หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ☆นิทานเรื่อง แก้วสารพัดนึก☆  (อ่าน 185 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 24828
เหรียญรางวัล:
ผู้ดูแลเว็บนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลบอร์ดนักเโพสดีเด่นมีความคิดสร้างสรรค์
กระทู้: 2,034
ออนไลน์ ออนไลน์
รักทุกคนที่รักเรา รักทุกคนที่เรารัก
   
« เมื่อ: 22 ชั่วโมงที่แล้ว »

Permalink: ☆นิทานเรื่อง แก้วสารพัดนึก☆


.☆นิทานเรื่อง แก้วสารพัดนึก๑☆.

.    (กำเนิดแก้วสารพัดนึก๑)
☆เสียงสะเทือนเลื่อนลั่นสนั่นฟ้า
พสุธาโครมครามยามวสันต์
ลมพายุดุร้อนตอนเหมันต์
เข้าคิมหันต์พรั่งพรูฝนกรูกราว

☆ตื่นตระหนกวกวนจนปั่นป่วน
พระอิศวรรีบคว้าตามหาข่าว
เพราะเหตุใดใครหนอก่อเรื่องราว
คงถึงคราวโลกแตกแปลกเสียจริง

☆นั่งลุกลนบนอาสน์ประหลาดเหลือ
ร้อนดั่งเกลือสุมไฟใส่แง่งขิง
พอเอนองค์ตรงเคร่าเท้าหมอนอิง
เผลอไปพิงวูบวาบอาบผิวคัน

☆หลับตาเล็งเพ่งพิศพินิจเหตุ
เกิดอาเพศอันใดไร้สุขสันต์
สมาธิสติจดกำหนดพลัน
แลสวรรค์มองนรกวิตกไป

☆มิเห็นกิจผิดแผกความแตกต่าง
เทวาคว้างเหินเหาะเลาะไศล
เหล่านางฟ้าห้าสวรรค์กำนันใน
หน้าสวยใสดูดีล้วนมีสุข

☆มองลึกฝ่าบาดาลด้านนรก
พ่อคิ้วดกยมบาลสนานสนุก
ร่ายบรรเลงเขย่งโยกโขกหมากรุก
ไร้แววทุกข์เช่นเดิมไม่เพิ่มลด

☆พระอิศวรครวญใคร่ไม่ผลีผลาม
เร่งจับยามแลเล็งเพ่งเบื้องบท
ราหูอมข่มจันทร์สร้างรันทด
เกิดสลดมืดมัวทั่วฟ้าดิน

☆ด้วยจันทร์แรงแสงงามอร่ามหล้า
บังดาวฟ้าดวงโตโอ้โฉมฉิน
พระราหูผู้รักพักตร์ยุพิน
จันทร์บังสิ้นสูญแสงแสดงตน

☆จึงพิโรธโกรธกริ้วคิ้วขมวด
วิ่งไล่กวดดวงจันทร์พลันเห็นผล
อ้าปากกว้างค้างไว้ไร้อดทน
งับเสียจนจันทร์ดับลับดวงลา

☆อุตริสติแตกแหลกแสลง
โลกตะแคงมัวหม่นล้นหมอกฝ้า
เหลือแต่ดาวพราวพร่างกลางนภา
สมอุราจริงนะพระราหู

☆เหตุการณ์เป็นเช่นไรให้อ่านต่อ
เรื่องที่รอตอนสองนั้นจองอยู่
เชิญตามมองลองลิ้มอ่านชิมดู
จะรับรู้จริงเท็จเกร็ดนิทาน.
.
              เริงอักษร
.

บันทึกการเข้า

ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 24828
เหรียญรางวัล:
ผู้ดูแลเว็บนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลบอร์ดนักเโพสดีเด่นมีความคิดสร้างสรรค์
กระทู้: 2,034
ออนไลน์ ออนไลน์
รักทุกคนที่รักเรา รักทุกคนที่เรารัก
   
« ตอบ #1 เมื่อ: 22 ชั่วโมงที่แล้ว »

Permalink: Re: ☆นิทานเรื่อง แก้วสารพัดนึก☆



. ☆นิทานเรื่อง แก้วสารพัดนึก๒☆
 .   (กำเนิดแก้วสารพัดนึก๒)

☆ได้ฟังความตามค่ามหาเถร
ราหูเล่นแนวคิดวิตถาร
อมจันทร์หม่นจนมิดพิศดาร
ก่อเป็นม่านมืดมัวสลัวไป

☆บังเกิดเรื่องเคืองโศกโลกมนุษย์
ที่เคยสุดสวยงามอร่ามใส
กลับคล้ำเฉกเมฆม่านตระการไกล
คลุมเอาไว้จนมิดแม้จิตคน

☆ความโลภโมโทสันพลันบังเกิด
เหมือนระเบิดครั้งใหญ่ให้สับสน
ต่างตะกายหมายแย่งแข่งตัวตน
หวังแต่ผลกอบโกยโอ้ย..วุ่นวาย

☆อยากร่ำรวยฉวยไช้ในทุกสิ่ง
เฝ้าช่วงชิงดีเด่นเช่นกระหาย
ทำความชั่วมั่วช้าหน้าไม่อาย
กินไม่คายเผื่อแผ่ให้แก่ใคร

☆พระอิศวรทวนคำนำถวาย
แสนเสียดายยิ่งล้ำทำไฉน
คนคิดดีมีเผื่อเหลือเท่าไร
ผีที่ไหนสิงสู่ดูมันทำ

☆จึงตีฆ้องร้องหาเสนารักษ์
ที่พิทักษ์ข้างกายเช้าบ่ายค่ำ
ระดมกู่หมู่อมาตย์ปราชญ์ประจำ
มาแนะนำปรึกษาว่าไงดี

☆เหล่าอมาตย์ยาตราเกินกว่าร้อย
ยืนละห้อยบ่นไปไม่สุขี
ประชุมพลันดั้นด้นค้นวิธี
จะคลายคลี่อย่างไรจึงได้การณ์

☆สรุปเห็นเป็นความตามมติ
อุตริราหูผู้หักหาญ
อมจันทร์หม่นจนมิดคิดรุกราน
อันธพาลเพราะรักหนักอารมณ์

☆ไม่เห็นดาวพราวแสงแสลงนัก
สุดจะหักห้ามได้ใจขื่นขม
ยามค่ำคืนดื่นดึกนึกระทม
จึงอ้าอมจันทร์ยื้อคือเรื่องราว

☆พระอิศวรครวญใคร่ใจพลุ่งพลั่ง
นำมานั่งวิเคราะห์เรื่องเพราะสาว
ราหูหลงอนงค์ศรีราคีคาว
นอนปวดร้าวหัวใจมิได้ครอง

☆ปิ๊งความคิดนิดหนึ่งพึงได้แน่
วิธีแก้เหตุนั้นพลันสนอง
สร้างทางขาวดาวดึงส์จึงสมปอง
ราหูมองข้ามเห็นดาวเด่นดวง

☆เป็นแก้วสารพัดนึกผลึกสี
ด้วยพิธีเสกสรรค์อันใหญ่หลวง
ระดมเห่เทวามาบำบวง
มิใช่ลวงเลยหนอตอนต่อไป.
.
           เริงอักษร
บันทึกการเข้า

ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 24828
เหรียญรางวัล:
ผู้ดูแลเว็บนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลบอร์ดนักเโพสดีเด่นมีความคิดสร้างสรรค์
กระทู้: 2,034
ออนไลน์ ออนไลน์
รักทุกคนที่รักเรา รักทุกคนที่เรารัก
   
« ตอบ #2 เมื่อ: 2 ชั่วโมงที่แล้ว »

Permalink: Re: ☆นิทานเรื่อง แก้วสารพัดนึก☆


.

   ☆นิทานเรื่อง แก้วสารพัดนึก๓☆
.    (กำเนิดแก้วสารพัดนึก๓)

☆คิดออกยังดังนั้นมิพลันช้า
เหลียวซ้ายขวาเร่งรุดจุดเทียนไข
ส่องสว่างพร่างล้วนสีนวลใย
เปลวไสวทั่วสวรรค์พลันเพ่งดู

☆เทียนวิเศษเวทแสงอันแรงกล้า
ปวงเทวาทั้งหมดงดงามหรู
พระอิศวรเสกสาส์นพานชมพู
ไปลอยอยู่ตรงหน้าให้มากัน

☆รวมสมัครพรรคพวกผนวกเพื่อน
ที่เหาะเกลื่อนกลางฟ้าอย่าเดียดฉันท์
นับจำนวนถ้วนถ้อยเกินร้อยพัน
ทั่วสวรรค์แหล่งหล้านภาดล

☆กว่าล้านองค์ลงชื่อเอื้อมมือช่วย
องค์ที่ป่วยรีบหายโกลาหล
มีบางองค์ส่งแฟนแทนตัวตน
มาออล้นพลับพลาน่าชื่นใจ

☆แล้วเชิญนาคหลากที่มีฤทธิ์เดช
ครองประเทศบาดาลล้วนขานไข
พระอิศวรชวนมาเร่งคลาไคล
เราจะไปช่วยโลกหายโศกครวญ

☆พิธีคั้นปั่นสมุทรฉุดสถาน
หลอมวิมานเติมต่อทอกระสวน
เวทมนตร์ค้ำสำทับนับคำนวณ
สู่กระบวนสร้างแก้วที่แวววาว

☆ตักเอาน้ำย้ำห้ามหาสมุทร
บริสุทธิ์เพ็ญแผ่นเป็นแก่นสาว
โย้ตัวนาคลากถูอยู่ระนาว
เติมด้วยดาวหลากสีสี่ทิศพรหม

☆แบ่งฝั่งเหวเทวดาที่มาช่วย
ประกอบด้วยสองส่วนล้วนสุขสม
หัวหางนาคลากไว้อย่าให้จม
รอเฝ้าชมแก้วสารพัดนึก

☆เสียงครืนโครมโหมฟ้าฤทธาฝน
บันดาลดลหมุนคว้างถึงกลางดึก
ผลสำเร็จเสร็จพ้นวังวนลึก
ตกผลึกแก้วสวรรค์อย่างมั่นคง

☆อร่ามเรืองเฟื่องฟ้องผิวทองฉาบ
แสงเขียวขาบรัศมีที่ประสงค์
ช่างสวยสดงดงามความบรรจง
ก็เสร็จลงดังนี้มีตำนาน

☆มอบแก้วเก็จเม็ดนั้นพลันสนอง
ราหูมองผ่านไปใช้สื่อสาร
เวหาหาวดาวดึงส์พึงพบพาน
โฉมสะคราญยอดชู้คู่หทัย

☆เรื่องมิจบครบลงตรงแค่นี้
ยังคงมีตอนต่อหากรอไหว
แม้นว่าท่านอ่านแล้วแววถูกใจ
ช่วยกดไลค์สักหน่อยไม่คอยนาน.
.
              เริงอักษร
.
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: