-/> ลือ ! ขนมยาเสพติด “สตอเบอรีควิก” ใน ร.ร.

You are here: Khonphutorn.com - แหล่งข้อมูลของคนไทยหมวดความบันเทิงสาระน่าอ่าน (ผู้ดูแล: Top Gun)ลือ ! ขนมยาเสพติด “สตอเบอรีควิก” ใน ร.ร.
หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ลือ ! ขนมยาเสพติด “สตอเบอรีควิก” ใน ร.ร.  (อ่าน 1543 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
คะแนนน้ำใจ 945
กระทู้: 179
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2557, 08:28:20 AM »

Permalink: ลือ ! ขนมยาเสพติด “สตอเบอรีควิก” ใน ร.ร.
 
สังคมออนไลน์ลือขนม “สตอเบอรีควิก” เป็นยาเสพติด เด็กแห่กินเพียบ ระบุลักษณะเม็ดกลมใส่ปากแล้วส่งเสียงซ่า และค่อยๆ ระเบิด มีหลากกลิ่นทั้งสตรอเบอรี ช็อกโกแลต โคลา ด้าน อย.ลงพื้นที่ตรวจพิสูจน์ระบุไม่พบสารเสพติดในขนม เตรียมส่งให้กรมวิทย์พิสูจน์ต่อ ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก


ภก.ประพนธฺ อางตระกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงกรณีสังคมออนไลน์มีการส่งต่อข้อมูลให้ผู้ปกครองระวังยาเสพติด (เมล็ดกลมสีชมพูที่ระเบิดในปาก) ในโรงเรียน ชื่อ “สตอเบอรีควิก” มีลักษณะแบบใส ลักษณะคล้ายขนมเมจิกป็อป เมื่อใส่ปากก็จะส่งเสียงซ่า และค่อยๆ ระเบิด มีกลิ่นเหมือนสตรอเบอรี ช็อกโกแล็ต เนยถั่ว โคลา เชอรี องุ่นและส้ม เมื่อกินเข้าไปจะถูกนำส่งโรงพยาบาลในสภาพที่น่ากลัว ว่า อย.ได้ให้เจ้าหน้าที่รีบตรวจสอบเฝ้าระวัง และสุ่มเก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะดังกล่าวแล้ว โดยตรวจสอบด้วยชุดทดสอบเบื้องต้นหาสารเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีน โคเดอีน และเฮโรอีน ซึ่งผลการตรวจสอบปรากฏว่า ไม่พบสารเสพติดดังกล่าวในผลิตภัณฑ์แต่อย่างใด ขอให้ผู้บริโภคที่ทราบข่าวลือนี้อย่าได้ตื่นตระหนก อย่างไรก็ตาม อย.จะส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์ให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจวิเคราะห์ส่วนประกอบ เช่น สีที่ใช้ในการผสมอาหาร วัตถุให้ความหวานแทนน้ำตาลอย่างละเอียดต่อไป

ภก.ประพนธ์ กล่าวอีกว่า ขนมลักษณะดังกล่าวเป็นอาหารประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมในกลุ่มเด็กๆ และวัยรุ่นเป็นอย่างมาก ผู้ปกครองจึงควรดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด รวมทั้งให้คำแนะนำและให้ความรู้แก่บุตรหลานเกี่ยวกับการบริโภคขนมหวาน รวมถึงลูกอมอย่างถูกต้อง เพราะการบริโภคมากๆ อาจทำให้ฟันผุ หรือได้รับน้ำตาลมากเกินไป อาจทำให้เป็นโรคอ้วน และไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพในระยะยาว นอกจากนี้ ควรตักเตือนบุตรหลานอย่าได้ซื้อผลิตภัณฑ์อาหาร ขนม หรือลูกอมที่มีสีสันฉูดฉาด เนื่องจากสีที่ผสมลงในอาหารอาจเป็นสีอื่นๆ ที่ไม่ใช่สีผสมอาหาร อาจทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน และถ้าสะสมในร่างกายมากขึ้นอาจทำให้เกิดอาการพิษจากโลหะหนักเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ขอให้พิจารณาฉลากให้ถี่ถ้วนก่อนเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารใดๆ โดยฉลากต้องมีข้อความภาษาไทยที่แสดงรายละเอียดครบถ้วน เช่น ชื่ออาหาร เลขสารบบอาหาร 13 หลัก ในกรอบเครื่องหมาย อย.ชื่อและที่อยู่ของผู้ผลิต หรือผู้นำเข้า น้ำหนักสุทธิ ส่วนประกอบสำคัญ วันเดือนปีที่ผลิต และ/หรือวันเดือนปีที่หมดอายุ เป็นต้น รวมทั้งควรสังเกตภาชนะบรรจุจะต้องสะอาด ไม่มีรอยฉีกขาด ถ้าเป็นพลาสติก ส่วนที่สัมผัสกับขนมจะต้องไม่มีสี

“ขอให้ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ขนม รวมถึงลูกอมปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด อย่าใส่สี หรือสารอันตรายใดๆ ที่อาจเป็นอันตรายลงในผลิตภัณฑ์เป็นอันขาด มิฉะนั้น จะได้รับโทษตามกฎหมาย เช่น กรณีการใช้สีสังเคราะห์ในอาหารไม่เป็นไปตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 281) พ.ศ.2547 เรื่อง วัตถุเจือปนอาหาร ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท กรณีตรวจพบสิ่งที่น่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เข้าข่ายเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อย่างไรก็ตาม อย. จะดำเนินการตรวจสอบ และเฝ้าระวังเก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมาตรวจวิเคราะห์คุณภาพอย่างต่อเนื่อง” รองเลขาธิการ อย. กล่าว


http://www.manager.co.th/
บันทึกการเข้า

รัก...ไม่จำเป็นต้อง "บอก"
แต่ขอให้ "แสดงออก" ต่อกันว่ายังรัก
รัก...ไม่จำเป็นต้อง "บรรยาย" อะไรมากนัก
แต่ขอให้ "รู้สึกได้" ว่าเรายังรักกันก็พอ..!!!
หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: