจ
|
|
|
สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ สำนักพิมพ์ธรรมสภา ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์ อินทศรี บรรยายภาพ : บรรจบ บรรณรุจิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
กระทู้: 246
ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 02:32:29 PM » |
|
Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน ***
พระเจ้าสิบชาติ พระชาติที่ ๑ พระเตมีย์ ตอนที่ ๑ จุติจากสวรรค์ ** ขอเริ่มเรื่อง ณ เมืองพาราณสี เจ้าผู้ครองบุรีสุขสดใส ทรงพระนามกาสีผู้ทรงไชย มีหน้าใยมเหสีคู่ชีวา
** ทรงพระนามจันทาเทวีนาถ คู่พระทัยจอมราชเสน่หา ไม่มีพระโอรสพระธิดา เพื่อจะมาสืบสันตติวงศ์
** พวกชาวเมืองพากันปริวิตก จนรุ่มร้อนในอกแทบเป็นผง บ้านเมืองคงระส่ำระสายเป็นมั่นคง ถ้าขาดองค์ผู้สืบราชบัลลังก์
** จึงพากันเข้าเฝ้าเพื่อกราบทูล จอมไอสูรย์ผู้เป็นซึ่งความหวัง ขอให้มีราชบุตรคู่เวียงวัง จงให้ได้สมดังความต้องการ
** ในคืนนั้นท้าวเธอทรงปรึกษา กับเอกอัครชายาอย่างฉาดฉาน เรามามีลูกกันเถอะเยาวมาลย์ ให้ประชากรสุขสำราญชื่นอารมณ์
** พระนางก็เห็นด้วยเป็นยิ่งนัก เพื่อประชาชนที่รักจักสุขสม แต่ทรงเกรงจะเป็นเพียงดังลม ไม่สร้างความชื่นชมชาวพารา
** พระนางจึงทรงขอให้บุญช่วย ขอสวรรค์โปรดอำนวยตามปรารถนา ครั้นเมื่อถึงวันพระตามเวลา ทรงรักษาศีลอุโบสถอย่างที่เคย
** แล้วทรงตั้งสัตยาธิษฐาน ขอให้บุญบันดาลอย่านิ่งเฉย ให้มีราชโอรสไว้ชมเชย ดังคำที่ได้เอ่ยขออ้อนวอน
** ในกาลนั้นทิพยอาสน์ท้าวโกสินทร์ แข็งกระด้างดุจหินเป็นก้อนก้อน ด้วยแรงอธิษฐานของบังอร ทิพยอาสน์จึงเร่าร้อนนอนไม่ลง
** จึงสอดส่องทิพยเนตรดูเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นในจักรวาลไม่ลืมหลง ก็ทรงทราบเรื่องราวโดยเจาะจง รีบช่วยเหลือโฉมยงตามขอมา
** ได้อ้อนวอนเทพบุตรที่สำคัญ จะจุติจากสวรรค์ดาวดึงษา ให้เกิดเป็นราชโอรสของราชา กับพระนางจันทาจอมนารี
|
|
|
สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ สำนักพิมพ์ธรรมสภา ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์ อินทศรี บรรยายภาพ : บรรจบ บรรณรุจิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
กระทู้: 246
ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 03:01:20 PM » |
|
Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน ***
พระเจ้าสิบชาติ พระชาติที่ ๑ พระเตมีย์ ตอนที่ ๒ ประสูติ ** ตามปกติเทพบุตรพระองค์นั้น ที่บังเกิดในครรภ์มเหสี จะต้องไปเกิดในชั้นสูงกว่านี้ กว่าสวรรค์ชั้นที่จุติมา
** แต่เพราะคำอ้อนวอนขององค์อินทร์ คำพิษฐานของยุพินขนิษฐา ทั้งอำนาจศีลที่ตัวนางจันทา ได้สั่งสมบุญญาอันยาวนาน
** ประกอบกับความต้องการของเทพบุตร จะเกิดในโลกมนุษย์เป็นพื้นฐาน เพื่อบำเพ็ญบารมีตามต้องการ จึงรับคำองค์มัฆวานในทันที
** ถึงวาระที่ประชาชนจะมีสุข องค์ราชาปลอดทุกข์เป็นสุขี เป็นเพราะพระนางจันทาเทวี เธอทรงมีพระครรภ์อันอำไพ
** พระนางทรงถนอมพระครรภา ทรงระวังรักษาไม่ไปไหน งดอาหารรสจัดจนเกินไป เอาใจใส่สุขภาพของพระนาง ** นับตั้งแต่พระนางทรงตั้งครรภ์ บังเกิดเหตุอัศจรรย์หลายหลายอย่าง ชาวเมืองเกิดปิติใจไม่จืดจาง มีความสุขไม่เลือนรางทั่วหน้ากัน
** ครั้นเมื่อครบกำหนดทศมาส พระนางนาถได้ประสูติอย่างสุขสันต์ ความเจ็บไม่มากมายสบายครัน นับเป็นสิ่งอัศจรรย์ในปฐพี
** อีกบันดาลให้ฝนตกจนทั่วแคว้น ตลอดทั้งดินแดนพาราณสี เพื่อขจัดความแห้งแล้งที่เคยมี ต้นไม้เขียวขจีผลิดอกใบ
** ชาวประชาเริงรื่นชื่นหรรษา สมโภชโอรสาอย่างยิ่งใหญ่ ต่างยินดีปรีดาพาสุขใจ ส่งเสียงโห่ร้องไปทั่วนคร
|
|
|
สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ สำนักพิมพ์ธรรมสภา ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์ อินทศรี บรรยายภาพ : บรรจบ บรรณรุจิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
กระทู้: 246
ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 03:06:02 PM » |
|
Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน ***
พระเจ้าสิบชาติ พระชาติที่ ๑ พระเตมีย์ ตอนที่ ๓ แม่นม ** โหรหลวงได้ตรวจดูพระลักษณะ ขององค์พระโอรสามหิศร มีบุญญาธิการไม่ร้าวรอน ประชากรต่างยินดีแสนปรีดา
** ทั้งเกิดฝนประชาชนก็ชุ่มชื่น แสนระรื่นเลิศล้ำสุขหรรษา จึงถวายพระนามกุมารา พระเตมีย์จอมจักรายอดกุมาร
** พระองค์ทรงเป็นเด็กที่น่ารัก มีผิวพรรณงามนักเกินกล่าวขาน ไม่ขี้อ้อนโยเยอันธพาล มีจิตใจเบิกบานนิสัยดี
** พระบิดาทรงห่วงใยเป็นที่ยิ่ง ทรงตั้งหญิงเป็นแม่นมหกสิบสี่ แต่ละนางคัดเลือกยอดนารี มีรูปร่างโสภีบุคลิกงาม
** และยังมีลักษณะที่พิเศษ คัดเลือกเกรดชั้นเลิศไม่ต้องห้าม ถูกต้องตามตำราที่ลือนาม เพื่อจะบังเกิดความเป็นมงคล
** หนึ่ง “รูปร่างไม่สูงจนเกินไป” เพราะความสูงก็ทำให้บังเกิดผล คอของเด็กจะยาวดูชอบกล ผิดธรรมชาติของคนไม่น่ามอง
** ด้วยเด็กต้องยืดคอขึ้นดูดนม แม่จะก้มลงมาก็ไม่คล่อง เพราะความหิวมากมายเป็นก่ายกอง ลูกจึงต้องจำนนทนยืดมัน
** สอง “รูปร่างไม่เตี้ยจนเกินไป” ความเตี้ยเป็นเหตุให้เด็กคอสั้น ต้องหดคอดูดนมทุกทุกวัน เป็นเรื่องที่สำคัญควรคำนึง
** สาม “รูปร่างไม่ผอมจนเกินไป” จะทำให้เด็กเจ็บคิดไม่ถึง เพราะดูดนมในท่าที่รัดรึง ไม่ถนัดเลยจึงเกิดเจ็บตัว
** สี่ “รูปร่างไม่อ้วนจนเกินไป” จะทำให้เด็กปวดเมื่อยจนเจ็บหัว เกิดอึดอัดตอนดูดนมช่างน่ากลัว จึงเจ็บปวดไปทั่วสรรพางค์
** ห้า “สีผิวไม่ดำจนเกินไป” จะเป็นเหตุทำให้เกิดขัดขวาง ความเจริญเติบโตตามแนวทาง เพราะน้ำนมของนางเย็นชืดจัง
** หก “สีผิวไม่ขาวจนเกินไป” เพราะน้ำนมที่ได้น่าผิดหวัง มันร้อนมากจริงจริงน่าชิงชัง เป็นพลังทำให้เด็กไม่สมบูรณ์
** เจ็ด “แม่นมที่มีเต้านมยาน” เด็กจะทรมานไม่สิ้นสูญ นมจะทับจมูกแบนแสนอาดูร จะเพิ่มพูนปมด้อยน่าน้อยใจ
** แปด “แม่นมที่เป็นโรคหืดหอบ” ตามระบอบของร่างกายคงไม่ไหว เพราะน้ำนมจะเปรี้ยวเสียกระไร ไม่ชื่นอกชื่นใจชวนให้กิน
** เก้า “แม่นมที่เป็นโรคมองคร่อ” ใคร่จะขออธิบายให้จบสิ้น คือโรคไอเรื้อรังที่เคยชิน เราได้ยินได้เห็นเป็นประจำ
** น้ำนมของแม่นมประเภทนี้ มันจะมีรสเผ็ดไม่ชื่นฉ่ำ เวลาดื่มแต่ละครั้งสุดระกำ เป็นเหตุทำให้อาหารไม่พอเพียง
** แม่นมหกสิบสี่คนของโอรส เธอทั้งหมดปลอดภัยไม่ต้องเสี่ยง เพราะทุกคนสมบูรณ์พร้อมไม่ใกล้เคียง เก้าประการที่ไล่เลียงมาให้ฟัง
|
|
|
สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ สำนักพิมพ์ธรรมสภา ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์ อินทศรี บรรยายภาพ : บรรจบ บรรณรุจิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
กระทู้: 246
ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 03:09:31 PM » |
|
Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน ***
พระเจ้าสิบชาติ พระชาติที่ ๑ พระเตมีย์ ตอนที่ ๔ ระลึกชาติได้ ** เมื่อมีพระชนมายุได้หนึ่งเดือน ความอัศจรรย์ก็มาเยือนเตือนความหลัง ขณะที่พระราชบิดานั่งบัลลังก์ พิพากษาโจรโอหังทั้งสี่คน
** พระโอรสทรงบรรทมอยู่บนตัก ไม่นานนักทุกคนคงทราบผล ท้าวกาสีทรงตัดสินอย่างแยบยล ตามทัณฑ์บนที่เหมาะสมกับคดี
** คนที่หนึ่งซึ่งมีความผิดน้อย โทษเบาหน่อยโบยเฆี่ยนอย่างเต็มที่ คนที่สองผิดมากกว่าชอบราวี ให้คุมขังทันทีมิรอนาน
** คนที่สามมีความผิดมากกว่าอีก ทำให้หลีกไม่พ้นต้องประหาร คนที่สี่เสียบหลาวปักประจาน ตามโทษฐานความผิดที่คิดทำ
** พระกุมารทรงระลึกชาติก่อนได้ ว่าสร้างกรรมเอาไว้จนถลำ สู่นรกหมกไหม้ชดใช้กรรม ถูกเหยียบย่ำไม่เบาเผาด้วยไฟ ** ในอดีตเกิดเป็นพระมหากษัตริย์ ครอบครองเศวตฉัตรนครใหญ่ สั่งประหารชีวิตชาวเมืองไป นับจำนวนเห็นจะได้หลายร้อยพัน
** เมื่อถึงคราวที่ต้องละโลกนี้ กรรมที่มีส่งผลต้องโศกศัลย์ ตกนรกชดใช้หลายร้อยกัลป์ หลายแสนวันนับดูแล้วแปดหมื่นปี
** ใช้กรรมในนรกจนหมดสิ้น บุญส่งให้จอมบดินทร์ปิ่นกรุงศรี ไปเกิดในสวรรค์ชั้นที่ดี ดาวดึงส์เป็นที่พำนักกาย
** หลังจากนั้นมาเกิดเป็นมนุษย์ เลิศล้ำสุดบารมีที่ปองหมาย ไม่ใช่ใครที่ไหนคือองค์ชาย ผู้เป็นเจ้านายเมืองนี้เอง
** พระกุมาไม่ปรารถนาจะครองราชย์ กลัวอำนาจหน้าที่มาข่มเหง ให้ต้องตกนรกน่ายำเกรง บาปบานเบ่งอีกคราจะร้อนรน ** ไม่มีความทุกข์อะไรจะใหญ่กว่า ความทุกข์ทรมาน่าพองขน เหมือนทุกข์ในนรกหมกไหม้ตน จะดั้นด้นหลีกหนีสุดชีวา
** กุมารน้อยจึงใคร่ครวญเฝ้าหวนคิด นึกอนาถชีวิตเป็นหนักหนา อยากจะไปให้พ้นนครา ภาวนาบำเพ็ญธรรมสุขสำราญ
|
|
|
สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ สำนักพิมพ์ธรรมสภา ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์ อินทศรี บรรยายภาพ : บรรจบ บรรณรุจิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
กระทู้: 246
ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 03:20:23 PM » |
|
Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน ***
พระเจ้าสิบชาติ พระชาติที่ ๑ พระเตมีย์ ตอนที่ ๕ เทพธิดาบอกอุบาย ** ในครั้งนั้นยังมีเทพธิดา คิดช่วยเหลือโอรสาผู้ห้าวหาญ เพราะนางเป็นมารดาในก่อนกาล ตามรักษายอดชายชาญทุกเวลา
** จึงเข้าไปกระซิบบอกอุบาย ให้อดีตลูกชายดังปรารถนา เพื่อได้พ้นตำแหน่งกษัตรา สมดังเจตนาพระกุมาร
** จงทำเป็นง่อยเปลี้ยเสียแขนขา เป็นใบ้บ้าตาบอดสอดประสาน อีกหูหนวกเป็นคนพิกลพิการ แม้จะทรมานต้องยอมทน
** นับตั้งแต่วันนั้นพระโอรส ได้จำจดถ้อยความตามนุสนธิ์ จึงทำใจแล้วจึงปฏิบัติตน เริ่มเป็นคนผิดแผกแปลกจากเดิม
** ไม่มีการตอบโต้ทางสัมผัส ปรากฏชัดผิดปกติเข้ามาเสริม ไม่ยินดียินร้ายได้มาเติม เพื่อพูนเพิ่มให้สำเร็จเจตนา
** เมื่อพระเจ้ากาสีทรงทราบเรื่อง ที่เกิดขึ้นในเมืองมีปัญหา พระโอรสผิดปกติทางปัญญา ไม่สบายอุราทรงพะวง
** ทรงปรึกษาหารือพระเทวี ถึงวิธีรักษาดังประสงค์ ให้หายไปหรือว่าทุเลาลง แล้วก็ทรงรับสั่งให้ทดลอง
** เริ่มต้นให้นมผิดเวลา หรือบางคราให้อดเป็นซ้ำสอง เพื่อดูผลที่เกิดดังใจปอง เมื่อตอนที่ฉลองครบหนึ่งปี
** เมื่อพระชนมายุสองพรรษา ทดลองกุมาราอย่างเต็มที่ ให้เด็กเด็กห้าร้อยในธานี กินขนมอวดภูมีให้ร้าวราน
** เมื่อพระชนมายุสามพรรษา ก็ทดลองอีกคราตามมาตรฐาน ให้เด็กเด็กห้าร้อยรับประทาน ผลไม้หน้าภูบาลอย่างตั้งใจ
** เมื่อพระชนมายุสี่พรรษา เปลี่ยนวิธีเพื่อพาให้หวั่นไหว ให้เด็กเล่นของเล่นอวดทรงไชย ก็ไม่สนใจเหมือนก่อนนั้น
** เมื่อพระชนมายุห้าพรรษา ทดลองหยั่งดูว่ามีใจมั่น ให้เด็กกินอาหารอวดเช่นกัน แต่ผลลัพธ์ของมันไม่เปลี่ยนแปลง
** เมื่อพระชนมายุหกพรรษา ไม่รอช้าทดลองแบบแผลงแผลง จุดไฟเผาที่ประทับอย่างรุนแรง พระโอรสไม่แสดงอาการเลย
** เมื่อพระชนมายุเจ็ดพรรษา ช้างตกมันมีงาไล่ยังเฉย ไม่แสดงอาการกลัวกลับเฉยเมย อนิจจาลูกเอ๋ยช่างเวรกรรม
** เมื่อพระชนมายุแปดพรรษา ปล่อยให้งูออกมาไม่น่าขำ มาพันรัดร่างกายพระทรงธรรม ก็เงียบงำไม่แสดงอาการกลัว
** เมื่อพระชนมายุเก้าพรรษา มหรสพเฮฮาไม่ยิ้มหัว ก็ยังคงนิ่งเฉยไม่ลืมตัว ไปเกลือกกลั้วตามอุบายที่หมายลวง
** เมื่อพระชนมายุสิบพรรษา เพชฌฆาตจ้องตาก็ไม่ห่วง ทำท่าจะฟาดฟันไม่ใช่ลวง ก็ยังคงปล่อยให้ล่วงผ่านดังลม
** พอพระชนมายุสิบเอ็ดพรรษา ได้ส่งเสียงพูดจาดังกันขรม เพื่อทำลายความเงียบตอนบรรทม องค์บรมนิ่งเฉยเหมือนหุ่นฟาง
** พอพระชนมายุสิบสองพรรษา ทำให้เกิดแสงจ้าส่องสว่าง ในขณะที่หลับใหลไม่อำพราง ตื่นบรรทมมองอย่างไม่ใยดี
** พอพระชนมายุสิบสามพรรษา เอาน้ำอ้อยชโลมทาพิถันพิถี จนกระทั่งเยิ้มไปทั้งอินทรีย์ ก็ไม่มีปฏิกิริยาจากพระองค์
** พอพระชนมายุสิบสี่พรรษา ให้ยุวกษัตราผู้เป็นหงส์ นอนจมอุจจาระดังจำนง ก็ยังคงไม่เอื้อนเอ่ยเผยท่าที
** พอพระชนมายุสิบห้าพรรษา ได้ทดลองรุนแรงกว่าไม่หน่ายหนี ให้นอนบนความร้อนใช่ย่ำยี แต่ให้เผยวจีว่าร้อนรน
** พอพระชนมายุสิบหกพรรษา ให้หญิงสาวโสภาไม่หมองหม่น มาเล้าโลมโอรสให้สุดทน ปรากฏผลยังนิ่งเฉยเหมือนเคยมา
** ความพยายามของจอมเกล้าท้าวกาสี ต้องเป็นหมันทุกทีเกินสรรหา ยุวกษัติย์ตั้งมั่นด้วยศรัทธา เพื่อจะพาตนเองให้พ้นภัย
|
|
|
สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ สำนักพิมพ์ธรรมสภา ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์ อินทศรี บรรยายภาพ : บรรจบ บรรณรุจิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
กระทู้: 246
ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 05:36:19 PM » |
|
Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน ***
พระเจ้าสิบชาติ พระชาติที่ ๑ พระเตมีย์ ตอนที่ ๖ น้ำตาพระมารดา ** พระโอรสแสนทรมานเป็นหนักหนา กับวิธีการนานาตลอดสมัย แต่ในที่สุดก็มีชัย ไม่อาลัยโลกีย์ที่เมามัน
** พระบิดามารดาก็ทุกข์มาก ใจไม่อยากให้ลูกต้องโศกศัลย์ ด้วยวิธีทดลองนับอนันค์ ต้องจาบัลย์เพราะสงสารปานขาดใจ
** ฝ่ายพระนางจันทาทรงกรรแสง หมดเรี่ยวแรงเพราะสุดจะทนไหว ทรงโอบกอดพระโอรสโดยเร็วไว แล้วคร่ำครวญหวนไห้พร่ำรำพัน
** โอ้ลูกเอ๋ยคนดีดวงใจแม่ อย่าเอาแต่แกลังทำแม่ไม่ขัน ใจรอนรอนจะขาดอยู่ทุกวัน แม่รู้นะเจ้านั้นไม่พิการ
** เห็นใจแม่สงสารแม่เถิดทูนหัว เลิกทำตัวเป็นคนที่วิตถาร จงเป็นอยู่ปกติสุขสำราญ พ่อแม่จะเบิกบานในกมล
** บรรดาโหรได้เปลี่ยนคำพยากรณ์ จากเคยดีเป็นเดือดร้อนน่าฉงน เป็นเสนียดจัญไรดูชอบกล ถ้าเลี้ยงไว้อัปมงคลอย่างแน่นอน
** จะบังเกิดอาเพศเหตุอัปยศ พระราชาต้องสวรรคตไม่หลอกหลอน หรือพระมเหสีต้องม้วยมรณ์ ราชบัลลังก์สั่นคลอนด้วยศัตรู
** จะต้องเอาไปฝังเสียทั้งเป็น ช่างเป็นเรื่องเลือดเย็นน่าอดสู พระมารดาได้ฟังน้ำตาพรู พระบิดาก็หดหู่ไม่แพ้กัน
** พระเจ้ากาสีจำยอมตามโหรหลวง ไม่ทักท้วงยอมรับในอาถรรพ์ เพื่อความสงบสุขชั่วนิรันดร์ บ้านเมืองต้องสำคัญและมั่นคง
** ฝ่ายพระนางจันทามเหสี ดวงฤดีแทบสลายเป็นผุยผง เฝ้ากราบทูลทั้งน้ำตาที่ไหลลง อาบสองแก้มอนงค์จนท่วมนอง
|
|
|
สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ สำนักพิมพ์ธรรมสภา ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์ อินทศรี บรรยายภาพ : บรรจบ บรรณรุจิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
กระทู้: 246
ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 05:39:07 PM » |
|
Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน ***
พระเจ้าสิบชาติ พระชาติที่ ๑ พระเตมีย์ ตอนที่ ๗ ข้อต่อรอง ** โอ้ว่าทูลกระหม่อมของน้องเอ๋ย อย่าทำลายลูกเราเลยแม้บกพร่อง ทูลกระหม่อมไม่รักไม่อยากมอง แต่ตัวน้องรักมากเหนือสิ่งใด
** ท้าวกาสีบอกว่าพี่ก็รัก แต่เราจักขัดขวางย่อมไม่ได้ พระโอรสเกิดเป็นตัวจัญไร ต้องตัดอกตัดใจเพื่อปวงชน
** แต่พระนางจันทายังขอร้อง เพื่อต่อรองสวามีให้ได้ผล น้องจะเลี้ยงดูเองอย่ากังวล ไม่ระคายเบื้องยุคลของพระองค์
** ท้าวกาสีไม่ยอมอนุญาต ตามที่พระนางนาถมีประสงค์ พระนางจึงได้เริ่มอ่อนข้อลง อยู่กับองค์กุมารสักเจ็ดปี
** ท้าวเธอก็ยังไม่อ่อนตาม แม่โฉมงามจันทามารศรี พยายามอ้อนวอนใหม่ไม่รอรี ไม่ยอมให้เจ็ดปีขอเจ็ดวัน
** ท้าวกาสีเห็นว่าไม่นานนัก จึงอนุญาตให้เมียรักสมใจฝัน พระนางจึงก้มลงอภิวันท์ จอมราชันสวามีที่เมตตา
** พระนางเจ้าเทวีศรีสมร จึงขอพรอภิเษกโอรสา ให้ขึ้นเป็นกษัตริย์ครองพารา โปรดให้เชิญกษัตราเลียบนคร
** เสร็จแล้วเชิญเสด็จแท่นบรรทม ในหัวอกนางตรมเฝ้าทอดถอน จึงตรงเข้าสวมกอดแล้วอ้อนวอน จงสงสารมารดรที่โศกตรม
** ลูกจงทำเป็นเช่นคนปกติ อย่าอุตริให้แม่ต้องขื่นขม จงพูดจาพาทีได้ชื่นชม อย่าให้จมอยู่กับทุกข์เลยพ่อคุณ
** เฝ้าอ้อนวอนวันแล้วและวันเล่า ขอให้เจ้ารู้ว่าแม่ว้าวุ่น ใจแม่นั้นเร่าร้อนแทบเป็นจุณ ถ้าเจ้าไม่การุณแม่คงตาย
** ครบเจ็ดวันโอรสยังเฉยนิ่ง หมดเวลาจะประวิงแม่ใจหาย นับแต่นี้ไม่มีแล้วลูกชาย เจ้าจะต้องวอดวายจากแม่ไป
** พระนางทรงกรรแสงหมดแรงเรี่ยว ต่อแต่นี้แม่จะเหลียวไปทางไหน จะมองซ้ายมองขวาไปหาใคร เหตุไฉนจึงต้องเป็นเช่นนี้
|
|
|
สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ สำนักพิมพ์ธรรมสภา ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์ อินทศรี บรรยายภาพ : บรรจบ บรรณรุจิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
กระทู้: 246
ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 05:42:49 PM » |
|
Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน ***
พระเจ้าสิบชาติ พระชาติที่ ๑ พระเตมีย์ ตอนที่ ๘ สงสารพระมารดา ** ในช่วงของเวลาผ่านมาแล้ว พระโอรสฉัตรแก้วผู้ทรงศรี ได้ทรงรู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดมี ในนครพาราณสีบุรีรมย์
** พระโอรสสงสารพระชนนี จนบางทีเกือบเผลอไปติดหล่ม ของความรักความสงสารพาลระทม พอนึกได้ต้องข่มอารมณ์นั้น
** ตัวของเรามีจุดหมายในชีวิต จะให้พังเพราะความคิดอย่าพึงฝัน เราต้องสู้ต่อไปไม่แพ้มัน ต้องฝ่าฟันให้ถึงซึ่งปลายทาง
** จึงระงับความสงสารที่ล้นอก พยายามหยิบยกออกให้ห่าง ทรงทำจิตให้แจ่มใสไม่จืดจาง ยึดเอาทางโพธิญาณเบิกบานใจ
** ครบเจ็ดวันสุนันทะสารถี อัญเชิญองค์ภูมีจากปรางค์ใหญ่ เพื่อจะนำไปฝังในราวไพร นอกกรุงไกรตามบัญชาองค์ราชัน
** พระนางจันทาเทวีใจแทบขาด พระนางนาถอาลัยเฝ้าโศกศัลย์ ถึงเวลาลูกพรากมาจากกัน ใจแม่นั้นจะขาดพินาศแล้ว
** ต่อไปนี้แม่คงจะเงียบเหงา ไม่มีเจ้าที่เปรียบดังดวงแก้ว ชีวิตแม่นี้คงไม่คลาดแคล้ว ต้องดับดิ้นสิ้นแววความชื่นบาน
** เฝ้าชะแง้แลหาขวัญตาแม่ เวรกรรมใดกันแน่คอยล้างผลาญ ลูกจากแม่แม่จากลูกทุกข์ทรมาน สุดร้าวรานในดวงแดอกแม่ตรม
** สะอื้นให้ร่ำหาอาลัยลูก พ่อบุญปลูกลูกเอ๋ยแม่ขื่นขม น้ำตานองแทบเป็นเลือดเดือดระบม อกของแม่ระทมสุดทนทาน
** พระโอรสสุดแสนจะเศร้าโศก แสนวิโยคโศกเศร้าเกินกล่าวขาน สุดสงสารพระมารดาพาร้าวราน กลัวว่าท่านจะขาดใจในบัดดล
** ใจเริ่มอ่อนคำวอนแม่ก้องในโสต ลูกนี้โฉดหนักหนาอุราหม่น ทำร้ายแม่ไม่สงสารสุดทานทน ลูกจะเลิกทำตนเหมือนแล้วมา
** อย่านะเจ้าเตมีย์อย่าใจอ่อน เจ้าได้ทนเดือดร้อนนานหนักหนา วันนี้วันสุดท้ายอย่ารั้งรา จงเดินหน้าเพื่อความหวังดังใจปอง
** พระโอรสได้สติเตือนพระองค์ ให้มั่นคงเอาไว้อย่าได้หมอง เมื่อรถม้าวิ่งไปตามครรลอง ก่อนผ่านช่องประตูพ้นจากวัง
** ทิ้งให้เสียงกรรแสงแห่งมารดา คร่ำครวญหาโหยหวนอยู่เบื้องหลัง ส่วนม้าได้วิ่งไปเต็มพลัง ตามคำสั่งสารถีมิเลือนราง
|
|
|
สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ สำนักพิมพ์ธรรมสภา ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์ อินทศรี บรรยายภาพ : บรรจบ บรรณรุจิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
กระทู้: 246
ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 05:45:43 PM » |
|
Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน ***
พระเจ้าสิบชาติ พระชาติที่ ๑ พระเตมีย์ ตอนที่ ๙ ความจริงปรากฏ ** เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้นอีกครา เมื่อสารถีบังคับม้าให้เยื้องย่าง ทางประตูตะวันออกนอกเส้นทาง ที่ได้วางเป้าหมายเอาไว้ไกล
** ตามกำหนดต้องเป็นตะวันตก กลับเวียนวกผิดทางอย่างยิ่งใหญ่ สารถีก็เหมือนถูกสิ่งใด มาดลให้ปล่อยม้าไม่ทัดทาน
** ครั้นถึงป่าแห่งหนึ่งจึงหยุดม้า โดยคิดว่าที่นี่เป็นสุสาน เปลื้องเครื่องทรงพระโอรสมิช้านาน แล้วเริ่มการขุดหลุมฝังภูมี
** พอพ้นประตูเมืองออกมาได้ พระโอรสโล่งใจอย่างเหลือที่ สมความปรารถนากันเสียที เราปลอดภัยครั้งนี้เพราะอดทน
** จึงเสด็จลุกขึ้นประทับนั่ง เพื่อยับยั้งความปวดเมื่อยทุกขุมขน เอาพระหัตถ์ถูกันหมดกังวล นวดพระบาทที่ผจญทรมาน
** สักครู่หนึ่งจึงเสด็จลงจากรถ เพื่อกำหนดการย่างก้าวอย่างห้าวหาญ ทรงทดสอบสมรรถนะการทำงาน ของร่างกายพระองค์ท่านที่ผ่านมา
** ทรงเดินไปเดินกลับสองสามรอบ หลังทดสอบความสามารถพลังขา เมื่อเห็นเป็นปกติชื่นอุรา ไม่ผิดแปลกไปกว่าคนทั่วไป
** จึงหันมาทดลองพลังแขน ยังแข็งแรงเหนียวแน่นสักแค่ไหน ใช้พระหัตถ์ยกรถม้าอย่างเร็วไว เหวี่ยงค้างไว้เหนือเศียรอย่างชำนาญ
** เมื่อทรงแน่พระทัยว่าเข้มแข็ง มีเรี่ยวแรงทรงพลังมาตรฐาน เดินไปหาสารถีบริวาร ทรงรื่นเริงสำราญในพระทัย
** สารถีสุนันทะหันมาเห็น ยืนตะลึงตัวเย็นเพราะสงสัย ครั้นรู้แน่พระองค์ผู้ทรงชัย ผู้มีวัยงดงามอร่ามตา
** แสนยินดีที่เห็นพระโอรส ไม่พิการงามงดเกินจักหา จึงกราบทูลเสด็จกลับนัครา เฝ้าราชามเหสีพร้อมกับตน
|
|
|
สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ สำนักพิมพ์ธรรมสภา ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์ อินทศรี บรรยายภาพ : บรรจบ บรรณรุจิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
กระทู้: 246
ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 08:06:23 PM » |
|
Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน ***
พระเจ้าสิบชาติ พระชาติที่ ๑ พระเตมีย์ ตอนที่ ๑๐ ไม่เสด็จกลับ ** พระโอรสตรัสตอบสารถี อยู่ที่นี่ตัวเราไม่สับสน ไม่กลับไปสู่สภาพที่มืดมน คอยกังวลเพราะตัณหามาครอบงำ
** บัดนี้ตัวของเราไม่มีแล้ว จะบ้านเรือนเพริดแพรวหรือขนำ ไม่มีทรัพย์สมบัติเงินทองคำ แม้วัวควายจะนำไปไถนา
** ทั้งพ่อแม่เครือญาติก็ทอดทิ้ง หมดตัวแล้วจริงจริงใช่แกล้งว่า จะขอบวชถือศีลภาวนา อยู่กลางป่าไม่กลับไปเวียงวัง
** สุนันทะจึงกราบทูลท่านเจ้าขา อยู่ในป่าอันตรายไร้ที่หวัง ทั้งเสือสิงห์กระทิงเปลี่ยวดุร้ายจัง มีพลังเหลือหลายหมายกัดกิน
** องค์โอรสตรัสตอบไม่หรอกท่าน อันตรายไม่แผ้วพานใช่หยามหมิ่น ผู้ทรงศีลย่อมปลอดภัยเป็นอาจิณ สัตว์ทั้งปวงไม่ถวิลมากล้ำกราย
** อันคนที่บวชแล้วเสียสละ เพราะได้ละผลประโยชน์ที่หลากหลาย จึงไม่มีศัตรูคอยทำลาย มุ่งมาดร้ายให้เดือดร้อนผู้ทรงธรรม
** สุนันทะสารถีมิย่อท้อ อ้อนวอนขอพระโอรสหวังชื่นฉ่ำ ให้คิดถึงประชาชนตาดำดำ พยายามน้อมนำให้เห็นดี
** พระโอรสก็ทรงไม่ใจอ่อน ยังยืนกรานไม่ย้อนกลับกรุงศรี พอพระทัยใช้ชีวิตในพงพี ขอบำเพ็ญบารมีที่ป่าไพร
** สุนนันทะกราบทูลโอรสา ตัวของข้าฯ ขอบวชด้วยได้ไหม เพื่อรับใช้ดูแลตลอดไป จะไม่ให้มีภัยมาแผ้วพาน
** พระโอรสตรัสตอบว่าไม่ได้ ท่านจะต้องกลับไปส่งข่าวสาร ให้มารดาบิดาข้าบริพาร ทรงทราบถึงเหตุการณ์หมดกังวล
** สารถีรับคำก่อนอำลา ขออนุญาตกลับมาอีกสักหน นำราชามเหสีและหมู่ชน มาเฝ้าเบื้องยุคลในไม่นาน
** พระโอรสอนุญาตตามที่ขอ อย่ารีรอรีบกลับพระราชฐาน จงโชคดีมีชัยสุขสำราญ ให้ปลอดภัยเบิกบานตลอดทาง
|
|
|
สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ สำนักพิมพ์ธรรมสภา ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์ อินทศรี บรรยายภาพ : บรรจบ บรรณรุจิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
กระทู้: 246
ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 08:11:12 PM » |
|
Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน ***
พระเจ้าสิบชาติ พระชาติที่ ๑ พระเตมีย์ ตอนที่ ๑๑ ทรงบวชเป็นฤๅษี ** ขอกล่าวถึงท้าวสักกะเทวราช ประทับอาสน์กัมพลไม่หม่นหมาง ทราบว่าพระเตมีย์ได้ปล่อยวาง ซึงกิเลสต่างต่างบวชกายา
** จึงสั่งให้วิสสุกรรมเทพบุตร จงรีบรุดเดินทางไปกลางป่า เนรมิตอาศรมและศาลา ไว้รอท่าเตมีย์ฤๅษีไพร
** พร้อมทั้งสระน้ำที่ร่มรื่น มีดอกบัวดาษดื่นบานไสว ส่งกลิ่นหอมอบอวลกระจายไกล เมื่อต้องลมดอกใบไหวตามลม
** พร้อมทั้งเนรมิตบริขาร สำหรับท่านฤๅษีที่เหมาะสม ผ้าเปลือกไม้สีแดงน่าชื่นชม ไว้นุ่งห่มยามประพฤติพรหมจรรย์
** อีกหนังเสือสำหรับไว้พาดบ่า ทั้งมีหาบในคราเข้าไพรสัณฑ์ เก็บผลไม้มาเสวยทุกทุกวัน และไม้เท้าค้ำยันตอนเดินดง
** ส่วนหน่อเนื้อเตมีย์โอรสราช ยุรยาตรเรื่อยไปดังประสงค์ พบอาศรมสวยงามและมั่นคง รู้ว่าเจตจำนงองค์เทวัญ
** จึงเสด็จเข้าไปในอาศรม ก็พบที่บรรทมช่างเสกสรร พร้อมทั้งบริขารอย่างครบครัน ทรงอธิษฐานใจพลันบวชทันที
** จึงได้เปลื้องเครื่องทรงออกเร็วไว แล้วครองผ้าเปลือกไม้เป็นฤๅษี หยิบหนังเสือพาดบ่าช่างดูดี จึงรีบเกล้าเมาลีเป็นผมมวย
** ถือไม้เท้ายกหาบขึ้นใสบ่า ก้าวออกมาจากอาศรมที่แสนสวย ทดลองเดินไปมากระชุ่มกระชวย ได้อุทานออกมาด้วยความสุขใจ
** การบวชนี้เราพบความสุขแท้ จะเหลียวแลมองหาไปทางไหน ช่างสดชื่นเสียจริงยิ่งกว่าใคร สุขภายในมีค่ากว่าเงินทอง
** พระฤๅษีจึงเดินเข้าที่พัก บำเพ็ญธรรมนำชักไม่ให้หมอง เจริญพรหมวิหารดังใจปอง เฝ้าหมั่นท่องภาวนาอย่างจริงจัง
** บรรลุฌานสมาบัติในวันนั้น ทำความฝันเป็นจริงได้สมใจหวัง คุ้มเหลือเกินกับการไม่กลับวัง การออกบวชเป็นรังโพธิญาณ
|
|
|
สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ สำนักพิมพ์ธรรมสภา ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์ อินทศรี บรรยายภาพ : บรรจบ บรรณรุจิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
กระทู้: 246
ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 08:22:13 PM » |
|
Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน ***
พระเจ้าสิบชาติ พระชาติที่ ๑ พระเตมีย์ ตอนที่ ๑๒ ดีใจกันทั่วหน้า ** พระบิดาพระมารดาทรงทราบเรื่อง จากสารถีกลับเมืองมาส่งสาร จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่รีบจัดการ จัดขบวนบริวารเพื่อเดินทาง
** ไปเยี่ยมพระฤๅษีที่บรรพต ใจจ่อจดเฝ้าคิดถึงอยู่ไม่สร่าง เฝ้าเป็นห่วงสายใยไม่จืดจาง คอยฟังข่าวอยู่ห่างห่างตลอดมา
** เปิดโอกาสให้ชาวเมืองร่วมขบวน จึงประกาศเชิญชวนกันถ้วนหน้า พวกชาวเมืองร่วมใจกันไคลคลา ได้มุ่งตรงไปหาองค์เตมีย์
** แต่ก่อนนั้นพระนครดูคึกคัก มีผู้คนทายทักเสียงอึงมี่ ต่างทำมาค้าขายด้วยไมตรี แต่บัดนี้เงียบเหงาไร้ผู้คน
** ท้าวกาสีมิห่วงใยราชสมบัติ ใจประหวัดแต่โอรสไม่หมองหม่น แม้พระนางจันทาไม่กังวล ทั้งสองคนเบิกบานในหทัย
** ฝ่ายชาวเมืองอิ่มเอิบในใจยิ่ง นับเป็นสิ่งดีเลิศในสมัย เหมือนดอกไม้ได้รับแสงยามอุทัย ไร้พิษภัยงดงามตระการตา
** เมื่อทุกคนได้พบกันดังมั่นหมาย ช่างรู้สึกใจสบายเป็นหนักหนา เหมือนได้วางสิ่งที่หนักอุรา ให้ออกมาจากก้นบึ้งอยู่ภายใน
** พระฤๅษีจึงได้บรรยายธรรม ให้ทุกคนชื่นฉ่ำและสดใส ความเร่าร้อนที่สุมอกเหมือนดังไฟ ไม่มีเหลือเยื่อใยมาเผากาย
** ทั้งบิดามารดาและชาวเมือง ต่างเลื่อมใสความปราดเปรื่องอย่างเหลือหลาย จึงขอบวชในสำนักกันทุกราย บำเพ็ญบุญหลีกอบายกันทุกคน
** ทั้งฤๅษีฤๅษิณีบรรลุฌาน เดินตามอย่างอาจารย์สร้างกุศล ครั้นเมื่อถึงเวลาต้องวายชนม์ ความดีได้ส่งผลให้ไปดี
**เกิดเป็นพรหมอยู่ในพรหมโลก ไม่มีทุกข์ไม่มีโศกต่างสุขี รอเวลาจะจุติใหม่อีกที เชิญน้องพี่ติดตามกันต่อไป
|
|
|
สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ สำนักพิมพ์ธรรมสภา ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์ อินทศรี บรรยายภาพ : บรรจบ บรรณรุจิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
กระทู้: 246
ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 08:28:52 PM » |
|
Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน ***
พระเจ้าสิบชาติ พระชาติที่ ๑ พระเตมีย์ บทส่งท้าย ** เนกขัมมะก็คือการถือบวช จักเกิดสุขยิ่งยวดจะหาไหน ออกจากกามเป็นเรื่องที่ใครใคร หากทำได้สุขยิ่งในโลกา
** จุดประสงค์เพื่อละซึ่งนิวรณ์ ที่ทำให้เดือดร้อนรวมเป็นห้า ทั้งรูปรสกลิ้นเสียงล้วนจะพา ให้เกิดโทษตามมาอีกมากมาย
** ทุกทุกสิ่งล้วนแต่อนิจจัง ให้จีรังยั่งยืนอย่าพึงหมาย เมือเกิดแล้วต้องสิ้นไปอย่างมงาย รีบทำลายได้ชื่อว่าเข้าถึงธรรม
** เนกขัมมะก็คือการบวชใจ เพื่อทำให้จิตสงบไม่ถลำ สู่อำนาจของตัณหาที่ครอบงำ สมาธิจะน้อมนำให้สุขใจ
|
|
|
สมพงศ์ ชูสุวรรณ บ้านกัลปังหา ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ สำนักพิมพ์ธรรมสภา ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์ อินทศรี บรรยายภาพ : บรรจบ บรรณรุจิ
น้องจ๋า น้องจ๋าจ้า, เริงอักษร, chewin57, ผู้พัน ใหม่ ไม่หวานแล้ว (จืดสนิท), หมอกริชครับ...คมกริช... คมกริช, รชนิชล น้ำค้างหยดเดียว, น้องขวัญ น้องขวัญ น้องขวัญนะจ๊ะ, สาครินทร์ หิรัญเดช, น้องมีน น้องมีน น้องมีนนะจ๊ะ, หมอจุ๋ม จุ๋มจิ๋ม จิ๋มจุ๋ม, ญิบสลิล ณ นคร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|