-/> นิทานเรื่อง แก้วสารพัดนึก ๒๙

หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: นิทานเรื่อง แก้วสารพัดนึก ๒๙  (อ่าน 342 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 25515
เหรียญรางวัล:
ผู้ดูแลเว็บนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลบอร์ดนักเโพสดีเด่นมีความคิดสร้างสรรค์
กระทู้: 2,067
ออฟไลน์ ออฟไลน์
รักทุกคนที่รักเรา รักทุกคนที่เรารัก
   
« เมื่อ: 10 พฤศจิกายน 2567, 05:11:12 AM »

Permalink: นิทานเรื่อง แก้วสารพัดนึก ๒๙



☆นิทานเรื่อง แก้วสารพัดนึก๒๙☆
.     (เมขลาอวตาร๑๕)
.   (มาลีมาลัย๕ ชมพูทวีป)

☆นึกเรื่องราวคราวฝันอันลอยเด่น
ตาแก่เป็นผู้รู้เช่นครูสอน
เทวะช่วยอวยชัยและให้พร
ในยามนอนแน่นักชักมีแรง

☆จึงมุ่งหมายกายสู่ชมพูทวีป
อย่างเร่งรีบฤกษ์ดีสุรีย์แสง
สว่างฟ้าจ้าแจ่มแอร่มแดง
ชะเง้อแย่งหมู่เมฆเสกประกาย

☆แล้วจัดแจงแต่งตัวกลัวไม่หล่อ
เฝ้ายืนรอเรือใหญ่ด้วยใจหมาย
เห็นกระโจนโพ้นลำน้ำกระจาย
โบกมือส่ายร้องเจี๊ยก..เรียกเป็นลิง

☆พอเรือจอดทอดสมอก็ขอขึ้น
กัปตันมึนหรือเมาใครเข้าสิง
นอนพังพาบกาบเรือน่าเบื่อจริง
คงเมากลิ้งทั้งคืนตื่นยัง..งง

☆เจรจาต้าอ้วยให้ช่วยหน่อย
เอาเรือลอยล่องน้ำย้ำประสงค์
ชมพูทวีปปลายทางอย่างมั่นคง
ขอไปลงที่นั่นพลันขอบคุณ

☆ได้ขอรับ..ขับไปให้ฉันด้วย
ตอนนี้ป่วยตัวร้อนนอนไข้กรุ่น
พ่อมาลัยใจดีมีการุณย์
เคยเกื้อหนุนมาก่อนตอนเป็นลม

☆ตกลงกันทันใจไม่ชักช้า
มาลัยกล้าแกร่งกร้าวห้าวผสม
ชักใบเรือเผื่อกว้างกางเป็นพรม
รับแรงห่มตามสายพระพายพัด

☆มุ่งอินเดียเชียร์กันทุกวันด้วย
จะมอดม้วยหรือไม่ในพิกัด
แล่นเลาะเลี้ยวเปลี่ยวไซร้ใช้ทางลัด
มือตวัดพังงาอยู่หน้าเรือ

☆ล่องละลิ่วพลิ้วผ่านม่านน้ำใส
ตั้งเอาไว้เข็มทิศพิชิตเหนือ
คลื่นกระแทกแทรกฟองก้องเสียงเครือ
ทางยังเหลืออีกไกลทำไงดี

☆ฟ้ามืดดำคล้ำหม่นจนปวดหัว
แสงสลัวเลือนลางกางใบหนี
กระโจนสอดยอดคลื่นหมื่นวารี
รอดคราวนี้ไหมหนอขอบนบาน

☆นึกถึงหน้ามาลีโอ้..ที่รัก
ซาบซึ้งนักครั้งนั้นวันแสนหวาน
รับลงเรือเพื่อล่องท่องสำราญ
ตาประสานสองเราเข้าชมไพร

☆ลอยเรือท้าบ้าบิ่นแทรกหินโตรก
ข้ามชะโงกลึกร้างทางน้ำไหล
ทิวทุ่งท่าหญ้าปรกรกรำไร
มองฝั่งได้ล้วนสว่างกระจ่างตา

☆ผ่านโขดหินดินแก่งแหล่งโพรงถ้ำ
เรือพลัดลำเอียงลู่เลียบภูผา
เบียดหินงอกออกย้อยที่ห้อยมา
ลอยถลาคลื่นริ้วที่พลิ้วพราย

☆พายุซัดพัดมาฟ้าตลบ
เทกระทบซู่ซ่าน่าใจหาย
ยินเสียงวี๊ดกรี๊ดหวาดว่าอาจตาย
ปากมิวายเพ้อพร่ำสำลักครวญ

☆ร่างขาวผ่องน้องนั้นสั่นไปทั่ว
โธ่..ทูนหัวอย่าช้าหันหน้าสวน
จับด้ามพายให้มั่นพลันจ้ำกวน
เราจะทวนน้ำหลากจากนี้ไป

☆ทุ่มกำลังถั่งโถมตะโบมถี่
หัวเรือรี่พุ่งลิ่วผิวน้ำไหล
แหวกธาราบ้าคลั่งเททั้งใจ
เร่งเร็วไวหวังพึ่งเมื่อถึงโพรง

☆สองคนพาดสาดพายตะกายแข่ง
ขยับแกว่งพร้อมพรั่งดังผางโผง
ทวนน้ำแทรกแตกซ่าพาเรือโคลง
เหนื่อยตัวโก่งหอบฮั่กไม่พักรอ

☆งัดหัวเรือเผื่อจ้องมองให้แน่
พี่จะแถโพรงถ้ำเลี้ยวลำจ่อ
เสียงฟ้าผ่าส่าฝนคำรนคอ
กำพายห้อจ้วงจึ๊กลึกสุดใจ

☆เรือถลำขะมำโค้งถึงโพรงถ้ำ
จึงหยุดย้ำแรงพายกายสั่นไหว
ปลอบประคองน้องแน่นแผ่นหทัย
ฝนหลั่งไหลถล่มฟ้าพาเงียบงัน

☆กระพริบตาฝ่ามัวตัวสำนึก
ห้วงน้ำลึกกลับแห้งแจ้งเขตขัณฑ์
ชมพูทวีปถึงแล้วแว่วจำนรรจ์
เสียงกัปตันโห่ฮิ้วยกนิ้วมือ

☆โดดเรือพลันทันใดให้สะดุ้ง
ฝันช่างยุ่งยั่วเย้ากระเซ้าหรือ
เสียวปลาบแปลบแสบสันคันสะดือ
ถึงแล้วหรือฟ้าใสดังใจจง

☆ตอนต่อครบพบแก้วแววสำเร็จ
หลังระเห็จเดินทางอย่างกลัวหลง
ผู้อ่านสุขสนุกไหมใจพะวง
เอาจิตส่งมาช่วยด้วยก็ดี.

                            เริงอักษร

บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: