#เมาแล้วขับ ! คุณตำรวจจับอะไรเราได้บ้าง ?
กฎหมายเมาแล้วขับ ซึ่งเป็นกฎหมายที่สร้างความปลอดภัยให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน และลดอุบัติเหตุที่เกิดจากการดื่มสุรา ล่าสุดได้มีการปรับเปลี่ยนตัวกฎหมายใหม่เพิ่มเติมขึ้นมา หลาย ๆ คนอาจยังไม่ทราบ
ประเทศไทยนั้นได้มีกฎหมายเกี่ยวกับการเมาแล้วขับออกมาเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน และลดอุบัติเหตุที่เกิดจากการดื่มสุราแล้วขับขี่ ซึ่งอุบัติเหตุที่เกิดจาการเมาแล้วขับนั้นนอกจากจะทำให้สูญเสียทรัพย์สินแล้วในบางรายอาจจะทำให้เกิดการสูญเสียถึงชีวิตอีกด้วย
ซึ่งบทลงโทษเมาแล้วขับหากตรวจพบปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่า ๕๐ มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ นั้นจะมีรายละเอียด ดังนี้
๑. เมาแล้วขับ โทษจำคุกไม่เกิน ๑ ปี ปรับ ๕,๐๐๐ - ๒๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และผู้ขับขี่จะถูกพักใบอนุญาตไม่น้อยกว่า ๖ เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
๒. เมาแล้วขับอันเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย หรือจิตใจ มีโทษจำคุก ๑ - ๕ ปี ปรับ ๒๐,๐๐๐ - ๑๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และผู้ขับขี่จะถูกพักใบอนุญาตไม่น้อยกว่า ๑ ปี หรือเพิกถอนใบอนุญาต
๓. เมาแล้วขับเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส มีโทษจำคุก ๒ - ๖ ปี ปรับ ๔๐,๐๐๐ - ๑๒๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และผู้ขับขี่จะโดนพักใบอนุญาตไม่น้อยกว่า ๒ ปี หรือเพิกถอนใบอนุญาต
๔. เมาแล้วขับเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โทษจำคุก ๓ - ๑๐ ปี ปรับ ๖๐,๐๐๐ - ๒๐๐,๐๐๐ บาท และผู้ขับจะถูกเพิกถอนใบอนุญาต
นอกเหนือจากบทลงโทษของผู้ที่เมาแล้วขับแล้ว ยังมีกฎหมายเกี่ยวกับผู้โดยสารด้วยอีกเช่นกัน เรื่องกฎหมายห้ามดื่มสุราบนรถขณะเดินทาง หรือขับขี่ซึ่งกฎหมายตัวนี้ได้ถูกบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๕๕
ล่าสุดได้มีกฎหมายเรื่องเมาแล้วขับออกมาใหม่ ตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก ฉบับที่ ๑๐ พ.ศ. ๒๕๕๗ ได้มีการระบุไว้ว่า
ถ้าผู้ขับขี่ไม่ยอมให้มีการตรวจแอลกอฮอล์ นั้น ให้สามารถดำเนินคดีฐานเมาแล้วขับได้ และมีบทลงโทษจำคุกไม่เกิน ๑ ปี ปรับตั้งแต่ ๑๐,๐๐๐ - ๒๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
#โดยให้ผู้ถูกกล่าวหาไปสืบพยานหักล้างกันในศาล
เพิ่มขึ้นมา หากผู้ขับนั้นไม่ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบ ซึ่งนอกจากจะโดนปรับแล้วก็จะโดนดำเนินคดีตามกฎหมายที่กล่าวมาข้างต้นด้วย
บทลงโทษเกี่ยวกับผู้ที่เมาแล้วขับ ซึ่งถือว่ากฎหมายตัวนี้นั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมากเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดจากการเมาแล้วขับ ซึ่งนอกจากจะเสียทรัพย์สินแล้วบ้างครั้งก็อาจจะทำให้เกิดการสูญเสียถึงชีวิตอีกด้วย ครับ
................................
มีข่าวว่า สำนักงานศาลยุติธรรมกำลังจะเสนอแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับกรณีที่ผู้ดื่มเครื่องดื่มซึ่งมีแอลกอฮอล์ผสมอยู่จนมึนเมาแล้วขับขี่รถไปเฉี่ยวชนบุคคลอื่นหรือเฉี่ยวชนรถคันอื่นเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บรวมทั้งทรัพย์สินเสียหาย ซึ่งตามกฎหมายปัจจุบันถือว่าเป็นการกระทำโดยประมาท มีอัตราโทษ คือ
ถ้าเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มีโทษจำคุกไม่เกิน ๑๐ ปี
ถ้าเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส มีโทษจำคุกไม่เกิน ๓ ปี
ถ้าเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย มีโทษจำคุกไม่เกิน ๑ เดือน
ส่วนการกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหายไม่มีความผิดทางอาญา เพียงแต่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายฐานละเมิดอันเป็นความรับผิดในทางแพ่งเท่านั้น
โดยจะเสนอแก้กฎหมายว่า ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่จนมึนเมาแล้วขับขี่รถไปก่อให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิต ร่างกายหรือทรัพย์สินของบุคคลอื่นให้ถือว่าเป็นกระทำโดยเจตนา ซึ่งจะมีโทษ คือ
ถ้าเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มีโทษจำคุกตั้งแต่ ๑๕ ปี ถึง ๒๐ ปี จำคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต
ถ้าเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส มีโทษจำคุกไม่เกิน ๑๐ ปี
ถ้าเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย มีโทษจำคุกไม่เกิน ๒ ปี
ถ้าเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหาย มีโทษจำคุกไม่เกิน ๓ ปี
ส่วนการรับผิดชดใช้ค่าเสียหายในทางแพ่งก็ยังคงต้องชดใช้อยู่เหมือนเดิมเช่นปัจจุบัน
ขอให้เพิ่มเติมด้วยว่า ให้ศาลสั่งยึดใบอนุญาตขับขี่รถและห้ามมิให้บุคคลนั้นขับขี่รถยนต์ทุกชนิด หรือรถจักรยานยนต์ตลอดชีวิต
ถ้าพิจารณาถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นโดยเหตุที่ผู้ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ผสมจนมึนเมาแล้วขับขี่รถไปก่อให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิต ร่างกายและทรัพย์สินของบุคคลอื่นที่เกิดขึ้นทุกวัน อันเป็นสาเหตุให้มีผู้เสียชีวิตมากเป็นอับดับหนึ่งของประเทศไทย โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่หรือสงกรานต์ในแต่ปี ที่มีผู้เสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุพพลภาพไปตลอดชีวิต ได้รับบาดเจ็บ ทรัพย์ทรัพย์สินเสียหายมากมายทุกปีตลอดมา
จึงสมควรอย่างยิ่งที่ต้องรีบดำเนินการแก้ไขกฎหมายเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด ให้เสร็จสิ้นภายในรัฐบาลนี้ที่มี สนช. อยู่ เพราะถ้าจะรอแก้ในรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งก็อาจจะยากที่จะแก้ไขได้สำเร็จ เพราะผู้ค้าเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ยังมีอิทธิพลต่อพรรคการเมืองต่าง ๆ และ ส.ส. อยู่ไม่มากก็น้อย
ขอบคุณภาพจาก : naewna.com