เมื่อคาร์โบไฮเดรตเกินพิกัด....ทำไงดี

เมื่อคาร์โบไฮเดรตเกินพิกัด

หากใครคิดว่า ยิ่งสารอาหารยิ่งเยอะ จะยิ่งดีต่อร่างกาย ขอบอกว่าคิดผิด...
โดยเฉพาะสารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตที่ยิ่งเยอะ ยิ่งเกิดผลเสียต่อ
เพราะคาร์โบไฮเดรตที่มากเกินความจำเป็น และไม่ได้ถูกนำไปใช้อย่างเต็มที่จะถูกแปลงสภาพเป็นไขมัน
สะสมอยู่ในส่วนต่างๆ ของร่างกาย
อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต พบมากในเมล็ดธัญพืชและเมล็ดข้าวแทบทุกชนิด และยังมีในแป้งและผลผลิต
ที่ทำจากข้าว แป้ง หรือน้ำตาล
การย่อยสลายหรือเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตต้องอาศัยวิตามินบีหลายตัวเพื่อช่วยในกระบวนการดังกล่าว
เช่น วิตามินบีสอง ไนอะซิน วิตามินบีหนึ่ง กรดแพนโทเทนิก และไบโอทิน ดังนั้น เมื่อกินคาร์โบไฮเดรตมาก
ก็ยิ่งต้องใช้วิตามินดังกล่าวมากขึ้นตามสัดส่วน หากร่างกายขาดวิตามินบีหรือระบบฮอร์โมนมีอาการผิดปกติ
ก็จะมีผลต่อการใช้คาร์โบไฮเดรตในร่างกายและเกิดโรคภัยไข้เจ็บตามมาอีกด้วย

ปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่เหมาะสมในแต่ละวัน
ควรรับประทานให้ได้ประมาณร้อยละ 65 ของพลังงานที่ร่างกายต้องการต่อวัน
แต่การทานคาร์โบไฮเดรตมากเกินไปก็ก่อให้เกิดผลเสีย ดังนี้
น้ำหนักมากเกินเกณฑ์มาตรฐาน ส่งผลให้เกิดโรคตามมา เช่น โรคเบาหวาน โรคไต โรคหัวใจและ
หลอดเลือดบางอย่าง เพราะคาร์โบไฮเดรตที่มากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการจะไปสะสมในรูปของไขมัน
ทำให้กินอาหารที่มีประโยชน์อย่างอื่นได้น้อยลง
เกิดโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับปริมาณและชนิดของคาร์โบไฮเดรตที่รับประทาน อาทิ คาร์โบไฮเดรตที่ติด
ฟันง่าย เช่น ทอฟฟี่ ลูกกวาด จะก่อให้เกิดโรคฟัน แต่ถ้าวันใดทานคาร์โบไฮเดรตน้อยไปหรือน้อยกว่าวันละ 100 กรัม
อาจก่อให้เกิดภาวะดังต่อไปนี้
ทำให้น้ำมันเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ เกิดสารคีโทน (ketone bodies) ในเลือด ซึ่งมีปฏิกิริยาเป็น
กรดต่อร่างกาย
โปรตีนจะถูกเผาไหม้ให้เป็น พลังงานแทน
ทำให้น้ำตาลในเลือดต่ำ เกิดอาการอ่อนเพลีย หมดสติ
ดังนั้น รับประทานอาหารครั้งต่อไป ควรรับประทานให้พอดีกับความต้องการของร่างกาย ไม่มากไม่น้อยเกินไป
เพื่อรักษาสมดุลในร่างกายให้พอดี

KBeautifullife