`สะเก็ดเงิน`

`สะเก็ดเงิน`
`สะเก็ดเงิน` เกาะกลุ่ม NCD

ในบรรดากลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือเอ็นซีดี (NCDs : Non-Communicable diseases)
เป็นโรคที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่สมดุล เช่น โรคเบาหวาน ความดัน หลอดเลือดสมองและหัวใจ
ถุงลมโป่งพอง มะเร็ง ความดันโลหิตสูง และโรคอ้วนลงพุง ซึ่งเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตในคนไทยถึง 73% ต่อปี

ล่าสุดเมื่อปี 2557 "โรคสะเก็ดเงิน" ก็ถูกบรรจุเข้ามาอยู่ในกลุ่มโรคดังกล่าวเช่นเดียวกัน
นพ.จักรพงษ์ ชุณหเสวี อาจารย์แพทย์เฉพาะทางด้านโรคผิวหนัง สถาบันโรคผิวหนัง
หัวหน้างานพัฒนาสู่ความเป็นเลิศ (CoE) สะเก็ดเงิน สถาบันโรคผิวหนัง ระบุว่า โรคสะเก็ดเงิน
แม้จะพบเป็นอันดับที่ 5 บรรดาโรคผิวหนังทั้งหมด แต่กลับเป็นโรคอันดับ 1 ที่ผู้ป่วยต้องนอนใน รพ.

ซึ่งที่ผ่านมามีการพูดถึงตัวโรคมากว่าสร้างความเจ็บปวดทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ เพราะถึงแม้จะไม่ใช่โรคติดต่อ
แต่ก็ยังดูเหมือนสังคมไม่ให้การยอมรับเท่าที่ควร ทั้งนี้เป็นเพราะความไม่เข้าใจในตัวโรค

ดังนั้นจึงต้องย้ำกันอีกครั้ง ชัด ๆ ว่า "สะเก็ดเงิน" ไม่ใช่โรคติดเชื้อ จึงไม่สามารถติดต่อไปยังผู้อื่นได้
ในอดีตไม่สามารถระบุได้ว่าโรคดังกล่าวเกิดจากสาเหตุอะไร แต่ปัจจุบันได้มีการศึกษาวิจัย
และสามารถสนับสนุนข้อมูลการเกิดโรคอย่างน้อย ๆ คือ 2 ปัจจัยหลักคือ ความผิดปกติทางพันธุกรรมที่แฝงอยู่
และสิ่งแวดล้อมบางอย่าง เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดโรค
ทางด้าน ทางพันธุกรรม คือ ผู้ป่วยสะเก็ดเงินจะมียีนสะเก็ดเงินตัวที่ 1-9 (psoriasis susceptibility (PSORS) 1-9)
แฝงอยู่ในความผิดปกติของโครโมโซมหรือยีน สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้โดยตรง

โดยเฉพาะยีนของโรคดังกล่าวตัวที่ 1 ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดความรุนแรงของโรค
และสร้างโอกาสเกิดโรคในคนอายุน้อยกว่า 40 ปีลงมา
"โรคสะเก็ดเงินจะมีลักษณะเป็นผื่นแดง หนา สีเงินมันวาว นี่คือความแตกต่างจากคนที่เป็นผื่นธรรมดา
ซึ่งโรคนี้ส่วนใหญ่มักเกิดที่ข้อศอก เข่า ศีรษะ ลำตัว เวลาขัดถูกแล้วอาจจะเป็นแผล เลือดออกซิบ ๆ
รวมถึงเกิดขึ้นได้ที่บริเวณเล็บด้วย และถ้าพบโรคนี้เกิดในคนอายุน้อย ๆ อย่างที่ผ่านมาพบในอายุเพียง 19 ปี
เป็นไปได้มากว่าเกิดจากพันธุกรรม"

ส่วนสาเหตุ จากสิ่งแวดล้อมบางอย่าง เช่น ความเครียด การดื่มสุรา การสูบบุหรี่ การมีน้ำหนักตัวที่มากเกินไป
การทานยาบางชนิด การติดเชื้อ การเป็นแผลที่ผิวหนัง
รวมถึงการบาดเจ็บที่ผิวหนัง ฯลฯ ซึ่งตรงนี้จะสามารถก่อโรคได้ทั้งในคนปกติ และคนที่มียีนของโรคสะเก็ดเงินแฝง
ในกรณีหลังนั้นความเสี่ยงเหล่านี้จะกลายเป็นตัวส่งเสริมเกิดโรคเร็วขึ้น อีกทั้งยังกระตุ้นให้โรคมีความรุนแรงอีกต่างหาก
ดังนั้น การควบคุม ป้องกันโรค อย่างน้อย ๆ ไม่ให้เกิดขึ้นกับตัวเอง ตรงนี้สามารถทำได้ด้วยการดูแลสุขภาพ
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควบคุมน้ำหนัก งดเหล้า-บุหรี่ หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นอื่น ๆ จะได้ห่างไกลจากการเป็นโรคสะเก็ดเงิน

อย่างไรก็ตาม นพ.จักรพงษ์ ยังบอกอีกว่า ปัจจุบันสะเก็ดเงินไม่ใช่แค่ความผิดปกติทางผิวหนังอย่างเดียวอีกต่อไป
เพราะมีรายงานการวิจัยพบว่าผู้ป่วยสะเก็ดเงินมีโอกาสเกิดภาวะอ้วนลงพุงได้มากกว่าประชากรทั่วไป
โดยที่ยังหาคำอธิบายไม่ได้ อยู่ระหว่างหาสาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยกลุ่มนี้อ้วนลงพุงต่อไป
แต่ทั้งนี้ก็เป็นที่ทราบกันดีว่า ภาวะอ้วนลงพุงเสี่ยงที่จะเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองมากขึ้น
จึงเป็นเหตุผลทำให้ผู้ป่วยสะเก็ดเงินเสี่ยงที่จะเกิดโรคเหล่านี้กันมาก ตลอดจนการอักเสบของผิวหนังที่มากขึ้น
ยังเพิ่มภาวะความพิการจากข้ออักเสบสะเก็ดเงินด้วย
จึงเป็นคำอธิบายว่าทำไมสมัชชาสุขภาพโลกถึงจัดให้โรค "สะเก็ดเงิน" อยู่ในกลุ่มไม่ติดต่อเรื้อรัง
ที่กระทรวงสาธารณสุขต้องหันมาให้ความสำคัญกันมากขึ้น

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์