-/> นิทานเรื่อง แก้วสารพัดนึก ๑๔

หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: นิทานเรื่อง แก้วสารพัดนึก ๑๔  (อ่าน 546 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 25515
เหรียญรางวัล:
ผู้ดูแลเว็บนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลบอร์ดนักเโพสดีเด่นมีความคิดสร้างสรรค์
กระทู้: 2,067
ออฟไลน์ ออฟไลน์
รักทุกคนที่รักเรา รักทุกคนที่เรารัก
   
« เมื่อ: 28 ตุลาคม 2567, 05:06:05 AM »

Permalink: นิทานเรื่อง แก้วสารพัดนึก ๑๔




  ☆นิทานเรื่อง แก้วสารพัดนึก๑๔☆
.    (จบตอน รามสูรขว้างขวาน)

☆เมขลาขอพรตอนลักแก้ว
จงคลาดแคล้วโพยภัยใจฮึกเหิม
มิกลัวเหตุเภทร้ายกายคอนเฟิร์ม
ตายแล้วเริ่มชีพใหม่ได้ด้วยมนตร์

☆ป่าวประกาศกราดทั่วชายชั่วช้า
หลั่งน้ำตาแตกกระเซ็นเป็นเม็ดฝน
ส่งลำแรงแสงแก้วแวววับวน
เจ็บเสียจนฤทัยหมองข้องอุรา

☆นี่กระไรใจหญิงจริงในรัก
ย่อมเน้นหนักแน่แท้ใช่แค่หา
เพียงคู่ครองร้องร่ำจำนรรจา
ปรารถนารักตอบยามชอบพอ

☆น่าสงสารนานเนิ่นทางเดินผิด
มอบชีวิตแก่ชายร้ายจริงหนอ
ดูรึทำช้ำใจได้ลงคอ
จะเดินต่อแสนล้าเพราะราคี

☆มิรักหญิงจริงใจไยเหี้ยมโหด
มาลงโทษสร้างคาวให้สาวศรี
หมดคุณค่าว้าวุ่นกุลสตรี
ทั้งชีวีย่อยยับกับความลวง

☆แต่ละวันมั่นหมายยามปลายฟ้า
คล้ำนภามืดมิดจิตหึงหวง
เมขลาหาคำร่ายบำบวง
สาปคู่ควงชายโฉดลงโทษทัณฑ์

☆ฝั่งตรงข้ามรามสูรพิบูลศักดิ์
ด้วยว่ารักราหูผู้เพื่อนนั่น
ต่างสมัครภักดิ์จิตรผูกมิตรกัน
ยามเจ็บพลันยิ่งยวดย่อมปวดตาม

☆ตีลังกาฟ้าหมุนจนฝุ่นกลบ
ร้อยตลบทีท่าน่าเกรงขาม
หัวเราะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ถลาจาม
แม่คนงามเจอแล้วเอาแก้วมา

☆ไยมิคืนยื่นให้ใจเคืองแท้
จะจามแม่ด้วยขวานผ่านเวหา
ตามนานนักอักโขโชว์เวลา
นับเกินกว่าศตวรรษแสนขัดใจ

☆เห็นคนเก่งเพ่งพิศพินิจแล้ว
เจ้าน้องแก้วเมขลาหน้าสวยใส
แอบลักลอบกอบแก้วแสงแววไว
รู้หรือไม่ราหูอยู่เดียวดาย

☆เมขลาฤๅสนคนหน้ายักษ์
มาหาญหักเซ้าซี้มีเสียหาย
เปล่ารู้จักมักจี่ขี้โวยวาย
คารมคายขุ่นเคืองเขื่องจังเลย

☆กระโดดกิงก่องแก้วแล้วหันกลับ
โผขยับเหินฟ้าหน้าตาเฉย
ถ้าอยากได้ใจกล้ามานะเอย
ก็จงเผยสักนิดฤทธิ์ที่มี

☆รามสูรได้ฟังแทบคลั่งจับ
มือขยับด้ามขวานอ่านวิถี
ขว้าง โป๊ะโดน โป๊ะโดน โดนทุกที
แม่ตัวดียิ้มสยายมิวายชนม์

☆เพราะอำนาจศาสตร์พรกำจรแกร่ง
จะขว้างแรงแค่ไหนไม่เป็นผล
เมขลาหน้ารื่นชื่นกมล
แลบลิ้นวนล่อหลอกบอกไม่กลัว

☆ทำอย่างไรได้หนอพ่อขวานเพชร
เจอทีเด็ดเข้าแล้วแววปวดหัว
ขว้างจนเหนื่อยเมื่อยเงื้อเหงื่อท่วมตัว
เอาแต่จั่วจนล้าคว้าแต่ลม

☆จะขว้างค้นบนล่างนางรับได้
หลบขวานไวจริงหนอท้อขื่นขม
แอ่นอกล่อล้อหน้าท้าระงม
เกินจะข่มใจแล้วนะแก้วตา

☆เดี๋ยวขึ้นบนวนล่างไม่ค้างหยุด
สองแขนฉุดยึกยักผลักแข้งขา
เหงื่อไหลร่วงพวงหยดหมดแรงลา
เฝ้าเงื้อง่าเล็งลานแกว่งขวานไกว

☆ครั้งสุดท้ายหมายขวานผ่านหว่างขา
เมขลาหลงกลชนกลางไหล่
สิ้นชีวิตปลิดปลงลงทันใด
เป็นอย่างไรเรื่องต่อโปรดรอตาม.

             เริงอักษร
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: