ขณะนี้
มหาวิทยาลัยเกือบทั้งหมดในประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงใกล้สอบไล่
นักศึกษาปี 4 ก็กำลังสำเร็จการศึกษา ซึ่งตามธรรมเนียมแล้ว
สถาบันการศึกษาส่วนใหญ่มักจัดงานปัจฉิมนิเทศให้นักศึกษาที่กำลังจบเพื่อเตรียมความพร้อมในการทำงานหรือการศึกษาต่อ ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จุฬาฯ ได้จัดงาน
ปัจฉิมนิเทศในวันศุกร์ที่ 17 เมษายนที่ผ่านมาให้
นิสิตชั้นปี 4 ที่กำลัง
สำเร็จการศึกษา ดังนั้นภาควิชาฯ จึงเชิญศิษย์เก่ามาเล่าประสบการณ์และข้อคิดต่าง ๆ ให้รุ่นน้องฟังครับ
ศิษย์เก่าสองคนที่ภาควิชาฯ เชิญมาคือ ดร.วิชญ์ เนียรนาทตระกูล ซึ่งจบ
ปริญญาเอกจากภาควิชาฯ ที่ทำวิจัยเรื่องระบบอักขราวิสุทธิ์ และคุณอรรถพงศ์ ลิมศุภนาค หรือคุณบีม ซึ่งจบ
ปริญญาตรีจากภาควิชาฯ และทำบริษัท Startup ที่กำลังโด่งดังในขณะนี้คือ ไดร์ฟ บอท (Drivebot) ผมจึงขอแนะนำระบบอักขราวิสุทธิ์ และไดร์ฟบอทให้ผู้อ่านรู้จักก่อนครับ และจะสรุปข้อคิดที่วิทยากรทั้งสองคนบรรยายในงาน
ปัจฉิมนิเทศซึ่งผมคิดว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน 1001 โดยเฉพาะ
นิสิต นักศึกษาที่กำลังจบหรือผู้ที่กำลังทำงานครับ
ระบบอักขราวิสุทธิ์คือระบบตรวจจับการลักลอก
วิทยานิพนธ์ ซึ่งดร.วิชญ์ได้ทำวิจัยในระหว่างศึกษา
ปริญญาเอก ขณะนี้ระบบอักขราวิสุทธิ์นำมาใช้งานในจุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัยและ
สถาบันการศึกษาต่าง ๆ หลายแห่ง ผู้อ่านดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์
http://www.akarawisut.com/ไดร์ฟบอทคืออุปกรณ์ที่ทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่นเพื่อช่วยตรวจสภาพรถ ลดค่าใช้จ่ายในการดูแล และทำให้ผู้ใช้ขับรถอย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น ทีมงานไดร์ฟบอทได้ระดมทุนจากเว็บไซต์ Indiegogo จนได้เงินสนับสนุนจำนวนมากและกำลังวางจำหน่ายอุปกรณ์ในเร็วๆ นี้ ข้อมูลเกี่ยวกับไดร์ฟบอทอยู่ที่
http://www.drivebot.io/th/วิทยากรทั้งสองคนได้เล่าประสบการณ์และข้อคิดต่าง ๆ หลายอย่าง แต่ผมสรุปข้อคิดที่วิทยากรทั้งสองคนพูดใกล้เคียงกันได้เป็นคำย่อคือ P.I.C. ดังนี้ครับ
1. Purpose (เป้าหมาย) ทุกคนควรมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่า หลังจากสำเร็จการศึกษาแล้วต้องการทำอะไร เช่น ทำงานกับบริษัทที่มีวัฒนธรรมองค์กรแบบไหน ตั้งบริษัทของตนเอง เรียนต่อ
ปริญญาโทหรือ
ปริญญาเอก เป็นต้น
2. Innovation (นวัตกรรม) ผลงานของวิทยากรทั้งสองคนเป็นนวัตกรรมหรือความคิดสร้างสรรค์ที่ช่วยแก้ปัญหาให้ผู้ใช้ ตัวอย่างคือ อักขราวิสุทธิ์แก้ปัญหาเรื่องการตรวจสอบว่ามีการลักลอก
วิทยานิพนธ์หรือไม่ เพราะการตรวจสอบด้วยมนุษย์ทำได้ยากและเสียเวลา ถ้าซื้อระบบจากต่างประเทศก็มีราคาแพงและอาจไม่เหมาะกับประเทศไทย ไดร์ฟบอทช่วยแก้ปัญหาเรื่องคนที่ไม่มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์ ทำให้ตรวจสอบสภาพรถยนต์ได้ง่ายขึ้นโดยใช้แอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือที่คนส่วนใหญ่มีอยู่แล้ว
3. Communication (การสื่อสาร) การทำงานจริงต้องใช้ทักษะหรือความรู้หลายด้าน ความรู้ทางเทคนิคอย่างเดียวไม่เพียงพอ เพราะเราต้องทำงานกับคนในศาสตร์อื่นที่ไม่เข้าใจศัพท์เฉพาะทางของเรา ดังนั้นการสื่อสารจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก เช่น การนำเสนอเนื้อหาให้คนอื่นเข้าใจง่าย การโน้มน้าวใจผู้อื่น การทำงานเป็นทีม การมีทักษะเข้าสังคม เป็นต้น
ขอให้
นิสิต นักศึกษาที่กำลังสำเร็จการศึกษาในปีนี้หรือคนที่กำลังทำงานลองนำหลักการ P.I.C. ไปใช้นะครับ ถ้าประสบความสำเร็จในการทำงานแล้ว ในอนาคต
สถาบันการศึกษาเดิมของผู้อ่านอาจเชิญไปบรรยายในงาน
ปัจฉิมนิเทศให้รุ่นน้องครับ.
อ.ธงชัย โรจน์กังสดาล
ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
คณะวิศวกรรมศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย