ไซนัสอักเสบ

ไซนัสอักเสบ เมื่อโพรงอากาศพลาดท่ามาติดเชื้อ
เมื่ออาการของหวัดหรือภูมิแพ้ได้เลยเถิดไปถึงไซนัสอักเสบ หลายท่านก็คงจะสงสัยว่า ตกลงไซนัสคืออะไรกันแน่
ทำไมคนเราต้องมีไซนัสมาคอยอักเสบราวกับไส้ติ่ง แล้วทำไมบางทีเป็นแล้วเป็นอีก

ลองมาค้นหาคำตอบของหลากหลายคำถามที่เกิดขึ้นเพราะอาการไซนัสอักเสบ...
อาการกำเริบครั้งใด จะได้รู้เท่าทันและป้องกันได้ถูกวิธี

เริ่มต้นรู้จักกับ “ไซนัส”
ไซนัสคือช่องอากาศที่อยู่บริเวณโหนกแก้ม รอบๆ ตา บริเวณโคนจมูก และกลางหน้าผาก
ซึ่งมีหน้าที่หลักในการทำความชื้น กรองอากาศ และเพิ่มความอุ่นของอากาศในช่องจมูก
นอกจากนั้น ยังมีส่วนในการออกเสียงอีกด้วย รูเปิดของบรรดาไซนัสเหล่านี้ก็ไม่ใช่ที่ไหนอื่นไกล
แต่เป็นในโพรงจมูกของเรานี่เอง คราวนี้หากมีอะไรที่ไปทำให้รูเปิดของไซนัสบวม
ทำให้การระบายอากาศภายในไซนัสไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นหวัดหรือภูมิแพ้ ก็จะนำไปสู่ไซนัสอักเสบ

ไซนัสอักเสบมีอยู่ด้วยกันสองลักษณะ พวกแรกเป็นแบบเฉียบพลัน ซึ่งมักเกิดขึ้นจากภาวะแทรกซ้อนของการเป็นหวัดธรรมดา
และมักเกิดขึ้นประมาณห้าถึงสิบวันหลังจากการเป็นหวัด พวกนี้มักเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย
ส่วนพวกที่สองเป็นภาวะที่เรียกว่าไซนัสอักเสบเรื้อรัง ซึ่งหลายท่านคงเคยได้ยินมาว่า
บางคนเป็นไซนัสอักเสบแล้วรักษาไม่หายขาดเสียที หรือเป็นแล้วเป็นอีก พวกนี้ไม่ได้เกิดจากเชื้อแบคทีเรียเพียงอย่างเดียว
บางครั้งยังมีไวรัสและเชื้อราเข้าไปผสมโรงได้ด้วย

เยื่อบุไซนัสของผู้ป่วยในกลุ่มนี้มักมีการอักเสบและบวมเป็นทุนเดิมอยู่ (เช่น จากภูมิแพ้ การอักเสบครั้งก่อน หรือความผิดปกติของเซลล์ที่เยื่อบุเอง)
และมีการติดเชื้อเป็นพักๆ บ้างก็พานไปติดเชื้อดื้อยาเข้า ทำให้การ
รักษายากยิ่งขึ้น รายที่เป็นภูมิแพ้อยู่เดิมนั้น เมื่อไปสัมผัสกับสิ่งที่ตนเองแพ้เข้าก็จะทำให้เยื่อบุจมูกและไซนัสเกิดการอักเสบและบวมมากขึ้นอีก
ทำให้การระบายมูกและเชื้อโรคออกจากไซนัสยากขึ้น ทำให้มีโอกาสเป็นไซนัสอักเสบติดเชื้อได้มากกว่าคนที่ไม่ได้เป็นภูมิแพ้
บางรายรูเปิดของไซนัสแคบผิดปกติ หรือดั้งจมูกคดไปมาก ก็อาจทำให้เกิดไซนัสอักเสบได้อีกด้วย

รู้เท่าทัน “ไซนัสอักเสบ”
อาการที่ทำให้ต้องนึกถึงว่าไซนัสอักเสบอาจมาเยือน ได้แก่การมีน้ำมูกเหนียวๆ สีเหลืองๆ หยดลงในคอ
และมักจะมีกลิ่นที่ไม่น่าพึงปรารถนาเท่าใดนัก บางครั้งน้ำมูกที่หยดเหล่านี้ก็จะพาให้ไอได้ อาการหนักๆ
ในศีรษะหรืออาการปวดศีรษะ จมูกที่คัดแน่น ผิดปกติ แน่นหรือปวดตามหน้า แก้ม เบ้าตา หน้าผาก หรือโคนจมูก
บางครั้งพาเอาหน้าบวมก็มี ปวดฟัน เพลียอยู่ตลอดเวลา และบางครั้งอาจมีไข้ร่วมด้วย
และอีกอย่างหนึ่งก็คือ หวัดที่เป็นเรื้อรังและไม่หายขาดเสียที

ความแตกต่างของ “โพรงจมูกอักเสบ” และ “ไซนัสอักเสบ”
ส่วนโพรงจมูกอักเสบนั้นไม่เหมือนกับไซนัสอักเสบเสียทีเดียว โดยโพรงจมูกอักเสบจากภูมิแพ้จะทำให้มีอาการจาม คันจมูก
น้ำมูกใส ไหลเป็นหลัก บางครั้งมีอาการคันตา คันหู และเพดานปากร่วมด้วย จะเห็นได้ว่าอาการหลักจะมาในแนวคันและจาม
ส่วนโพรงจมูกอักเสบที่ไม่ได้เกิดจากภูมิแพ้จะมาในแนวคัดจมูก น้ำมูกใสไหลเวลาอากาศเปลี่ยน เช่น อากาศเย็นหรือฝนตก
ในกลุ่มหลังนี้ บางครั้งผู้ป่วยอาจแยกไม่ออกจากอาการของไซนัสอักเสบ ก็อาจต้องปรึกษาแพทย์ดู

แพทย์จะบอกว่าใครเป็นไซนัสอักเสบก็อาศัยหลายปัจจัยด้วยกัน ตั้งแต่ประวัติอาการดังที่กล่าวไปแล้ว
ร่วมกับการส่องดูในจมูกและคอ ส่วนการยืนยันก็ต้องอาศัยการเอกซเรย์หรือคอมพิวเตอร์เอกซเรย์
ซึ่งนอกจากจะเห็นว่ามีการอักเสบหรือหนองภายในไซนัสแล้ว ยังเห็นโครงสร้างของจมูกและไซนัสได้ชัดเจน

การรักษาที่สำคัญคงจะเป็นยาปฏิชีวนะ และที่สำคัญกว่านั้นคือ ต้องรับประทานให้ครบตามที่แพทย์แนะนำ
มิฉะนั้นจะพาให้เกิดไซนัสอักเสบเรื้อรังหรือเชื้อดื้อยาได้ นอกจากนั้นแพทย์บางท่านอาจแนะนำยาจำพวกแก้คัดจมูก
ยาละลายเสมหะ หรือยาพ่นจมูกตามความนิยมของแต่ละท่าน การป้องกันและรักษาภูมิแพ้ตามที่แพทย์แนะนำก็มีส่วนสำคัญในการรักษาและป้องกันด้วย

ปรับกระบวนกิน พิชิตไซนัส
นอกจากการรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบันแล้ว การดูแลสุขภาพด้วยการออกกำลังกายและเลือกรับประทาน อาหารที่มีประโยชน์
ก็เป็นอีกทางเลือกที่จะช่วยบรรเทาอาการไซนัสอักเสบ โดยเฉพาะการหันมาใส่ใจการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
และหลีกเลี่ยงเมนูทำลายสุขภาพ

กระบวนที่ 1 กินอาหารที่มีวิตามินซี เนื่องจากวิตามินซีเป็นสารต้านฟรีแรดิคัลอย่างหนึ่ง
ที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและกระตุ้นการทำงานของแอนติบอดี้ และเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน

กระบวนที่ 2 เริ่มจากของชอบ กระบวนนี้ถือเป็นกุศโลบายส่วนตัวที่ทำให้กินผักได้มากขึ้นเรียกว่าไ
ด้ทั้งคุณค่าและรสชาติที่ยังลงตัวเหมือนเดิม

กระบวนที่ 3 เป็นมิตรกับข้าวกล้องและธัญพืช เมื่อการชิมลางกินอาหารสุขภาพผ่านฉลุย
ลองเปลี่ยนเมนูข้าวขาวมาเป็นข้าวกล้องหรือธัญพืชนานาชนิด

กระบวนที่ 4 กินผักพื้นบ้าน สำหรับอาหารที่มีคุณค่าทางอาหารสูง
แต่หลายๆ คนยกให้เป็นอาหารที่รับประทานยากอย่างผักพื้นบ้านนั้น มีเคล็ดลับง่ายๆ
ที่ทำให้คุณมีความสุขกับการกิน คือ นำผักพื้นบ้านมาเป็นส่วนประกอบในเมนูโปรด เช่น ยำใบบัวบก
รสชาติของน้ำยำจะช่วยให้เราลืมกลิ่นและรสของใบบัวบกไปอย่างไม่น่าเชื่อ

กระบวนที่ 5 เลิกดื่มน้ำอัดลม อย่างที่ทราบกันดีว่าน้ำอัดลมถือเป็นตัวการสำคัญอย่างหนึ่งในการทำลายสุขภาพ
หากมีพฤติกรรมการดื่มน้ำอัดลมที่เรียกว่าดื่มหนักอย่างหาตัวจับได้ยากก็ควรเปลี่ยนแปลงตัวเองทันที

KBeautifullife