“ผิวหนังอักเสบ” โรคเรื้อรังที่ส่งผลต่อสุขภาพจิต

โรคผิวหนังอักเสบเกิดได้กับคนทุกเพศทุกวัย และมีอาการเรื้อรังจนก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพจิต
เราจึงควรดูแลเอาใจใส่ตนเองและคนรอบข้างเพื่อความห่างไกลจากโรค และผู้ที่กำลังป่วยก็ควรรักษาตัวเองอย่างถูกวิธี
เพื่อการหายขาดอย่างสมบูรณ์ และไม่กลับมาเป็นโรคนี้อีกต่อไป

ท่ามกลางวิถีชีวิตอันเร่งรีบ สภาพแวดล้อมที่บั่นทอน แน่นอนว่า คงไม่มีใครต้องการให้สุขภาพ
ของตนถูกคุกคามด้วยโรคที่ไม่ได้เชื้อเชิญ โดยเฉพาะโรคผิวหนัง เพราะนอกจากส่งผลเสียกับร่างกาย
สภาพจิตใจก็มักย่ำแย่ตาม เหตุเพราะผิวหนังคือส่วนหนึ่งของบุคลิก เมื่อบุคลิกมีตำหนิ
ความมั่นใจในการดำเนินชีวิตจึงขาดหาย โดยหนึ่งในอาการทางผิวหนังที่พบบ่อยคือ
“โรคผิวหนังอักเสบ” ซึ่งคงดีไม่น้อย หากทุกคนได้ทำความ
รู้จักกับโรคนี้ เพื่อรู้ถึงแนวทางป้องกันรักษาในเบื้องต้น

กลไกของโรคผิวหนังอักเสบ
โดยปกติ ร่างกายจะมีภูมิต้านทานในการป้องกันสิ่งแปลกปลอม แต่เมื่อมีเชื้อโรค หรือสารเคมี
ที่ก่อให้เกิดการอักเสบมาสัมผัสกับผิวหนัง ร่างกายจะปกป้องและต่อต้านสารดังกล่าว
โดยมีปฏิกิริยาภูมิแพ้เกิดขึ้นอย่างช้าๆ ผ่านผิวหนัง โดยอาจเกิดภายในเวลา 12 ถึง 48 ชั่วโมง
หลังจากสัมผัสกับสารหรือเชื้อโรคนั้น ผู้ป่วยบางรายมีภูมิต้านทานต่ำ อาจเกิดปฏิกิริยาทางผิวหนังรวดเร็วในเวลาเพียง 4 ชั่วโมง

สาเหตุของโรคผิวหนังอักเสบเกิดจากอะไร
หลายปัจจัยของร่างกายและสิ่งแวดล้อมทำให้โรคผิวหนังอักเสบเกิดขึ้นโดยง่าย สาเหตุสำคัญเกิดจาก
สองส่วนดังนี้ สาเหตุจากภายในร่างกาย อาจเกิดจากโรคภูมิแพ้ที่เป็นโดยกำเนิด หรือมีการเปลี่ยนแปลงในระบบร่างกาย สรีระ
ทำให้ภูมิแพ้แสดงปฏิกิริยาออกมาผ่านทางผิวหนัง สาเหตุจากภายนอกร่างกาย เกิดจากผิวหนังสัมผัสกับสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
หรือสิ่งสกปรกที่ทำให้อาการภูมิแพ้เกิดขึ้น อาทิ ผิวหนังอักเสบบริเวณติ่งหู อาจเกิดจากการแพ้ต่างหู
เนื่องจากต่างหูที่ใส่มีสารปนเปื้อน และไม่ผ่านการทำความสะอาด เป็นต้น

นอกจากนี้ “สิว” ก็เป็นอีกสาเหตุสำคัญ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นสิวขั้นรุนแรง เรื้อรัง และขาดการรักษาอย่างถูกวิธี
เช่น ไม่รักษาความสะอาด ใช้ยาแต้มสิวผิดประเภท ทั้งยังมีพฤติกรรมชอบบีบ หรือแกะสิวจนก่อให้เกิดแผลอักเสบ
เป็นเหตุให้เชื้อโรคและสารระคายเคืองต่างๆ แทรกซึมสู่ผิวหนังได้ในที่สุด

ลักษณะอาการของโรคผิวหนังอักเสบ
ผู้ป่วยโรคผิวหนังอักเสบโดยส่วนใหญ่มีอาการของโรคแบ่งเป็นสองระยะคือ ระยะเฉียบพลัน มีลักษณะผิวหนังเป็นรอยแดง
บวม ผิวหนังลอกเป็นขุยและตกสะเก็ด ระยะเรื้อรัง ผิวหนังมีลักษณะเป็นรอยหนา ด้าน ลอกเป็นขุย และมีอาการคันอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ผิวหนังของผู้ป่วยยังมีผื่นแดงและสะเก็ดเล็ก ๆ บริเวณระหว่างคิ้ว, ซอกจมูก, รูหู, หลังใบหู
บางรายอาจเกิดผื่นบริเวณศีรษะ ลำตัว ขาหนีบ และอวัยวะเพศ ซึ่งผื่นเหล่านี้มักเห่อขึ้นในช่วงฤดูหนาว
หรือในขณะที่ผู้ป่วยเกิดความเครียด สะเก็ดของผื่นจะมีลักษณะมันและมีขอบเห็นชัดเจน
โดยผู้ป่วยที่เป็นเด็กเล็กมักเกิดผื่นบริเวณศีรษะ ใบหน้า ลำคอ และแขน
ส่วนวัยรุ่นและผู้ใหญ่มักพบบริเวณข้อพับช่วงแขน ขา และขาหนีบ

การรักษาอาการของโรคผิวหนังอักเสบ
อุปสรรคของการรักษาโรคผิวหนังอักเสบคือ ลักษณะอาการที่ค่อนข้างเรื้อรัง ดังนั้น ผู้ป่วยจึงควรพบ
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนัง เพื่อรับคำปรึกษาและใช้ยาที่ถูกชนิด ไม่ควรซื้อยามาทาหรือรับประทานเอง
โดยขาดคำแนะนำจากแพทย์ เพราะร่างกายอาจเกิดอาการแพ้ ลุกลามและทวีความรุนแรงโดยคาดไม่ถึง
ซึ่งปัจจุบันยาที่ใช้ในการรักษามักเป็นครีมหรือขี้ผึ้งคอร์ติโคสเตียรอยด์สำหรับทาภายนอก
หรือยาชนิดรับประทานคอร์ติโคสเตียรอยด์ สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการอักเสบขั้นรุนแรง
ทั้งนี้การเลือกใช้ยาขึ้นอยู่กับลักษณะอาการและความรุนแรงของผู้ป่วยแต่ละคน
ซึ่งควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ เพราะยาประเภท คอร์ติโคสเตียรอยด์นั้น
หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานอาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ผิวบางลง ผิวแตกคล้าย หน้าท้องสตรีมีครรภ์
เส้นเลือดขยายตัว และผิวด่าง เป็นต้น

สิ่งสำคัญเหนืออื่นใด นอกจากการรักษาโดยคำแนะนำของแพทย์ การดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ
ก็นับว่าสำคัญ หลักง่ายๆ คือ ไม่รบกวนผิวหนังโดยการเกาหรือสัมผัสบ่อยครั้ง ไม่ล้างหน้าบ่อยเกินไป
และขณะล้างควรใช้ความนุ่มนวล ไม่ขัดถูด้วยความรุนแรง ใช้ผลิตภัณฑ์ชำระล้างร่างกายที่ละเอียดอ่อน
ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว รักษาความสะอาดของร่างกาย ที่อยู่อาศัย และเครื่องนุ่งห่ม
รวมทั้งอาหารการกินต้องสะอาด พิถีพิถัน หมั่นสังเกตอาการของตนเองเป็นระยะ และหลีกเลี่ยงความเครียด

การป้องกันตนเองจากโรคผิวหนังอักเสบ
การป้องกันโรคผิวหนังอักเสบที่ดีที่สุดคือ ดูแลรักษาความสะอาดของผิว หลีกเลี่ยงการสัมผัสสิ่งสกปรก
และสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เพราะผิวหนังมีความบอบบาง ควรเลือกสรรเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์
ในการดูแลผิวที่เหมาะสมกับสภาพผิวของตนเอง จัดสภาพแวดล้อมที่ตนเองคลุกคลีในชีวิตประจำวันให้สะอาด
สร้างภูมิต้านทานโรคโดยการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หมั่นออก กำลังกาย หากต้องสัมผัสกับสารเคมี
หรือสิ่งสกปรกโดยไม่อาจเลี่ยงได้ ควรป้องกันผิวหนังในส่วนที่ต้องสัมผัสกับสิ่งเหล่านั้นทุกครั้ง
เช่น ใส่ถุงมือยาง รองเท้าบูธ ผ้ากันเปื้อน เป็นต้น ซึ่งการป้องกันนี้
ควรเคร่งครัดเป็นพิเศษสำหรับผู้ทำงานภาคอุตสาหกรรมที่ต้องสัมผัสกับสารเคมีและฝุ่นละอองอยู่เสมอ

แม้ว่าผิวหนังอักเสบจะเป็นโรคเรื้อรัง แต่หากรู้จักดูแลสุขภาพร่างกาย ดูแลผิวอย่างถูกวิธี
อาการของโรคก็จะเบาบางและหายขาดเร็วขึ้น ยิ่งหากรู้จักป้องกันตนเองตั้งแต่แรกเริ่ม
เราอาจไม่มีโอกาสเป็นโรคผิวหนังอักเสบเลยก็เป็นได้

ตัวอย่างสารที่ก่อให้เกิดอาการอักเสบที่พบบ่อยและควรระมัดระวัง
เนื่องจากสารเหล่านี้มีความเข้มข้น ระยะเวลาที่ผิวหนังสัมผัสเป็นเวลานาน สามารถทวีความรุนแรงของอาการได้มากขึ้น
กรด ทั้งในรูปสารละลาย เช่น น้ำส้มสายชู
ด่าง ในน้ำยาทำความสะอาดพื้นห้อง ห้องน้ำ สารส้ม
ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน น้ำยาฟอกขาว รวมทั้งสารทำความสะอาดเครื่องนุ่งห่มจำพวกสูตรไฮโดรเจน สูตรออกซี่
สารเคมีจำพวกผสมสูตรน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล ฟอร์มาลิน ยาแดง ด่างทับทิม
สารวัตถุระเบิด ยาฆ่าแมลงชนิดต่างๆ

KBeautifullife