-/> เปิบ 'มะขาม' ป้องมะเร็งต้านอนุมูลอิสระ

You are here: Khonphutorn.com - แหล่งข้อมูลของคนไทยหมวดสุขภาพกินเพื่อสุขภาพ (ผู้ดูแล: หมอจุ๋ม จุ๋มจิ๋ม จิ๋มจุ๋ม)เปิบ 'มะขาม' ป้องมะเร็งต้านอนุมูลอิสระ
หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: เปิบ 'มะขาม' ป้องมะเร็งต้านอนุมูลอิสระ  (อ่าน 1573 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 4 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
คะแนนน้ำใจ 4202
เหรียญรางวัล:
ผู้ดูแลบอร์ดนักโพสดีเด่น
กระทู้: 681
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« เมื่อ: 12 กันยายน 2556, 11:32:01 PM »

Permalink: เปิบ 'มะขาม' ป้องมะเร็งต้านอนุมูลอิสระ

เปิบ 'มะขาม'  ป้องมะเร็งต้านอนุมูลอิสระ



หากกะเทาะเปลือกหุ้มเม็ดมะขามทิ้งจะพบประโยชน์ซ่อนอยู่ ซึ่งนักศึกษาคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) วิจัย เรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต้านอนุมูลอิสระชนิดอัดเม็ดจากสารสกัดเปลือกหุ้มเม็ดมะขาม โดย น.ส.นันทิดา หมวกเหล็ก นายบวร บุตรดีสิงห์ และ ผศ.ดร.ทรงวุฒิ ยศวิมลวัฒน์ พบว่ามีสารต้านอนุมูลอิสระสูงเทียบเท่าสารสกัดจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากต่างประเทศ




จากสภาพปัจจุบันที่ผู้บริโภคให้ความสนใจกับการดูแลสุขภาพโดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ต้านอนุมูลอิสระ พืชพื้นบ้านอย่าง "มะขาม" จึงได้นำมาศึกษา พบว่ามีสารต้านอนุมูลอิสระและสารประกอบฟีนอลลิกอยู่ในปริมาณสูง ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่ดีต่อสุขภาพ




สารต้านอนุมูลอิสระสามารถลดความเสี่ยงต่อโรค เช่น มะเร็ง เบาหวาน เป็นต้น รวมทั้งช่วยชะลอกระบวนการบางขั้นตอนที่ทำให้แก่ ซึ่งปกติร่างกายสามารถกำจัดอนุมูลอิสระได้เอง แต่หากร่างกายได้รับสารอนุมูลอิสระมากเกินไป จะกำจัดไม่ทันก็อาจสร้างความเสียหายต่อเซลล์และเนื้อเยื่อได้
  เม็ดมะขามที่นำมาศึกษาวิจัยปลูกใน จ.เพชรบูรณ์ โดยไม่ระบุสายพันธุ์ เริ่มจากการสกัดด้วยเอทานอลความเข้มข้นร้อยละ 70 ที่อุณหภูมิ 60 C เป็นเวลา 24 ชั่วโมง สารสกัดที่ได้จะถูกนำมาระเหยตัวทำละลายออกด้วยเครื่องระเหยแบบลดความดัน





โดยสารสกัดเปลือกหุ้มเม็ดมะขามพบว่ามีฤทธิ์ต้านออกซิเดชั่น ที่ดีกว่าวิตามินอี 3.14 เท่า คำนวณขนาดการรับประทานของผลิตภัณฑ์เม็ดสารสกัดเปลือกหุ้มเม็ดมะขามต่อวัน มีค่าเท่ากับ 85.50-341.98 mg ต่อวัน โดยผู้วิจัยเลือกขนาดรับประ ทานต่อเม็ด เป็น 300 mg รับประทานง่ายเพียงวันละ 1 เม็ด
"สารสกัดจากเปลือกหุ้มเม็ดมะขามมีฤทธิ์ต้านออกซิเดชั่นที่สูงมากใกล้เคียงกับสารสกัดจากเม็ดองุ่น การวิจัยครั้งนี้จึงเป็นแนวโน้มที่ดี ในการนำพืชพื้นบ้านไทยมาใช้ประโยชน์ด้านสุขภาพ ก่อนนำไปผลิตในเชิงอุตสาหกรรมต่อไป"


แหล่งที่มา : http://www.thaihealth.or.th/healthcontent/article/28435
ภาพ : Internet




บันทึกการเข้า




หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: