-/> ภูชี้ฟ้า

หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ภูชี้ฟ้า  (อ่าน 1756 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
คะแนนน้ำใจ 661
กระทู้: 193
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« เมื่อ: 04 สิงหาคม 2556, 04:54:36 AM »

Permalink: ภูชี้ฟ้า

การเดินทาง

    รถยนต์ ภูชี้ฟ้า อยู่ห่างจากอำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ประมาณ 144 กิโลเมตร การเดินทางจากอำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ไปยัง ภูชี้ฟ้า ได้ตามแนวเส้นทางดังนี้

     1.จากอำเภอเมืองเชียงรายไปอำเภอเทิง ผ่านสามแยกโรงเรียนภูซางวิทยาคม บ้านสบบงและสามแยกบ้านม่วงชุมแล้วเดินทางต่อไป ก็จะถึง ภูชี้ฟ้า

     2.ไปตามทางหลวงจังหวัดสาย 1093 ผ่านน้ำตกภูซาง ด่านบ้านฮวก ศูนย์ส่งเสริมเกษตรที่สูงดอยผาหม่น ผ่านจุดท่องเที่ยวได้แก่ น้ำตกภูซาง (อุทยานแห่งชาติภูซาง) และศูนย์ส่งเสริมเกษตรที่สูงดอยผาหม่น ทดลองและส่งเสริมปลูกไม้ดอกเมืองหนาว เช่น ทิวลิป ลิลลี่

    จาก ภูชี้ฟ้า สามารถเดินทางไปยัง ดอยผาตั้ง อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย โดยอยู่ห่างออกไปตามเส้นทางหลวงจังหวัดสาย 1093 เป็นระยะทาง 25 กิโลเมตร และจาก ดอยผาตั้ง ยังสามารถเดินทางต่อไปยังอำเภอเชียงของ อำเภอเชียงแสน และอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายได้อีกด้วย




แหล่งท่องเที่ยว

    ภูชี้ฟ้า เป็นยอดเขาสูงที่สุดในเทือกเขาดอยผาหม่น สูงจากระดับน้ำทะเล 1,628 เมตร ด้านที่ติดสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีหน้าผาสูงชัน เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุด ในฤดูหนาวจะมีทิวทัศน์สวยงามเป็นพิเศษ นักท่องเที่ยวส่วนมากจะมาค้างแรมบริเวณบ้านร่มฟ้าทองทางห่างจากจุดชมวิว ประมาณ 1.5 กิโลเมตร แล้วจะเดินขึ้น ภูชี้ฟ้า เพื่อไปชมวิวตอนเช้ามืด ระหว่างทางจะพบแปลงปลูกป่านางพญาเสือ ออกดอกบานสะพรั่งสวยงาม (เดือนมกราคม - กุมภาพันธ์) และในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ต้นเสี้ยวดอกขาวรอบ ภูชี้ฟ้า จะออกดอกบานเต็มเชิงเขา


                    ภูชี้ฟ้า เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่โดดเด่นของจังหวัดเชียงราย อยู่ในพื้นที่เขตอำเภอเทิง  ยอด ภูชี้ฟ้า อยู่บนเทือกเขาสุดเขตชายแดนฝั่งตะวันออกติดกับชายแดนประเทศลาว ห่างจากอำเภอเทิงประมาณ 35 กิโลเมตร  ภูชี้ฟ้า มีลักษณะเป็นหน้าผามีปลายยอดแหลมชี้เข้าไปยังฝั่งประเทศลาว  สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ ๑,๖๒๘ เมตร บนยอด ภูชี้ฟ้า เป็นจุดชมวิว และจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ในตอนเช้าจะมีทะเลหมอกปกคลุมในหุบเขาเบื้องล่าง มีพระอาทิตย์ขึ้นผ่านพ้นทะเลหมอก เป็นความสวยงามที่นักท่องเที่ยวพากันไปรอชมตั้งแต่ยังไม่สว่าง บริเวณไหล่เขาของ ภูชี้ฟ้า เป็นทุ่งหญ้า แซมด้วยทุ่งโคลงเคลงที่มีดอกสวยงามในช่วงฤดูฝนไปจนถึงฤดูหนาว  บริเวณที่ราบไหล่เขาของถนนสาย ภูชี้ฟ้า เป็นที่ตั้งของรีสอร์ทและบ้านพักหลายรายเพื่อให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่ ขึ้นไปเที่ยวและพักค้างแรมในบรรยากาศที่หนาวเย็น  ปัจจุบันนี้ ภูชี้ฟ้า อยู่ในความดูแลของวนอุทยานภูชี้ฟ้า บริเวณริมถนนขึ้น ภูชี้ฟ้า มีที่ราบที่จัดไว้สำหรับให้นักท่องเที่ยวได้กางเต็นท์พักแรมด้วย  ภูชี้ฟ้า เป็นดอยเดียวที่ชื่อว่าภู จริงแล้วจะต้องชื่อว่าดอยชี้ฟ้าตามคำเรียกของทางเหนือ แต่ว่า ภูชี้ฟ้า เป็นชื่อที่คนต่างถิ่นไปตั้งชื่อ จึงเรียกว่าภู   

                  ภูชี้ฟ้าไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวเก่าแก่เหมือนกับดอยแม่สลอง ดอยอ่างขาง  หรือดอยอินทนนท์ ในสมัยก่อนพื้นที่ของ ภูชี้ฟ้า เป็นแดนผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์  มีการต่อสู้ทางอาวุธและแนวความคิดที่รุนแรงแห่งหนึ่งของประเทศไทย  ครั้นเมื่อลัทธิคอมมิวนิสต์ล่มสลายไป  เริ่มมีผู้คนเดินทางมาชมธรรมชาติที่นี่  และแล้วชื่อเสียงของ ภูชี้ฟ้า ก็ขจรขจายไปอย่างรวดเร็ว  เนื่องจากเอกลักษณ์ทางธรรมชาติที่ไม่มีใครเหมือนนั่นคือลักษณะภูเขาที่ชี้ไป บนฟ้า  บางคนมองเห็นเป็นรูปภูตูดไก่บรรยากาศของ ภูชี้ฟ้า ยังคงมีบรรยากาศเมืองเหนือเหมือนภูและดอยอื่นๆ มีหมู่บ้านชาวเขา  บริเวณตีน ภูชี้ฟ้า เป็นบรรยากาศของการท่องเที่ยว มีที่พักขนาดเล็กๆหลายแห่งให้เลือกใช้บริการ  ดำเนินงานโดยชาวเขาบ้างชาวเราบ้างและที่บริเวณบ้านเช็งเม้งก่อนขึ้นสู่ตีน ภูชี้ฟ้า เป็นหมู่บ้านชาวม้ง  หากมาเยือน ภูชี้ฟ้า ในช่วงปีใหม่ยังจะได้ชมงานปีใหม่  ที่ชาวม้งจะแต่งตัวม้งครบถ้วนทั้งหญิงและชาย  จุดเด่นของงานคือ การโยนลูกช่วงหรือลูกหินระหว่างหนุ่ม - สาว

               เที่ยวภูชี้ฟ้า ต้องขยันหน่อยเพราะจะเด่นสุดก็คือ  การได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นที่ ภูชี้ฟ้า ที่พักต่างๆจะอยู่เชิงภู ประมาณตีห้าจะต้องตื่นขึ้นแต่งกายให้อบอุ่นถือไฟฉายคนละกระบอก  จากนั้นรถของที่พักแต่ละแห่งจะไปส่งขึ้น ภูชี้ฟ้า  แต่ไปไม่ถึงยอดต้องเดินเท้าบ้างเล็กน้อยทางขึ้นที่นิยมมี 2 ทาง เดินเท้าประมาณเกือบกิโลเมตร  ก่อนถึงยอด ภูชี้ฟ้า สัก 200 เมตร จะมีไหล่ทางลงไปเล็กน้อย  หากใจเย็นนั่งรอที่นี่จะค่อยๆเห็นพระอาทิตย์ขึ้นฉายแสงสว่างอาบ ภูชี้ฟ้า  เป็นภาพที่งดงามมาก  เบื้องล่างอบอวลไปด้วยทะเลหมอก  หากรอจนสายหมอกถูกความร้อนระเหยหมดแล้วยังคงมองเห็นสายน้ำโขงไหลคดเคี้ยว  ท่ามกลางป่าไม้ของฝั่งลาวที่เขียวสุดสมบูรณ์ด้วย  ใช่ว่า ภูชี้ฟ้า จะสวยช่วงเช้าเท่านั้นในเวลากลางวันหรือเย็นยังสามารถชมทิวทัศน์ ภูชี้ฟ้า ได้สวยงามเช่นกัน  หากมาเที่ยว ภูชี้ฟ้า ในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม  เส้นทางขึ้น ภูชี้ฟ้า จากหน่วยจัดการต้นน้ำหลาวขึ้น ภูชี้ฟ้า จะผ่านป่าซากุระหรือต้นพญาเสือโคร่งสีชมพูสวยงามมาก


               ดอยผาตั้ง  อยู่ห่างจาก ภูชี้ฟ้า ไปประมาณ 24 กิโลเมตร  ในเขตบ้านผาตั้ง  อำเภอเวียงแก่น  เมื่อชมทะเลหมอกยามเช้าที่ ภูชี้ฟ้า แล้ว  ช่วงบ่ายจึงเหมาะที่จะไปเที่ยว ดอยผาตั้ง   สิ่งที่น่าดูของ ดอยผาตั้ง คือทิวทัศน์ที่มองเห็นแม่น้ำโขงที่กั้นพรมแดนไทย-ลาว  ทิวทัศน์สุดสายตากับป่าเขียวๆ บริเวณทางขึ้นสู่ผาตั้งยังมีผาบ่องลักษณะเป็นช่องหินขนาดใหญ่  ขนาดคนเดินผ่านได้  มองเห็นทิวทัศน์ของลาวได้สวยงามเช่นกัน  และบนสันเขาของ ดอยผาตั้ง  ยังมีช่องเขาขาดลักษณะเป็นช่องเขาที่ขาดจากกัน  ในฤดูหนาวเชิง ดอยผาตั้ง ยังสวยงามด้วยต้นซากุระบานสะพรั่งสวยงาม
   



ลักษณะภูมิอากาศ

     อากาศบนภูเขาจะค่อนข้างเย็นแต่ฤดูกาลจะเป็นแบบมรสุมเมืองร้อน โดยได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ในช่วงฤดูฝน และลมตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงฤดูหนาว แบ่งเป็น 3 ฤดู คือ ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม ถึง พฤษภาคม ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน ถึง ตุลาคม และฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ถึง กุมภาพันธ์



ลักษณะภูมิประเทศ

    พื้นที่วนอุทยานเป็นยอดเขาสูงในเทือกเขาดอยผาหม่น ติดชายแดนไทย - สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 1,200 เมตร ถึง 1,628 เมตร จุดสูงสุดคือ บริเวณจุดชมวิว มีความลาดชันเฉลี่ยทั่วพื้นที่ประมาณ 40 เปอร์เซนต์


พันธุ์ไม้และสัตว์ป่า

     เป็นป่าดิบเขา ยกเว้นบนยอด ภูชี้ฟ้า เป็นทุ่งหญ้าประมาณ 300 ไร่ ชนิดพันธุ์ไม้ที่สำคัญได้แก่ เสี้ยวดอกขาว ก่อเดือย ก่อก้างด้าง ก่อแดง ก่อน้ำ ก่อแป้น ก่อสีเสียด อบเชย กำยาน หว้า เหมือด สารภี จำปาป่า จำปีป่า พันธุ์ไม้พื้นล่าง ได้แก่ เอื้องดิน หญ้าคา หญ้าแฝก หญ้าหางหนู หญ้าสามคน หญ้าไม้กวาด หญ้าเลา มอส เฟิร์นชนิดต่าง ๆ

    สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่พบเห็นได้แก่ เก้ง กระจง หมูป่า อีเห็น ชะมด เสือไฟ เสือ ปลา แมวป่า หมูหริ่ง บ่าง เม่น พังพอน ค้างคาว กระต่ายป่า

     นกที่พบเห็นได้แก่ นกเขา เหยี่ยว นกกระสา นกอินทรี นกฮูก นกปรอด นกแขวก นกเค้าแมว นกแสก นกกระปูด นกเอี้ยง นกกางเขน นกขมิ้น นกกระทาดง นกกวัก นกกิ้งโครง นกขุนทอง นกแซว นกนางแอ่น นกยูง นกตะขาบ นกหัวขวาน นกดุเหว่า ไก่ป่า ไก่ฟ้า    สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ที่พบเห็นได้แก่ เต่า กบ เขียด

     สัตว์เลื้อยคลาน ที่พบเห็นได้แก่ งูชนิดต่าง ๆ ตะกวด ลิ่น ตุ๊กแกป่า กิ้งก่าบิน



บ้านพัก-บริการ

    วนอุทยานภูชี้ฟ้า ไม่มีบ้านพักหรือค่ายพักแรมบริการแก่นักท่องเที่ยว หากนักท่องเที่ยวมีความประสงค์จะไปพักแรม โปรดนำเต็นท์ไปกางเอง โดยทางวนอุทยานได้จัดสถานที่ไว้ให้พร้อมกับห้องสุขา ส่วนเรื่องอาหารต้องจัดเตรียมไปเอง แล้วไปติดต่อขออนุญาตใช้สถานที่กับเจ้าหน้าที่ที่หัวหน้า วนอุทยานภูชี้ฟ้า โดยตรง รายละเอียดสอบถามได้ที่สำนักบริหารจัดการในพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 จังหวัดเชียงราย โทร. (053) -714914 หรือฝ่ายจัดการวนอุทยาน สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 โทร. 0-25614292 -3 ต่อ 719


สถานที่ติดต่อ

     วนอุทยานภูชี้ฟ้า สำนักบริหารจัดการในพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 (เชียงราย) ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย โทร. (053) 714914


บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: