ผลไม้เพื่อสุขภาพ
มะละกอใบ, ยอด และลำต้นของมะละกอ สามารถนำมาปรุงอาหารได้ เพียงแต่ลำต้นต้องลอกเปลือกออกก่อนก็เห็นเนื้อในขาวจั๊ว
ผลมะละกอดิบ นอกจากจะทำส้มตำอร่อยแล้วยังทำแกงส้มมะละกอได้ หรือจะลวกจิ้มกับน้ำพริกก็อร่อยไม่เบา ช่วยขับปัสสาวะ เป็นยาระบายอ่อนๆ และสามารถนำมาทำ ชามะละกอเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพสำหรับล้างไขมันในลำไส้เมื่อกินอาหารมันๆ ได้ และน้ำยางจากมะละกอดิบยังช่วยเร่งให้ต้มเนื้อเปื่อยเร็วอีกด้วย
ผลมะละกอสุก มีเบต้าแคโรทีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยบำรุงผิว ลดริ้วรอย ชะลอความแก่ และอุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินซี แคลเซียม ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน พร้อมทั้งเป็นยาระบายอ่อนๆ ได้ดีทีเดียว
รากของมะละกอ แก้เคล็ดขัดยอกโดยนำมาตำให้ละเอียดแล้วผสมเหล้าโรงพอกตามที่เคล็ดลูกพรุน ราชาแห่งไฟเบอร์ลูกพรุนสด
ลูกพรุนเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพที่ให้ไฟเบอร์ หรือกากใยมากกว่าผลไม้ชนิดอื่นๆ ซึ่งเจ้าไฟเบอร์นี่เองที่เป็นผลดีต่อร่างกาย เป็นยาระบาย ช่วยรักษาสมดุลของระบบขับถ่าย ลดอาการท้องผูก ลดคลอเรสเตอรอลของผู้ป่วยที่มีไขมันในเลือดสูงได้ มีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีคุณภาพสูงอีกเป็นจำนวนมากลูกพรุนแห้ง
เป็นผลไม้เพื่อสุขภาพที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ดังนี้
- วิตามิน B2 ช่วยสร้างเม็ดเลือด ช่วยในการมองเห็น บำรุงผิวหนัง เล็บ และเส้นผม
- วิตามิน C แก้โรคเลือดออกตามไรฟัน และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต่อต้านแบคทีเรียอีกด้วย
- วิตามิน E ช่วยสร้างเลือด ต้านการแข็งตัวของเลือด ลดความเสี่ยงจากโรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือดสมองและหัวใจ บำรุงตับ ช่วยให้ผิวพรรณผ่องใส รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
- แคลเซี่ยม บำรุงกระดูกและฟัน
- มีธาตุเหล็กสูง ช่วยบำรุงเม็ดเลือดแดง มีความสำคัญมากที่สุด เพราะเป็นตัวนำออกซิเจนไปส่งให้กับทุกๆ เซลล์ในร่างกาย
แต่ใช่ว่าทุกคนจะกินลูกพรุนได้นะคะ ผู้ป่วยโรคไตวาย ไม่ควรกินลูกพรุน เพราะในลูกพรุนมีโปแตสเซียมสูง และผู้ป่วยโรคไตวาย ต้องจำกัดปริมาณโซเดียม โปรตีน น้ำ รวมถึงโปแตสเซียมในลูกพรุนด้วยกล้วยน้ำว้า กล้วยน้ำว้า หลายๆ คนคงจำไม่ได้ว่าตอนเป็นเด็กตัวน้อยๆ เราต้องกินกล้วยน้ำว้ากันทุกคน (โดยการนำช้อนขูดกล้วยผสมน้ำแล้วป้อนเด็กทารก) เพราะในกล้วยน้ำว้ามีโปรตีน กรดอะมิโน อาร์จินิน และฮีสติดิน ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของทารก และในตระกูลกล้วยด้วยกันกล้วยน้ำว้าให้วิตามินเอ สูงที่สุด และสามารถกินเป็นยาได้อีกด้วยเช่น
- บรรเทาอาการเจ็บคอ โดยกิน 5-6 ผลจะช่วยบรรเทาได้
- ลดกลิ่นปาก โดยกินหลังตื่นนอนทันที แล้วค่อยไปแปลงฟัน
- แก้ท้องผูก กิน 1-2 ผล ก่อนนอน แล้วดื่มน้ำตาม ซัก 2 แก้ว ตื่นเช้ามาจะถ่ายท้องได้ดีขึ้น
- แก้โรคกระเพาะ นำกล้วยน้ำว้าดิบมาปอกเปลือก ฝานเป็นแผ่นบางๆ ตากแดด 2 วันให้แห้งและกรอบ แล้วบดให้เป็นผงละเอียด ละลายน้ำข้าว หรือน้ำผึง ครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ ให้กินก่อนอาหาร ครึ่งชั่วโมง
- บรรเทาอาการคันจากแมลงกัดต่อย ใช้เปลือกของกล้วยน้ำว้า มาทาบริเวณที่โดยกัดขอขอบคุณข้อมูลจาก : อาหารเพื่อสุขภาพ ภาพจาก :อินเตอร์เน็ต