หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: โรคแพนิค (Panic)  (อ่าน 3357 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 65535
เหรียญรางวัล:
PJ ดีเด่นนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลเว็บ
กระทู้: 18,135
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สาวหวาน กับ ความฝันไม่รู้จบ "
   
« เมื่อ: 16 ตุลาคม 2556, 09:02:31 AM »

Permalink: โรคแพนิค (Panic)


โรคแพนิค (Panic)


อาการแพนิคจะเกิดที่ไหนเมื่อไรก็ได้และคาดเดาได้ยาก แต่ผู้ป่วยมักพยายามสังเกตและเชื่อมโยงหาเหตุ
ที่กระตุ้นให้เกิดอาการเพื่อที่ตนจะได้หลีกเลี่ยงและรู้สึกว่าสามารถควบคุมมันได้บ้าง เช่นผู้ป่วยบางราย
ไปเกิดอาการขณะขับรถทำให้ไม่กล้าขับรถบางรายเกิดอาการขณะกำลังเดินข้ามสะพานลอยก็จะไม่กล้า
ขึ้นสะพานลอยผู้ป่วยบางรายไม่กล้าไปไหนคนเดียวหรือไม่กล้าอยู่คนเดียวเพราะ กลัวว่าถ้าเกิดอาการ
ขึ้นมาอีกจะไม่มีใครช่วยในบางรายอาจมีเหตุกระตุ้นจริงๆบางอย่างได้เช่นการออกกำลังหนักๆหรือ
เครื่องดื่มที่มีสารคาเฟอีนเช่น กาแฟ ชา น้ำโคล่า ในกรณีแบบนี้ควรหลีกเลี่ยงสิ่งต่างๆเหล่านี้

ขณะเกิดอาการผู้ป่วยมักกลัวและรีบไปโรงพยาบาลซึ่งแพทย์ที่ห้องฉุกเฉินมักตรวจไม่พบความผิดปกติ
และมักได้รับการสรุปว่าเป็นอาการเครียดหรือคิดมาก ซึ่งผู้ป่วยก็มักยอมรับไม่ได้และปฏิเสธว่าไม่ได้เครียด
 เมื่อเกิดอาการอีกในครั้งต่อมาผู้ป่วยก็จะไปโรงพยาบาลอื่นและมักได้คำตอบแบบเดียวกัน ผู้ป่วยหลายๆ ราย ไป
ปรึกษาแพทย์เพื่อเช็คสุขภาพโดยเฉพาะหัวใจซึ่งก็มักได้รับการตรวจเช็คร่าง กายอย่างละเอียดและ
ไม่พบความผิดปกติอะไรที่สามารถอธิบายอาการดังกล่าวได้ จนเป็นที่มาของการไปพบแพทย์ที่ห้องฉุกเฉินเป็นประจำ
 และใช้หมอเปลืองมาก (บางราย อาจจะมากกว่า 10 ด้วยซ้ำไป) อยู่ในภาวะที่เรียกว่า doctor shopping ซึ่งก็ยิ่งทำให้ผู้ป่วย
 กังวลมากขึ้นไปอีก อาการต่างๆที่เกิดขึ้นเรียกว่าอาการแพนิคซึ่งแปลว่าตื่นตระหนกเราจะสังเกตุ
 ได้ว่าอาการต่างๆจะคล้ายกับ อาการของคนที่กำลังตื่นตระหนกในโรคแพนิคผู้ป่วยจะเกิดอาการแพนิคนี้ขึ้นมา
 เองโดยไม่มีเหตุกระตุ้นและ เกิดแล้วเกิดอีกซ้ำๆการไม่รู้ว่าตนกำลังเป็นอะไรจะยิ่งเพิ่มความตื่นตระหนก
 ให้รุนแรงขึ้นอาการแพนิค ไม่มีอันตราย อาการนี้ทำให้เกิดความไม่สบายเท่านั้นแต่ ไม่มีอันตราย
 สังเกตุได้จากการที่ผู้ป่วยมักจะ มีอาการมานานบางคนเป็นมาหลายปีเกิดอาการแพนิคมาเป็นร้อยครั้งแต่ก็ไม่เห็น
 เป็นอะไรสักทีบางคน เป็นทีไรต้องรีบไปโรงพยาบาล”แทบไม่ทัน”ทุกครั้ง
แต่ไม่ว่ารถจะติดอย่างไรก็ ไป”ทัน”ทุกครั้งเพราะอาการ แพนิค ไม่มีอันตราย

สาเหตุ
สาเหตุของโรคจริงๆนี้นไม่ทราบ แต่เชื่อว่ามีหลายปัจจัย ดังต่อไปนี้

1. ทางด้านร่างกาย
1.1 ในปัจจุบันเราพอจะทราบว่าสาเหตุของโรคแพนิค มีปัญหาในการทำงานของสมองส่วนควบคุม “ความกลัว (fear)”
ซึ่งก็คือบริเวณโครงสร้างลึกๆในสมองที่เรียกว่า “อะมิกดาลา (Amygdala)” ซึ่งสมองส่วนนี้เป็นส่วนที่เล็กมาก
แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นนั้นทำให้มีปฏิกิริยามากมายต่อร่างกายและจิตใจ ซึ่งมีรายงานการศึกษาวิจัยในสัตว์ทดลองสรุปไว้ว่า
 ภาวะความผิดปกติทางด้านวิตกกังวลทั้งหลายมีความสัมพันธ์กันกับอะมิกดาลาใน
 สมองที่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างกับร่างกายและจิตใจโดยเฉพาะความ กลัว ความจำ (เจ็ดชั่วโคตร)
ความวิตกกังวลมากมายที่ส่งผลต่อพฤติกรรม
 จึงทำให้มีการศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพมากมายเพื่อพัฒนาหาแนวทางในการ รักษาให้เหมาะสม

ดังนั้นเมื่อมีสิ่งกระตุ้นจากภายนอกหรือภายในก็ตามที ทำให้มีผลเกิดการเปลี่ยนแปลงของสารสื่อประสาทในสมอง
 ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมและความคิดเป็นอย่างมาก
ภาวะวิตกกังวลนี้ส่งผลต่อร่างกายและจิตใจให้ตกอยู่ในภาวะการณ์ที่เรียกว่า “สู้หรือถอย (fight or flight)

1.2 ความผิดปกติเกี่ยวกับฮอร์โมน ความเจ็บป่วยโรคทางกาย สารเสพติด และ กรรมพันธ์

2. สาเหตุทางจิตใจ เช่น การเผชิญความวิตกกังวลในชีวิตประจำวันอย่างรุนแรง (severe stress)
เช่น อุบัติเหตุ ภัยพิบัติ ถูกข่มขืน หย่าร้าง อกหัก ตกงาน หรือมีประวัติได้รับความกระทบเทือนทางจิตใจอย่างรุนแรง

โรคแพนิกเป็นภาวะะวิตกกังวลชนิดหนึ่ง ซึ่ง ศ. นพ.พิเชฐ อุดมรัตน์ ได้กล่าวไว้ใน
 คู่มือการดูแลผู้มีปัญหาสุขภาพจิตและจิตเวชว่า เป็นภาวะวิตกกังวลที่ผู้ป่วยจะจำได้แม่นยำถึงอาการ ความรุนแรงของอาการ
สถานที่เกิดอาการ จนทำให้ผู้ป่วยต้องหยุดหรือพยายามเลิกกิจกรรมที่กำลังทำอยู่ เช่น หากเป็นขณะขับรถ
 ก็จอดรถ หรือหากเป็นขณะซื้อของในห้างก็จะรีบออกจากห้าง เช่นนี้เป็นต้น

ลักษณะเฉพาะเจาะจงของโรคแพนิก
1. อาการของโรคแพนิก ช่วงระยะเวลาหนึ่งที่ผู่ป่วยมีความกลัว หรือรูสึกไม่สบายอย่างรุนแรง
โดยมีอาการดังต่อไปนี้อย่างน้อย 4 อาการ เกิดขึ้นแบบทันทีทันใดและรุนแรงที่สุดภายในเวลา 10 นาที

ใจสั่น
หัวใจเต้นแรง
เหงื่อแตก ตัวสั่น
เวียนศรีษะ หรือเป็นลม
เจ็บหรือแน่นหน้าอก
หนาวสั่น หรือร้อนวูบวาบ
ชาหรือรู้สึกเป็นเหน็บ
หายใจไม่ออก รู้สึกเหมือนมีก้อนจุกที่คอ
คลื่นไส้หรือปั่นป่วนในท้อง
กลัว่าจะควบคุมตนเองไม่ได้
กลัวว่าตนเองจะตาย


2. อาการของแพนิก เหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำๆ

3. ผู้ปวยมีความกังวลว่าตัวเองจะเกิดอาการแบบนี้ขึ้นมาอีกหรือไม่สบายใจเกี่ยว กับผลที่ตามมาจากการมีแพนิก
 หรือมีอาการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอย่างมากที่สัมพันธ์กับการเกิดแพนิก

4. ความกังวลหรือพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปดังกล่าวจะต้องเกิดขึ้นนานอย่างน้อย 1 เดือน

การรักษา
ด้วยว่าโรคแพนิกนั้น จัดว่าเป็นการเจ็บป่วยจริงๆ (real illness) ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีสื่อประสาทในสมอง
ดังนั้น การรักษาที่จะได้ผลดี ประกอบไปด้วย

1. การรักษาด้วยยา

1.1 ยาแก้เป็นยาที่ออกฤทธิ์เร็วใช้เมื่อเกิดอาการขึ้นมาเป็นทีกินทีกินแล้วหาย เร็วได้แก่ยาที่คนทั่วไปรู้จักกัน
 ในนามของยา”กล่อมประสาท”หรือยา”คลายกังวล”ยาประเภทนี้มีความปลอดภัยสูงแต่
ถ้ารับประทาน ติดต่อกันนานๆจะเกิดการติดยาและเลิกยาก

1.2 ยาป้องกันเป็นยาที่ออกฤทธิ์ช้าปรับยาครั้งหนึ่งต้องรอ 2-3 สัปดาห์จึงจะเห็นผลเมื่อยาออกฤทธิ์เต็มที่
ผู้ป่วยจะไม่มีอาการแพนิคเกิดขึ้นเลยยากลุ่มนี้จะเป็นยาที่ใช้รักษาโรคซึม เศร้าบางตัวยากลุ่มนี้ไม่ทำให้
 เกิดการติดยาและสามารถหยุดยาได้เมื่อโรคหายในการรักษาด้วยยาเราจะจ่ายยาทั้ง 2 กลุ่มในช่วงแรกๆ
 ยาป้องกันยังออกฤทธิ์ไม่เต็มที่ผู้ป่วยจะยังมีอาการจึงยังต้องใช้ยาแก้อยู่ เมื่อยาป้องกันเริ่มออกฤทธิ์
ผู้ป่วยจะกินยาแก้น้อยลงเอง แพทย์จะค่อยๆเพิ่มยาป้องกันจนผู้ป่วย “หายสนิท” คือไม่มีอาการเลย
แล้วให้ผู้ป่วยรับประทานยาต่อไปเป็นเวลา 8-12 เดือน หลังจากนั้นจะให้ผู้ป่วยค่อยๆหยุดยา ผู้ป่วย
ส่วนใหญ่จะสามารถหยุดยาได้โดยไม่มีอาการกลับมาอีกแต่ก็มีบางรายที่มีอาการ อีกเมื่อลดยาลงในกรณี
แบบนี้เราจะเพิ่มยากลับขึ้นไปใหม่แล้วค่อยๆลดยาลงช้าๆ

2. การรักษาทางใจ ที่สำคัญและได้ผลมากคือ การให้ความรู้ Psychoeducation และการทำพฤติกรรมบำบัด
(Cognitive Behavior Therapy) เพื่อการปรับแนวคิดและพฤติกรรมของผู้ป่วยต่อโรคแพนิกและอาการของแพนิค
 การฝึกการหายใจในผู้ป่วยที่มีอาการหายใจไม่อิ่ม การฝึกการคลายกล้ามเนื้อในผู้ป่วยที่มีอาการปวดศรีษะ
หรือปวดตึงกล้ามเนื้อ การฝึกการจินตนาการ การฝึกสมาธิ การฝึกคิดในทางบวก เหล่านี้เป็นต้น


บทความโดย นพ.สเปญ อุ่นอนงค์


บันทึกการเข้า


♪♪♪ รวมบทกลอนน้องจ๋า คลิกค่ะ ...

ขอบคุณทุกภาพจาก Internet และเพลงจากYouTube
ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 65535
เหรียญรางวัล:
PJ ดีเด่นนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลเว็บ
กระทู้: 18,135
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สาวหวาน กับ ความฝันไม่รู้จบ "
   
« ตอบ #1 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2558, 07:39:40 AM »

Permalink: Re: โรคแพนิค (Panic)

บันทึกการเข้า


♪♪♪ รวมบทกลอนน้องจ๋า คลิกค่ะ ...

ขอบคุณทุกภาพจาก Internet และเพลงจากYouTube
ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 65535
เหรียญรางวัล:
PJ ดีเด่นนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลเว็บ
กระทู้: 18,135
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สาวหวาน กับ ความฝันไม่รู้จบ "
   
« ตอบ #2 เมื่อ: 10 ธันวาคม 2560, 11:29:34 AM »

Permalink: Re: โรคแพนิค (Panic)
 camera
บันทึกการเข้า


♪♪♪ รวมบทกลอนน้องจ๋า คลิกค่ะ ...

ขอบคุณทุกภาพจาก Internet และเพลงจากYouTube
ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 65535
เหรียญรางวัล:
PJ ดีเด่นนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลเว็บ
กระทู้: 18,135
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สาวหวาน กับ ความฝันไม่รู้จบ "
   
« ตอบ #3 เมื่อ: 10 กันยายน 2561, 09:00:58 AM »

Permalink: Re: โรคแพนิค (Panic)
 

797
บันทึกการเข้า


♪♪♪ รวมบทกลอนน้องจ๋า คลิกค่ะ ...

ขอบคุณทุกภาพจาก Internet และเพลงจากYouTube
หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: