-/> การโอนคดีเยาวชนไปคดีปกติ !

หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: การโอนคดีเยาวชนไปคดีปกติ !  (อ่าน 1670 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ดูแลเรื่องกฏหมายของเว็บ
คะแนนน้ำใจ 1010
กระทู้: 130
ออฟไลน์ ออฟไลน์
อีเมล์
   
« เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2559, 01:58:53 PM »

Permalink: การโอนคดีเยาวชนไปคดีปกติ !
การโอนคดีเยาวชนไปคดีปกติ !

จากกรณีคดีฆ่าและรุมข่มขืนที่จังหวัดหนึ่งในภาคใต้ มีหลายคนพูดว่ากฎหมายไทยอ่อนแอทำอะไรไม่ได้หรอก เดี๋ยวก็มีการลดโทษเพราะเป็นเยาวชน ฯลฯ

เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี เป็นผู้กระทำการลงมือก่อเหตุทั้งหมด ศาลเยาวชนและครอบครัว จะพิจารณาโทษในฐานะผู้ต้องหาเป็นเยาวชนซึ่งโทษจะเบากว่ามาก เหตุเพราะเป็นเยาวชนอาจกระทำไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือเหตุอื่นได้

ซึ่งกฎหมายกำหนดว่าให้รับโทษเพียง ๑ ใน ๓ ของอัตราโทษปกติ

แต่ในคดีนี้ผู้ต้องหามีพฤติการณ์ ‪#‎แก่เกินวัยใจอาชญากร‬ สามารถโอนคดีจากศาลเยาวชนและครอบครัว ไปพิจารณาคดีธรรมดาได้ ตาม

พระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๓ มาตรา ๙๗ บัญญัติว่า

“เพื่อประโยชน์แห่งพระราชบัญญัตินี้ บุคคลใดอายุยังไม่เกินยี่สิบปีบริบูรณ์ กระทําความผิดและเป็นคดีที่อยูในอํานาจศาลที่มีอํานาจพิจารณาคดีธรรมดา ถ้าศาลนั้นพิจารณาโดย คํานึงถึงสภาพร่างกาย สภาพจิต สติปัญญา และนิสัยแล้ว เห็นวาบุคคลนั้นยังมีสภาพเช่นเดียวกับเด็ก หรือเยาวชน ให้มีอํานาจสั่งโอนคดีไปพิจารณาในศาลเยาวชนและครอบครัวที่มีอํานาจและให้ถือวา บุคคลนั้นเป็นเด็กหรือเยาวชน

คดีอาญาที่อยูในอํานาจศาลเยาวชนและครอบครัว ถ้าศาลเยาวชนและครอบครัวพิจารณาโดย คํานึงถึงสภาพร่างกาย สภาพจิต สติปัญญา และนิสัยแล้ว เห็นวาในขณะกระทําความผิด หรือในระหว่างการพิจารณา เด็กหรือเยาวชนที่ต้องหาวากระทําความผิดมีสภาพเชนเดียวกับบุคคลที่มีอายุตั้งแต่สิบแปดปีบริบูรณขึ้นไป ให้มีอํานาจสั่งโอนคดีไปพิจารณาในศาลที่มีอํานาจพิจารณาคดีธรรมดาได้”

วรรคแรกให้ศาลมีอำนาจพิจารณาว่าผู้ต้องหาที่อายุไม่เกิน ๒๐ นั้นมีร่างกาย สุขภาพ สภาพจิตใจ สติปัญญาต่ำกว่าอายุหรือไม่ ถ้าอยู่ในระดับเดียวกับเยาวชน (อายุไม่เกิน ๑๘ ตามมาตรา ๔) ก็ให้ศาลพิจารณาที่ศาลเยาวชนนี้เลย

วรรคสองนี่กลับกันให้ศาลพิจารณาว่าเยาวชนผู้ต้องหานั้นมีร่างกาย สุขภาพ สภาพจิตใจ สติปัญญาเกินกว่าอายุหรือไม่ ถ้าศาลพิจารณาว่าเกินแล้ว ศาลสามารถส่งให้ศาลธรรมดาที่ตัดสินผู้บรรลุนิติภาวะตัดสินแทนศาลเยาวชนได้

ทั้งนี้หากคดีนั้น ๆ คนร้ายมีพฤติการณ์แก่เกินวัยใจอาชญากร ก็ต้องดูหลักเกณฑ์ที่ประกอบการสังเกต ดังต่อไปนี้

1. มีการวางแผนเตรียมการมาก่อน

2. มีลักษณะอุกอาจ โหดร้ายทารุณ

3. ผลที่เกิดขึ้นก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรง หรือ เกิดความเสียหายแก่สังคมโดยรวม

4. กระทำโดยขาดความเห็นอกเห็นใจเหยื่อ

5. เคยมีประวัติการกระทำผิดในทำนองเดียวกันมาก่อน ไม่ว่าจะถูกจับกุมหรือไม่

พูดง่าย ๆ คือ ศาลสามารถพิจารณาและมีอำนาจส่งผู้ต้องหาที่เป็นเยาวชนไปศาลผู้ใหญ่ได้

คดีนี้แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับคดีแพรวา 9 ศพ เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นเยาวชนเหมือนกัน ซึ่งหากพิจารณาจากหลักเกณฑ์ในการทำการก่อเหตุ คือ

1. แพรวามิได้มีการเตรียมการวางแผนมาก่อนล่วงหน้า เหตุทั้งหมดนั้นมิได้มีแรงจูงใจในการลงมือ แต่เกิดจากความประมาท และสำคัญเลยคือ

2. ไม่มีประวัติการกระทำความผิดในทำนองเดียวกันมาก่อน

ศาลเลยตัดสินโดยใช้เหตุดังกล่างมาอ้าง

ฉะนั้นจะวิพากษ์วิจารณ์อะไรท่านต้องศึกษาข้อกฎหมายถึงเหตุและผลของศาลในการพิจารณา มิใช่ด่านำก่อนเลยเป็นการแสดงถึงวิสัยทัศน์ และภูมิปัญญาของท่านว่ามีอยู่เพียงใดนะครับ

เอกสารอ้างอิง :
1.http://www2.djop.moj.go.th/media/k2/attachments/01070001.pdf
2. ความเห็นโฆษกกระทรวงยุติธรรม http://www.dailynews.co.th/regional/377043

ขอบคุณภาพจาก : แฟนเพจ Justice Channel สำนักงานกิจการยุติธรรม

https://m.facebook.com/www.oja.go.th/photos/a.664480593637716.1073741828.533062563446187/954629167956189/?type=3&source=48
บันทึกการเข้า

ใช้ชีวิตแบบสบายๆ ปล่อยวางบ้าง
หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: