-/> เชิญลิ้มรส 10 อันดับผลไม้รสอร่อยที่ทานแล้วไม่อ้วน !!

You are here: Khonphutorn.com - แหล่งข้อมูลของคนไทยหมวดสุขภาพกินเพื่อสุขภาพ (ผู้ดูแล: หมอจุ๋ม จุ๋มจิ๋ม จิ๋มจุ๋ม)เชิญลิ้มรส 10 อันดับผลไม้รสอร่อยที่ทานแล้วไม่อ้วน !!
หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: เชิญลิ้มรส 10 อันดับผลไม้รสอร่อยที่ทานแล้วไม่อ้วน !!  (อ่าน 1629 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
คะแนนน้ำใจ 4202
เหรียญรางวัล:
ผู้ดูแลบอร์ดนักโพสดีเด่น
กระทู้: 681
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« เมื่อ: 03 กันยายน 2556, 09:07:51 PM »

Permalink: เชิญลิ้มรส 10 อันดับผลไม้รสอร่อยที่ทานแล้วไม่อ้วน !!


10 อันดับผลไม้กินแล้ว "ไม่อ้วน"








นอกจากรสชาติอร่อย ผลไม้ยังเป็นแหล่งอุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่ต่างๆ เต็มไปด้วยอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ และช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ที่สำคัญไม่ต้องกลัวอ้วน เพราะปริมาณคาร์โบไฮเดรตเฉลี่ยเพียง 1.9 - 10 กรัมต่อน้ำหนัก 100 กรัม เชิญลิ้มรส 10 อันดับผลไม้รสอร่อยที่ทานแล้วไม่อ้วนแถมยังได้ประโยชน์อีกต่างหาก!

สตรอเบอร์รี่
สตรอเบอร์รี่เป็นผลไม้ที่เหมาะกับการลดน้ำหนักเป็นอย่างยิ่งค่ะ เพราะนอกจากจะมีแคลอรี่ต่ำแล้วยังมีไฟเบอร์สูงอีกด้วย ในสตรอเบอร์รี่ 50 แคลอรี่ มีไฟเบอร์ถึง 3 กรัมเลยค่ะ สตรอเบอร์รี่เป็นแหล่งรวมของวิตามินซี โฟเลต โพแทสเซียม และแมงกานีส สารอาหารเหล่านี้จะช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญแคลอรี่ในร่างกายให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยรับประทานสตรอเบอร์รี่แค่สามสี่ลูกก็จะช่วยทำให้เรารู้สึกอิ่มได้นานขึ้นค่ะ

ส้ม

ส้มเป็นผลไม้ที่หารับประทานได้ง่ายมากๆ แถมมีราคาไม่แพงมากนัก การรับประทานส้มเป็นลูกๆ ดีกว่าการดื่มน้ำส้มค่ะ เพราะจะทำให้เราได้รับไฟเบอร์มากกว่านั่นเอง ในส้ม 1 ผลมีแคลอรี่ประมาณ 85 แคลอรี่มีเส้นใยอาหารประมาณ 5 กรัม นอกจากนี้ส้มยังประกอบด้วยวิตามินซี วิตามินบี โฟเลต ซึ่งมีส่วนช่วยทำให้ร่างกายเผาผลาญได้ดียิ่งขึ้นค่ะ

แอปเปิ้ล

ในแอปเปิ้ลลูกย่อมๆ ประกอบด้วยไฟเบอร์มากถึง 4 กรัมเลยค่ะ แอปเปิ้ลยังช่วยให้เรารู้สึกอิ่มได้นานขึ้นโดยที่เราไม่ต้องได้รับจำนวนแคลอรี่เพิ่มมากขึ้น แอปเปิ้ลประกอบไปด้วยวิตามินซีซึ่งช่วยในเรื่องของการสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย แถมเจ้าแอปเปิ้ลนี้ยังช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้อีกด้วยค่ะ


มะม่วง

มะม่วงลูกขนาดกลาง 1 ผลมีปริมาณแคลอรี่ประมาณ 130 แคลอรี่ แต่มีปริมาณไฟเบอร์มากกว่า 4 กรัม และยังมีวิตามินเอ วิตามินซี และแคลเซียม แถมยังมีส่วนช่วยบำรุงสายตา ช่วยลดระดับคอเรสเตอรอลในเส้นเลือดอีกด้วยค่ะ แต่ทั้งนี้มะม่วงเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลมากกว่าผลไม้ชนิดอื่นๆ เพราะฉะนั้นสาวๆ ต้องรับประทานให้พอดี อย่ารับประทานมากเกินไป ไม่งั้นจะอ้วนโดยที่ไม่รู้ตัวนะคะ

ฝรั่ง

ฝรั่งเป็นผลไม้ที่หารับประทานได้ง่ายมากๆ แถมยังขึ้นชื่อในเรื่องของการช่วยลดน้ำหนักอีกด้วย สาวๆ คนไหนที่กำลังไดเอ็ทอยู่มักจะเลือกฝรั่งมารับประทานเป็นอันดับแรกๆ ฝรั่งมีรสฝาด แต่มีคุณสมบัติช่วยบรรเทาอาการท้องเสีย แถมยังมีวิตามินซี วิตามินเอ วิตามินเค ไลโคปีน และโพแทสเซียม ซึ่งมีส่วนช่วยในการควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจและความดันในเส้นเลือดด้วยค่ะ


มะละกอ

ใครชอบกินมะละกอล่ะก็ ต้องชอบค่ะ เพราะเราสามารถรับประทานได้ทั้งแบบสุกและแบบดิบ โดยในมะละกอ 55 แคลอรี่ มีจำนวนไฟเบอร์ 3 กรัม และมะละกอยังมีวิตามินเอ วิตามินซี โฟเลต และโพแทสเซียม นอกจากนี้ในมะละกอยังมีเอนไซม์ซึ่งช่วยในเรื่องของระบบการขับถ่ายให้ดีขึ้น เพราะฉะนั้นมะละกอจึงเป็นผลไม้ที่เหมาะกับการลดน้ำหนักเป็นอย่างยิ่งเลยค่ะ

แคนตาลูป

แคนตาลูป 1 ลูกเล็กมีปริมาณแคลอรี่เพียงแค่ 60 แคลอรี่เท่านั้นเองค่ะ แต่แคนตาลูปจะช่วยทำให้เรารู้สึกอิ่มท้องได้นานขึ้น แคนตาลูปเป็นผลไม้ที่มีวิตามินและเกลือแร่สูง ทั้งวิตามินซี วิตามินเอ โพแทสเซียม ไนอาซิน โฟเลต วิตามินบี6 และเบตาแครอทีน แถมยังช่วยดูแลสุขภาพปอดของเราด้วยค่ะ


แตงโม

แตงโมก็เป็นผลไม้อีกชนิดหนึ่งที่รับประทานแล้วจะไม่ทำให้เราอ้วนค่ะ ในแตงโมประกอบไปด้วยโพแทสเซียม วิตามินซี แอนไทออกซิแดนซ์ เบตาแครอทีน และไลโคปีน ซึ่งช่วยป้องกันโรคมะเร็งและโรคหัวใจ รวมถึงช่วยป้องกันโรคมะเร็งเต้านม มะเร็งปอด และมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วยค่ะ แถมเจ้าแตงโมเนี่ยมีแคลอรี่เพียงแค่ 46 แคลอรี่เท่านั้นเองค่ะ

สัปปะรด

สัปปะรดก็เป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ไม่แพ้ผลไม้ชนิดอื่นเลยค่า สัปปะรดประกอบไปด้วยแมงกานีส วิตามินซี ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง รวมถึงช่วยป้องกันการเกิดหวัดและเป็นไข้ เนื่องจากสัปปะรดเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงมากๆ นั่นเองค่ะ แถมสัปปะรดยังช่วยให้เรารู้สึกอิ่มโดยไม่ทำให้เราอ้วนขึ้นด้วยค่ะ

กีวี่

ในกีวี่ 1 ผลมีปริมาณแคลอรี่ประมาณ 46 แคลอรี่ กีวี่ประกอบไปด้วยโพแทสเซียม วิตามินซี วิตามินอี และไฟเบอร์ ซึ่งไฟเบอร์ในกีวี่จะช่วยเรื่องการดูดซึมสารอาหาร ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยป้องกันโรคมะเร็งกระเพาะอาหารและลำไส้ใหญ่ได้ด้วย




ขอขอบคุณข้อมูลจาก : dek-d.com
ขอขอบคุณภาพจาก : internet


บันทึกการเข้า




หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: