-/> กินอย่างไรในสไตล์คนนอนดึก

หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: กินอย่างไรในสไตล์คนนอนดึก  (อ่าน 1636 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
คะแนนน้ำใจ 4202
เหรียญรางวัล:
ผู้ดูแลบอร์ดนักโพสดีเด่น
กระทู้: 681
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« เมื่อ: 13 พฤศจิกายน 2556, 12:33:42 AM »

Permalink: กินอย่างไรในสไตล์คนนอนดึก

กินอย่างไรในสไตล์คนนอนดึก




คำแนะนำสำหรับคนนอนดึกและทำงานกลับกลางวันเป็นกลางคืนต้องพิเศษหน่อย เพราะอาชีพนอนดึกคืออาชีพที่เอาชีวิตในอนาคตมาแลก เอาสุขภาพแลกเงินนั่นละ
ไม่ว่าจะเป็นงานดีเจ,พิธีกร,นักแสดง,คุณหมอ,ขายของฯลฯ  อาชีพเหล่านี้เสี่ยงต่อสุขภาพทั้งสิ้น เพราะลงถ้าต้องนอนดึกแล้วหรือต้องทำงานในเวลาที่ร่างกายต้องพักผ่อน  ร่างกายมันก็จะย้อนมาฟ้องด้วยอาการผิดปกติต่าง ๆ อาทิเช่น มึนศีรษะ, เวียนหัว, คลื่นไส้, เป็นหวัดง่าย, ภูมิแพ้กำเริบ น้ำมูกหยดติ๋ง
เป็นสิ่งที่เรียกอาการ “น้ำจิ้ม” ของคนนอนดึก แต่ถ้ายังอดนอนต่อไปอีก น้ำจิ้มก็จะเปลี่ยนเป็นจานหลักมื้อใหญ่จัดหนัก  ทั้งปวดหัวบ่อย, ประจำเดือนไม่มา, อ้วนลงพุงและซึมเศร้าได้ คนที่ไม่ได้นอนเป็นเวลาเท่ากับพาร่างกายเข้าสู่ “หลุมดำ” ที่รวมโรคไว้ไม่คุ้มเลยแม้แต่นิด

3 ความเชื่อเมื่อนอนดึก
มีความเชื่อเรื่องคนนอนดึกอยู่หลายข้อที่ทำให้สับสนและกลายเป็นความเชื่อที่ผิดจนเสียสุขภาพไปได้  ดังจะขอยกง่าย ๆ ที่ได้ยินบ่อยสัก 2-3 ตัวอย่างค่ะ

1. นอนดึกจะไม่อ้วน ตรงกันข้ามเลยครับ ยิ่งนอนดึกยิ่งเสี่ยงอ้วนได้มาก  หากไม่อยากอ้วนควรเข้านอนแต่หัวค่ำจะดีที่สุด

2. นอนดึกแล้วนอนชดเชยได้ การอดนอนไม่อาจชดเชยได้เหมือนกันการนอนในเวลานั้น ๆ  เหมือนกับเวลาทองที่ผ่านแล้วผ่านเลย  อาจนอนเพิ่มได้บ้างแต่ไม่ดีทั้งร้อยแน่

3. นอนดึกแล้วต้องกิน คนที่กินตอนดึกเพราะเชื่อว่าต้องกินนั้นส่วนใหญ่มาจากความหิวยามวิกาลที่ทนทานไม่ไหว ยิ่งกินดึกไปจะยิ่งอ้วนง่ายขึ้น

“ถั่ว,ปลา,ไข่” ทำงานดึกต้องเลือกกิน

เมื่อทราบแล้วว่าการนอนดึกไม่ดีนักต่อร่างกายแต่เมื่อเลี่ยงไม่ได้ก็เข้าใจมาก ๆ  เพราะทำงานที่ต้องแข่งกับเวลาเช่นเดียวกันกับหลายท่าน เลยหาเทคนิคง่าย ๆ ที่จะช่วยตอบโจทย์คนทำงานดึกได้และไม่เสียสุขภาพมากมาฝากกัน เป็นโปรแกรมจัดชีวิตยามวิกาลด้วยการเลือกทานเพื่อบำรุงสุขภาพ
อาหารเฉพาะสำหรับมนุษย์นอนดึกมีดังต่อไปนี้

1) เนื้อสีขาว หาเนื้อปลา อกไก่ ไข่ขาว เต้าหู้ ทานบ้าง  เพราะสร้าง “เคมีสมอง” ที่จำเป็นสำหรับคนนอนดึก  ได้แก่โดพามีน,เอพิเนฟริน

2) กาบ้า (GABA)  เป็นสารช่วยสื่อประสาทสมองทำให้ความจำดีคิดอ่านได้ว่องไว  มีมากในข้าวกล้องงอก,มอลต์,ข้าวบาเลย์,ถั่วแดง,ถั่วดำ,ลูกเดือยและธัญพืชอื่น ๆ

3) โคลีน (Choline)  มีมากในถั่วเหลือง,ไข่แดง  เป็นเคมีที่ช่วยสร้างความปรองดองเชื่อมโยงถึงกันในสมอง  ป้องกันความจำเสื่อม  ช่วยให้สมาธิและความจำไม่สะดุดลงด้วยอาการอดนอน

4) ช็อกโกแลตดำ(Dark Chocolate)  ท่านที่อยากหาเครื่องดื่มชูกำลังเสริมขอให้เลือกเป็น “โกโก้ร้อน” แทนเพราะมี “ฟลาโวนอยด์” ช่วยให้เลือดไหลลื่นในสมองป้องกันเส้นเลือดอุดตัน

5) โอเมก้า(Omega fatty acid)  เลือกหาจากเนื้อปลาแต่ว่าลดการบริโภคน้ำมันพืชให้น้อยลงครับ  ให้รับประทานปลาทูวันละ 2 ตัวหรือทูน่ากระป๋องก็ยังได้

6) ไบโอติน(Biotin)  กินได้จาก “ไข่แดง” อย่างน้อยวันละ 1 ฟองปลอดภัยทานได้  ไบโอตินช่วยบำรุงสมองและเส้นผมได้ดี  เหมาะกับท่านที่อยู่ดึกและใช้สมองมาก

7) ใบบัวบก(Centella asiatica) เป็นคลอโรฟิลล์จากธรรมชาติและยังมีสารช่วยลดการอักเสบของร่างกายจากภาวะนอนดึก  หาบัวบกรับประทานสดหรือเอามาปั่นเป็นน้ำคั้นสีเขียวดื่มบ่อยๆ  ช่วยให้สดชื่นตื่นตัวดี

8) ใบแปะก๊วย(Ginkgo biloba)  ย้ำว่าเป็นส่วนของ “ใบ” นะครับไม่ใช่เม็ดแปะก๊วยที่เอามาใส่นมสดซดเล่น  ในใบของแปะก๊วยมีสารสำคัญที่ช่วยป้องกันสมอง  สามารถหาทานได้ในรูปแบบอาหารเสริม

9) วิตามินบี(B Vitamin)  ของดีที่ช่วยเส้นประสาททั้งร่างกายอีกทั้งสมองให้ตื่นตัวได้แม้ในยามอดนอน  วิตามินบีมีดีแทบทุกตัวครับทั้ง บี1,บี2,บี6,บี12 และอีกหลายๆบี  มีผลกระตุ้นสมองป้องกันอาการง่วงมึนซึม

10) ดื่มน้ำให้มาก(Hydration)  สุดท้ายนี้ง่ายๆที่สุดแต่มักถูกมองข้ามคือการ “ดื่มน้ำสะอาด” ครับ  น้ำเปล่าธรรมดานี่เองที่ดีต่อสมองเป็นที่สุดเพราะก้อนสมองต้องอาศัยน้ำในการบำรุงเช่นเดียวกับร่างกายที่นอนดึก  ท่านที่รักลองสังเกตว่านอนดึกแล้วปากแห้งเพราะร่างกายคนนอนดึกไม่ได้พักจึงมีการสูญเสียน้ำไปจนปากคอเป็นผง

ส่วนสิ่งที่ควรเลี่ยงในผู้ใช้ชีวิตยามรัตติกาลเป็นอาจินก็คือ

1) กาแฟและชา

2) ของหวาน

3) อาหารเค็ม

4) ออกกำลังตอนดึก

5) ยานอนหลับ

ทั้ง 5 อย่างนี้จะยิ่งรบกวนการนอนทำให้เกิดโรคจากการนอนหลับผิดปกติและทำให้เมื่อถึงเวลาหลับจริงๆอย่างตอนกลางวันไม่สามารถจะหลับได้เต็มตา  พาให้สุขภาพย่ำแย่ลงอย่างรวดเร็ว


ขอขอบคุณที่มาของข้อมูล  : เดลินิวส์
ขอขอบคุณภาพจาก         : อินเตอร์เน็ต


บันทึกการเข้า




หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: