You are here: Khonphutorn.com - แหล่งข้อมูลของคนไทยหมวดความบันเทิงกาพย์ กลอน โคลง ฉันท์ กลอนแนวอารมณ์..นิยายรักคำกลอนเก้าตอนจบ .   (เรื่อง กระดังงาลนไฟ )
หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ..นิยายรักคำกลอนเก้าตอนจบ .   (เรื่อง กระดังงาลนไฟ )  (อ่าน 4336 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 25596
เหรียญรางวัล:
ผู้ดูแลเว็บนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลบอร์ดนักเโพสดีเด่นมีความคิดสร้างสรรค์
กระทู้: 2,071
ออฟไลน์ ออฟไลน์
รักทุกคนที่รักเรา รักทุกคนที่เรารัก
   
« เมื่อ: 22 มิถุนายน 2567, 10:40:17 AM »

Permalink: ..นิยายรักคำกลอนเก้าตอนจบ .   (เรื่อง กระดังงาลนไฟ )




..นิยายรักคำกลอนเก้าตอนจบ .
   (เรื่อง กระดังงาลนไฟ 1 )

*กระดังงาลนไฟเขาใช้เปรียบ
เรื่องราวเทียบกับคนบนลิขิต
ยามพลาดพลั้งชั่งใจให้ยั้งคิด
แก้สิ่งผิดจากร้ายกลายเป็นดี

*หลงเมามัวตัวช้ำกล้ำกลืนหนัก
โดนเขาหักอกทิ้งชิงหลบหนี
จึงเจ็บซ้ำล้ำเส้นเป็นราคี
อุทาหรณ์เช่นนี้ที่หญิงเจอ

*เมื่อหลายครั้งมากครา มาประสบ
พานค้นพบหลักชัยไม่พลาดเผลอ
เก็บสะสมบ่มเพียรเรียนบำเรอ
มิค้างเก้อเหมือนเก่าให้เศร้าทรวง

*ดุจกลีบตั้งกระดังงาคราไฟลน
ปล่อยกลิ่นข้นหอมคลุ้งจรุงสรวง
ภมรชายหมายลิ้มชิมช่อรวง
เฝ้าแหนหวงเก็บไว้มิให้ชม

*แตกระเริงเพลิงพลีที่เปลวร้อน
ลุกโชนชอนเผาลามความเสพสม
ถ้วนทุกหยดหมดหยาดบาดอารมณ์
ละมุนห่ม ละมัยห่อ ต่อภมร

*วาดความหวังตั้งไว้ไม่ถูกทิ้ง
ทำทุกสิ่งมั่นหมายมิถ่ายถอน
ใครชมช่อต่อติดยากคิดจร
หมดอ้างว้างอาวรณ์เหมือนก่อนเคย

*เรื่องของสาวพราวใสวัยละอ่อน
อายุตอนสิบห้าชื่อว่า"เหมย"
ไม่ยอมรักปักใจกับใครเลย
งามจนเย้ยชั้นฟ้าคราได้ยล

*บุญหรือกรรมทำแต่งแกล้งตราบาป
เป็นคำสาปจากนรกยกเหตุผล
ต้องแต่งงานผ่านหนี้หนีความจน
จำอดทนแทนคุณวุ่นชีวา

*เศรษฐี"โจ"โผคล้องเข้าจองจับ
แล้วผลลัพธ์จะเห็นเป็นดั่งว่า
ขอใจด้วยช่วยหน่อยพลอยยุพา
ในตอนหน้าจะเผยเอ่ยให้ฟัง.

            เริงอักษร

ขอบคุณภาพภาพจากอินเทอร์เน็ต
#กลอนแปด #กระดังงาลนไฟ
.
.


บันทึกการเข้า

ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 25596
เหรียญรางวัล:
ผู้ดูแลเว็บนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลบอร์ดนักเโพสดีเด่นมีความคิดสร้างสรรค์
กระทู้: 2,071
ออฟไลน์ ออฟไลน์
รักทุกคนที่รักเรา รักทุกคนที่เรารัก
   
« ตอบ #1 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2567, 01:30:03 PM »

Permalink: Re: ..นิยายรักคำกลอนเก้าตอนจบ .   (เรื่อง กระดังงาลนไฟ )




.   ..นิยายรักคำกลอนเก้าตอนจบ..
.       (เรื่อง กระดังงาลนไฟ ๒)

*เศรษฐีโจโอ่คึกนึกวาดไว้
มีเมียเด็กอ่อนวัยได้ดังหวัง
ขันหมากโตโก้หรูดูจริงจัง
มิพลาดพลั้งแน่นักรักนวลนาง

*ของหมั้นหนักหลักล้านขานแม่นมั่น
เพชรทองนั้นกองเด่นเป็นกระถาง
แต่งห้องหอต่อเติมเพิ่มจัดวาง
ไม่คาค้างล้วนเสร็จสำเร็จดี

*สาวเหมยฟ้าหน้าหมวยสวยเรือนร่าง
หุ่นสำอางอรชรฉะอ้อนศรี
สวยทุกยามงามล้วนช่างยวนยี
ชายมากมีหลงปองแม่น้องนวล

*ทั้งเอว..องค์นงคราญซ่านซึ้งสรวง
กายพุ่มพวงอ่อนโรยโชยหอมหวน
สัมผัสข้ามยามลมผสมทวน
กลิ่นรัญจวนยั่วเย้าสาวเจ้าเอย

*เช้าวันนี้ที่รอขอเกี่ยวข้อง
เป็นเจ้าของยึดถือชื่อว่าเขย
เศรษฐีโจโชว์ยิ้มหวังชิมเชย
นะแม่เหมยนิ่มน้องจองมานาน

*เสียงโห่ลั่นสนั่นทุ่งมุ่งงานใหญ่
เต้นกันไปคลานลุกสนุกสนาน
ขบวนแห่แผ่คลื่นระรื่นบาน
คาราวานขันหมากจากอำเภอ

*มาหยุดลงตรงบ้านจัดงานแต่ง
ญาติน้องเหมยแก้มแดงแข่งเสนอ
ประตูขวางกางกั้นหลายชั้นเจอ
พวกคุณเธอขอซองจ้องเรียกเอา

*กล้วยและอ้อยทะยอยอยู่ประตูรั้ว
หมูทั้งหัวจันอับประดับเสา
เครื่องคาวหวานลานตาพาขึ้นเตา
รีบอุ่นเข้าเลี้ยงแขกแจกในงาน

*ทั้งพ่อตาแม่ยายสยายยิ้ม
เศรษฐีโจกรุ้มกริ่มชิมจาวหวาน
ถึงวันเฝ้าเข้าหอรอมานาน
จะไล่ทานลิ้มจรดหมดทั้งตัว

*เหมยตัดสินยินยอมพร้อมใจแต่ง
เพื่อสำแดงแทนคุณกรุ่นในหัว
นรก รุมขุมใดก็ไม่กลัว
รอเพียงชั่วตอนใหม่ได้รู้กัน.

           เริงอักษร

ขอบคุณภาพภาพจากอินเทอร์เน็ต
#กลอนแปด #กระดังงาลนไฟ
.
.

บันทึกการเข้า

ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 25596
เหรียญรางวัล:
ผู้ดูแลเว็บนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลบอร์ดนักเโพสดีเด่นมีความคิดสร้างสรรค์
กระทู้: 2,071
ออฟไลน์ ออฟไลน์
รักทุกคนที่รักเรา รักทุกคนที่เรารัก
   
« ตอบ #2 เมื่อ: 25 มิถุนายน 2567, 06:08:42 AM »

Permalink: Re: ..นิยายรักคำกลอนเก้าตอนจบ .   (เรื่อง กระดังงาลนไฟ )


 

  ..นิยายรักคำกลอนเก้าตอนจบ..
.    (เรื่อง กระดังงาลนไฟ ๓)

*ตะวันรอนก่อนค่ำระส่ำเสียง
จากสำเนียงมหรสพครบสุขสันต์
หนังจอค้ำลำตัดคัดมาพลัน
ลิเกนั้นร้องเล่นเต้นตามกลอง

*ดนตรีเพลงบรรเลงไปไม่หยุดหย่อน
เรียงสลอนสดใสใบหน้าผ่อง
ลีลาเด็ดเจ็ดฉากคนอยากมอง
ตะเบ็งก้องสลับกันมันทุกคน

*เวลาเบิกฤกษ์ดีตอนสี่ทุ่ม
เศรษฐีหนุ่มเร่งนับมิสับสน
อุ้มน้องเหมยเข้าหอขอซุกซน
แม่หน้ามนสวยสว่างกระจ่างตา

*จะมองนอกซอกในไร้ตำหนิ
วัยแรกผลิผ่องพรรณวรรณสา
เนื้อช่างนวลหวนหอมย้อมอุรา
รอยไฝฝ้าไม่มีที่เรือนกาย

*โอ้..น้องนุชบุษบาช่างน่าฟัด
มองถนัดตลึงแลแม่เดือนฉาย
ผิวผ่องขาวราวหยวกลวกสุกปลาย
ตาพร่าพรายลนลานตระการทรวง

*กอปทุมอูมเต่งเขย่งดอก
ชูช่อหยอกเย้ยยวนชวนแหนหวง
ช่างกลมกลึงตึงดันเป็นสันพวง
สุดาดวงแม่เอ้ยน่าเชยชม

*ขนตางอนอ่อนพริ้วเป็นริ้วหลั่น
ดุจบุหลันลอยเลื่อนเฉือนไรผม
จมูกนิดปากหน่อยรอยยิ้มคม
พาจิตจมสู่ห้วงสรวงสราญ

*แสนอิ่มเอมเปรมใจกระไรนี่
มิคิดเลยชาตินี้ที่อาจหาญ
คว้าคู่นอนซอนซอกดอกไม้บาน
หวิวสะท้านสั่นไหวในอารมณ์

*วางนิ่มน้องประคองส่งลงบนฟูก
หวังจะปลูกต้นรักปักสวยสม
แล้วรดน้ำฉ่ำชื้นพลางชื่นชม
ปล่อยรากจมก้นบึ้งถึงดินดาน

*เพลงรักครบจบลงที่ตรงไหน
จะเร้าใจเริงรุกสนุกสนาน
ต้องอ่านต่อรอท่อนตอนสำราญ
ขอทุกท่านติดตามความในกลอน.

             เริงอักษร

ขอบคุณภาพภาพจากอินเทอร์เน็ต
#กลอนแปด#กระดังงาลนไฟ
.
.

บันทึกการเข้า

ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 25596
เหรียญรางวัล:
ผู้ดูแลเว็บนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลบอร์ดนักเโพสดีเด่นมีความคิดสร้างสรรค์
กระทู้: 2,071
ออฟไลน์ ออฟไลน์
รักทุกคนที่รักเรา รักทุกคนที่เรารัก
   
« ตอบ #3 เมื่อ: 27 มิถุนายน 2567, 09:19:15 AM »

Permalink: Re: ..นิยายรักคำกลอนเก้าตอนจบ .   (เรื่อง กระดังงาลนไฟ )



..นิยายรักคำกลอนเก้าตอนจบ..
.    (เรื่อง กระดังงาลนไฟ ๔)

*เสียงไผ่เบียดเสียดสีดังอี๋อ๋อ
ต้นโคังงอแข็งรากยากรวบถอน
ปลายยอดพริ้วลิ่วถลันจนสั่นคลอน
คว้างลมร่อนขยับโยกโบกแกว่งไกว

*ทิ้งลำสอดลอดลงตรงปลายพุ่ม
ถลาตุ่มผ่านตาระย้าไสว
เขียวขจีปรี่ล้อทุกช่อใบ
ช่างกระไรเวียนวนดั่งคนครวญ

*ต้นที่แก่แย่ย่ำด้วยลำเปราะ
หักดังเป๊าะแตกอ้าคราลมหวน
เผยปล้องปลอกนอกปลีสีเหลืองนวล
ก็สมควรอยู่แล้วแววชรา

*อนิจจังคลั่งคลอนะ..พ่อโจ
เศรษฐีโก้เมืองใหม่ใฝ่ฝันหา
อยากเคี้ยวเอื้องเฟื่องฟุ้งจรุงตา
วาสนาไม่ถึงจึงชวดชม

*แค่สัมผัสถนัดร่างอล่างเปลือย
แม่ลูกเดือยเม็ดขาวพราวสุขสม
หวังไว้มากอยากได้ในอารมณ์
ต้องระทมเพราะอายุระบุวัย

*ขื่นสำลักกระอักอ่วนป่วนหัวอก
ลิ้นกระดกค้างคอเกินต่อไหว
ฟุบหมดลมขมค้างพลางขาดใจ
จาก..น้องเหมยหน้าใสในทันที

*โอ้..ช้ำแท้แม่เหมยเลยเป็นหม้าย
แสนเสียดายหนักหนามารศรี
ยังขาดชิมลิ้มรักตระหนักดี
บอกเรื่องนี้อย่างไรใครจะรู้

*เป็นหม้ายห่มพรหมจรรย์สวรรค์แกล้ง
ต้องลาแล้งเกินกลั้นพลันอดสู
สงสารยิ่งจริงแท้แม่โฉมตรู
ต้องทนอยู่อย่างนี้หลายปีมา


*เหมยตระหนักรักนวลสงวนศรี
ถึงจะมีมากชายกรายเข้าหา
ใจระทมขมขื่นฝืนอุรา
กลัวโดนชี้ไปว่าหน้าไม่อาย

*จึงตั้งองค์ทะนงศักดิ์รักจริต
ทั้งที่คิดฝันละเมอเพ้อมิหาย
อยากมีคู่ชู้ชิดติดเรือนกาย
กลัวเจอชายลวงหลอกแล้วนอกใจ

*ต้องเก็บกดอดคาวนะ..สาวหวาน
ช่างลุกร้อนลนลานเกินขานไข
ขอเถอะหนอชายหนึ่งคะนึงไป
รู้หทัยน้องเหมยเอ่ยบอกที

*ไม่รังเกียจเหยียดหยามความเป็นหม้าย
ช่วยละลายโศกเศร้าทิ้งเหงาหนี
มอบรักใหม่ให้บ้างอย่างปรานี
ในตอนหน้าเหมยนี้จะมีใคร.

          เริงอักษร

ขอบคุณภาพภาพจากอินเทอร์เน็ต
#กลอนแปด #กระดังงาลนไฟ
.
.


บันทึกการเข้า

ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 25596
เหรียญรางวัล:
ผู้ดูแลเว็บนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลบอร์ดนักเโพสดีเด่นมีความคิดสร้างสรรค์
กระทู้: 2,071
ออฟไลน์ ออฟไลน์
รักทุกคนที่รักเรา รักทุกคนที่เรารัก
   
« ตอบ #4 เมื่อ: 28 มิถุนายน 2567, 06:11:03 AM »

Permalink: Re: ..นิยายรักคำกลอนเก้าตอนจบ .   (เรื่อง กระดังงาลนไฟ )



  ..นิยายรักคำกลอนเก้าตอนจบ..
.    (เรื่อง กระดังงาลนไฟ ๕)

*อันหญิงหม้ายร้ายนักรักจุกอก
บาปนรกรุมเร้าเศร้าไฉน
ขาดคู่ครองจองค้างร้างหทัย
ต้องเก็บข่มทนไว้แค่ใจตน

*จะบอกใครให้รู้ดูกระดาก
ทั้งที่อยากเปิดเผยเลยหมองหม่น
เป็นอย่างนี้นี่หรือคืออดทน
กลัวปากคนเยาะเย้ยเลยต้องยอม

*ประพฤติดีมีค่าแค่น่ารัก
ไม่งามนักอุตริมิถนอม
ขืนปล่อยชายหมายเช่นเล่นไต่ตอม
พอสุกงอมเลือนห่างร้างจากจร

*ยืนดอกเดี่ยวเดียวดายกายสะท้าน
ร่างเบ่งบานเต็มคราวสาวสมร
ในจิตซร้องร้องรักหักนิวรณ์
จะไถ่ถอนลงได้อย่างไรดี

*หนุ่มน้อยใหญ่ได้เห็นเป็นใจแป้ว
น้องเหมยแก้วแลชม้อยคล้อยหน้าหนี
มิกล้าสบพบตาทั่วธานี
เฝ้าลุกลี้ลุกลนทนกล้ำกลืน

*แสนอนาถวาสนานิจจาเอ๋ย
ต้องมองเลยผ่านไปด้วยใจฝืน
ทิ้งตาหมกตกลงตรงจุดยืน
ถอนสะอื้นกดเก็บเจ็บกลางทรวง

*ชายนั้นตรองมองเห็นเราเป็นหม้าย
ช่างเหนื่อยหน่ายเหลือล้นทนติดบ่วง
ไม่สมรักศักดิ์ศรีที่จะควง
จนเลยล่วงทิวาสิบห้าปี

*สามสิบแล้วแววท้อเฝ้ารอหา
เพียงหนุ่มกล้าสักคนบนวิถี
ไม่ต้องหล่อขอให้จิตใจดี
มาช่วยปลอบชีวีที่โศกตรม

*เช้าวันหนึ่งซึ้งใจตอนไปวัด
ปฏิบัติ ธรรมกายหายขื่นขม
ล้างทุกข์ท้อชลอไซร้ในอารมณ์
เอาศีลพรเข้าห่มบ่มหทัย

*เจอชายหนุ่มกรุ้มกริ่มยิ้มก๊วนกวน
ตอนเดินสวนกลับบ้านพานสดใส
มาทายทักกวักแขนแสนดีใจ
บ้านอยู่ไหนล่ะครับสดับฟัง

*ใครกันหนอหล่อจริงอยากวิ่งหนี
ก้าวไม่ออกสักทีมีมนตร์ขลัง
มาฉุดรับจับกายน่าอายจัง
เหมยใจพลั้งหรือไม่ให้ติดตาม.

           เริงอักษร

ขอบคุณภาพภาพจากอินเทอร์เน็ต
#กลอนแปด#กระดังงาลนไฟ
อ่านย้อนหลังได้ที่
https://www.facebook.com/groups/3480258795521181

.
.

บันทึกการเข้า

ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 25596
เหรียญรางวัล:
ผู้ดูแลเว็บนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลบอร์ดนักเโพสดีเด่นมีความคิดสร้างสรรค์
กระทู้: 2,071
ออฟไลน์ ออฟไลน์
รักทุกคนที่รักเรา รักทุกคนที่เรารัก
   
« ตอบ #5 เมื่อ: 29 มิถุนายน 2567, 10:51:59 AM »

Permalink: Re: ..นิยายรักคำกลอนเก้าตอนจบ .   (เรื่อง กระดังงาลนไฟ )



..นิยายรักคำกลอนเก้าตอนจบ..
.    (เรื่อง กระดังงาลนไฟ ๖)

*ยินเสียงแผ่วแว่วนุ่มจากหนุ่มหล่อ
ผมต้องขอโทษทีที่ผลีผลาม
จับแขนคุณวุ่นไปใช่ลวนลาม
หรือบุ่มบ่ามอวดดีคิดชีกอ

*เห็นคุณเดินเพลินอยู่รู้หรือไม่
เกือบไถลลื่นล้มจมก้นบ่อ
ตะไคร่เขียวเชียวนั่นมันมากพอ
อาจตกท่อเมนหลักหนักเอาการ

*ใจของเหมยเอ่ยบอกมิออกเสียง
มัวแต่เมียงมองเธอเพ้อฝันหวาน
ส่งสายตามาให้ใจชื่นบาน
ทอดสะพานสักหน่อยพลอยลืมตัว

*ได้แค่ยิ้มพริ้มตอบมอบกลับให้
ต่างกับใจเวียนวนจนปวดหัว
แกล้งเซกลับหลับตาฟ้ามืดมัว
อ่อนไปทั่วร่างกายคล้ายเป็นลม

*บนไอล้อมอ้อมอุ่นชวนครุ่นคิด
ชำเลืองพิศทั่วร่างช่างหล่อสม
ควักยาหม่องป้องทาพร้อมยาดม
นึกชื่นชมน้ำใจและไมตรี

*ปากพร่ำเพ้อละเมอไปไม่อยากอยู่
น่าอดสูชีวิตอยากคิดหนี
ตัดเวรกรรมช้ำชอกออกบวชชี
คงจะดีแน่แท้แย่เกินทน

*กระพริบตาห้าทีขยี้นิ้ว
กระตุกคิ้วลืมขึ้นมึนสับสน
ยืนโงนเงนเอนคว้าท่าร้อนรน
สาละวนบอกว่าหน้ามืดไป

*คุณช่างดีเหลือเกินมิเมินจิต
บอกสักนิดเถอะนะจะว่าไหม
มีชื่อเสียงเรียงนามเป็นความนัย
ว่าอะไรโปรดตอบจะขอบคุณ

*ผมนั้นชื่อ"ศักดิ์สิทธิ์ พิชิตชัย"
แล้วน้องชื่ออะไรใบหน้าคุ้น
บอกสัดนิดเถิดหนาถ้าการุณย์
แม่เนื้ออุ่นสวยจังพลั้งเอ่ยชม

**ชื่อ"เหมย"ค่ะพี่ชายทักทายตอบ
เขินหนึ่งรอบก่อนเงยเสยปอยผม
เหมยจะพบจบไหมในอารมณ์
หรือเกิดปมหมองไหม้ใจร้าวรอน.

            เริงอักษร

ขอบคุณภาพภาพจากอินเทอร์เน็ต
#กลอนแปด#กระดังงาลนไฟ
.
.

บันทึกการเข้า

ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 25596
เหรียญรางวัล:
ผู้ดูแลเว็บนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลบอร์ดนักเโพสดีเด่นมีความคิดสร้างสรรค์
กระทู้: 2,071
ออฟไลน์ ออฟไลน์
รักทุกคนที่รักเรา รักทุกคนที่เรารัก
   
« ตอบ #6 เมื่อ: 29 มิถุนายน 2567, 07:25:29 PM »

Permalink: Re: ..นิยายรักคำกลอนเก้าตอนจบ .   (เรื่อง กระดังงาลนไฟ )




  ..นิยายรักคำกลอนเก้าตอนจบ..
.    (เรื่อง กระดังงาลนไฟ ๗)

*ผมเพิ่งรับตำแหน่งแหล่งพื้นที่
นายอำเภอเมืองนี้ศรีแก่นขอน
มา บนบวงช่วงเช้าเข้าขอพร
ไหว้พระก่อนทำงานเพื่อบ้านเมือง

*บ้านน้องอยู่หมู่ไหนไกลหรือเปล่า
เหมยยิ้มเศร้ากะพริบตาหน้าซีดเหลือง
ตรงโค้งน้ำลำคุ้งทุ่งมะเฟือง
ริมนาเยื้องโรงสีชี้บอกไป

*ก็แลดูอยู่ห่างพลางเอ่ยขอ
ขับรถส่งนวลละออคงพอไหว
หน้าที่แรกแยกตามความห่วงใย
ลูกบ้านในปกครองต้องบริการ

*เหมยรีบตอบขอบคุณวุ่นหัวอก
สั่นงันงกประหม่าตาประสาน
กุลสตรีที่เจ็บเก็บมานาน
ยิ้มชื่นบานข้างในใจโฉมตรู

*คุยฉอดๆตลอดทางอย่างมีสุข
เรื่องสนุกหลากหลายพรายเข้าหู
ทุกคำคลายระบายไปไหลพรั่งพรู
ใจพองฟูชมชื่นระรื่นทรวง

*อยากคิดถูกผูกมิตรจิตหวั่นไหว
พ่อหนุ่มหล่อบ้านไกลใจนึกหวง
หากรู้ความตามจริงสิ่งทั้งปวง
จะยังห่วงหรือไม่ใคร่รู้จัง

*ว่าเรานี้ที่แท้คือแม่ม่าย
สามีตายนานปีมีความหลัง
ตกพุ่มโสดโดดเดี่ยวเปลี่ยวลำพัง
ชีวิตฝังเศร้าสร้อยรอยน้ำตา

*สะดุ้งตื่นฟื้นตัวมัวแต่ฝัน
ศักดิ์สิทธิ์นั้นสะกิดกายอายหนักหนา
ใช่ตรงนี้ไหมครับนับผ่านมา
เป็นหลังที่สิบห้าน่าอยู่ดี

*ใช่แล้วค่ะเหมยตอบชอบจริงหรือ
ขอเลี้ยงข้าวสักมื้อยื้อไม่หนี
ลองสักตั้งหวังไว้ใบเซียมซี
บอกวันนี้จะพบประสบรัก

*ตกลงครับเย็นนี้พี่จะมา
ชิมฝีมือเหมยฟ้าน่ารู้จัก
คงไม่น้อยอร่อยเลิศประเสริฐนัก
ช่วยจัดหนักให้หน่อยนะกลอยใจ

*ข้าวมือเย็นเป็นสื่อหรือสวรรค์
ส่งสาวเหมยผ่านฝันวันสดใส
เลิกกินแห้วแกร่วรอท้อหทัย
ขอแจ้งในตอนหน้าอย่าลืมกัน.

             เริงอักษร

ขอบคุณภาพภาพจากอินเทอร์เน็ต
#กลอนแปด#กระดังงาลนไฟ
อ่านย้อนหลังได้ที่
https://www.facebook.com/profile.php?id=100012912137403...



บันทึกการเข้า

ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 25596
เหรียญรางวัล:
ผู้ดูแลเว็บนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลบอร์ดนักเโพสดีเด่นมีความคิดสร้างสรรค์
กระทู้: 2,071
ออฟไลน์ ออฟไลน์
รักทุกคนที่รักเรา รักทุกคนที่เรารัก
   
« ตอบ #7 เมื่อ: 30 มิถุนายน 2567, 05:37:37 PM »

Permalink: Re: ..นิยายรักคำกลอนเก้าตอนจบ .   (เรื่อง กระดังงาลนไฟ )



   
   ..นิยายรักคำกลอนเก้าตอนจบ..
.     (เรื่อง กระดังงาลนไฟ ๘)

*อาหารสื่อมื้อเย็นช่างเป็นสุข
น้องเหมยยืนขนลุกโดนปลุกปั่น
หนุ่มเคียงข้างล้างจานซ่านชีวัน
พ่อศักดิ์สิทธิ์กลัดมันพลันถึงตัว

*กระซิบจางข้างหูว่ารู้ไหม
กว่าจะได้พบแน่แม่ทูนหัว
ต้องแก่งแย่งแข่งขันน่าหวั่นกลัว
จนปวดหัวไปหมดเดี๋ยวอดมา

*เพราะเจ้า"กร"เพื่อนกันมันเอาภาพ
น้องเหมยฟ้าเอิบอาบซาบหรรษา
คอยโชว์ยั่วเย้ายวนชวนต้องตา
จึงหาญกล้าด้วยรักสมัครปอง

*อยากช่วงชิงสิ่งนี้ที่มีค่า
ปรารถนาแนบเนาว์เป็นเจ้าของ
หากมิมีชายใดใคร่ขอจอง
แม่นวลน้องนงคราญวานบอกที

*เหมยอ้ำอึ้งตลึงคิดจิตหวั่นไหว
จะบอกเขาอย่างไรมิให้หนี
ความเป็นไปใจพลอยไม่ค่อยดี
ยืนนึกหลายนาทีมีทางใด

*ศักสิทธิ์แย้มแก้มอิ่มแล้วยิ้มหวาน
รู้ทันการณ์ความคิดจิตผ่องใส
รีบเอ่ยบอกออกตัวไม่กลัวภัย
เรื่องทรามวัยเป็นหม้ายอย่าได้เกรง

*ทราบล่วงหน้ามาแล้วนะแก้วตา
เต็มอุรารักใคร่ใช่ข่มเหง
อย่าโทษกรรมซ้ำผิดคิดไปเอง
เป็นบทเพลงชีวิตมิติดใจ

*น้ำตาเหมยเลยล้นเหลือทนยั้ง
โดนมนตร์ขลังแห่งรักยากผลักไส
โผเข้าโอบซบกอดยอดหทัย
ร้องฟูมฟายออกไปไร้มารยา

*สะอึกสะอื้นกลืนกล้ำล้ำด้วยสุข
คงหมดทุกข์เสียทีที่ใฝ่หา
กอดจนแน่นแทนคำจำนรรจา
ถึงเวลาแล้วหนอต่อนี้ไป

*ค่ำคืนนั้นสวรรค์พร่างกลางจันทร์ฉาย
ต่างระบายฟ้าหมองจนผ่องใส
ตอนหน้านี้จบลงตรงความใด
ตามต่อไปนะครับกับบทความ.

          เริงอักษร

ขอบคุณภาพภาพจากอินเทอร์เน็ต
#กลอนแปด#กระดังงาลนไฟ
อ่านย้อนหลังได้ที่
https://www.facebook.com/profile.php?id=100012912137403...


บันทึกการเข้า

ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 25596
เหรียญรางวัล:
ผู้ดูแลเว็บนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลบอร์ดนักเโพสดีเด่นมีความคิดสร้างสรรค์
กระทู้: 2,071
ออฟไลน์ ออฟไลน์
รักทุกคนที่รักเรา รักทุกคนที่เรารัก
   
« ตอบ #8 เมื่อ: 01 กรกฎาคม 2567, 01:28:14 PM »

Permalink: Re: ..นิยายรักคำกลอนเก้าตอนจบ .   (เรื่อง กระดังงาลนไฟ )



..นิยายรักคำกลอนเก้าตอนจบ..
. (เรื่อง กระดังงาลนไฟ อวสาน)

*หลายคำตอบกรอบสลักรักชื่นชุ่ม
ศักดิ์สิทธิ์หนุ่มไล่เฉลยยามเอ่ยถาม
พี่ยังโสดโปรดสดับรับข้อความ
ขอทำตามประเพณีด้วยมีใจ

*เพียงเจ็ดวันผันผ่านมินานเฉย
แห่ขันหมากเป็นเขยเชยแก้มใส
น้องเหมยฟ้าหน้าชื่นรื่นฤทัย
เพราะว่าได้ศักดิ์สิทธิ์ปิดบัญชี

*เฝ้ารอคว้ามานานผ่านใยรัก
ผลสุดท้ายประจักษ์มักสุขี
ทั้งเหมยฟ้าศักดิ์สิทธิ์จิตเปรมปรีดิ์
สุขฤดีโถมถั่งหลั่งโลมริน

*ทุกวันคืนรื่นรมย์สมคุณค่า
ชี้ชมฟ้าเกลื่อนพราวดาวผกผิน
ความรักล้นท้นอุราเป็นอาจิณ
มิจบสิ้นเมื่อพบประสบกัน

*ต่างปรนเปรอเสนอสุขทุกคืนค่อน
สลับร้อนและเย็นเห็นสวรรค์
โอบกายล้อมอ้อมกอดพรอดรำพัน
ทุกวี่วันซึมซับประทับใจ

*รักตอนเช้า เคล้าชื่น ระรื่นสรวง
รักตอนบ่าย ลุล่วง ทรวงแจ่มใส
รักตอนเย็น เห็นฟ้า อ่าอำไพ
รักตอนค่ำ สุขใน ฤทัยปอง

*กระดังงาลนไฟใครว่าชั่ว
อยู่ที่ตัวคนคิดจิตมัวหมอง
คำแนมเหน็บเจ็บช้ำน้ำตานอง
ยามร่ำร้องโดนว่าเป็นบ้าบอ

*มั่วกามกิจพิสมัยที่ไหนเล่า
เพราะว่าเศร้าเดียวดายจนกายหงอ
ยามได้เริ่มเติมรักมาถักทอ
ย่อมสานต่อชีวิตผิดอย่างไร

*อย่าประนามหยามเหยียดเกลียดแม่หม้าย
ใช่เลวร้ายเร่าร้อนตอนหลงไหล
อารมณ์เกิดเพลิดเพลินดำเนินไป
ธรรมชาตินั้นไซร้ท่านให้มา

*เช่นเหมยฟ้ากล้าพอที่รอรัก
ยากยิ่งนักเกินกลั้นใฝ่ฝันหา
เพราะร่วงโรยโหยหวนป่วนอุรา
ปรารถนาแค่เพียงคนเคียงกาย

*ไว้คอยอยู่ดูแลยามแก่เฒ่า
แก้ความเหงาเหือดแห้งแล้งความหมาย
มาครองคู่อยู่กันจนวันตาย
บทสุดท้ายพลันจบครบวาที.

           เริงอักษร

ขอบคุณภาพภาพจากอินเทอร์เน็ต
#กลอนแปด#กระดังงาลนไฟ
อ่านย้อนหลังได้ที่
https://www.facebook.com/profile.php?id=100012912137403...


บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: