-/> คุณค่าแห่งการรู้ คุณค่า

You are here: Khonphutorn.com - แหล่งข้อมูลของคนไทยหมวดความบันเทิงสาระน่าอ่าน (ผู้ดูแล: Top Gun)คุณค่าแห่งการรู้ คุณค่า
หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: คุณค่าแห่งการรู้ คุณค่า  (อ่าน 3262 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
คะแนนน้ำใจ 661
กระทู้: 193
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« เมื่อ: 10 เมษายน 2556, 12:53:51 PM »

Permalink: คุณค่าแห่งการรู้ คุณค่า
             ผมไปเจอบทความหนึ่งมา น่าอ่าน และมีสาระที่ดีมากๆ เลยนำมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน เป็นข้อคิดที่ดีมากๆเลยครับผม คิดว่าอาจจะเป็นข้อคิดให้บางคนที่อาจจะหลงลืมไป เรื่องอาจจะยาวสักหน่อย แต่ก็มีคุณค่าน่าควรอ่านครับผม


มาเริ่มอ่านกันได้เลยครับผม

             หนุ่มน้อยเพิ่งจบการศึกษาด้วยผลการ เรียนดีเยี่ยมไปสมัครงานในตำแหน่งผู้จัดการบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง หลังจากผ่านการสอบสัมภาษณ์ครั้งแรกไปแล้ว ผู้อำนวยการได้เรียกเขาไปสัมภาษณ์เป็นครั้งสุดท้ายก่อนตัดสินใจ ผู้อำนวยการ เห็นข้อมูลในประวัติของเด็กหนุ่มคนนี้ว่ามีผลการเรียนเป็นเลิศในทุกวิชาตลอดมา นับตั้งแต่อุดมศึกษาจนจบมหาวิทยาลัย ไม่ปรากฏว่าเขาทำคะแนนตกเลย

             ผู้อำนวยการเริ่มคำถามว่า " เธอเคยได้รับทุนการศึกษาอะไรหรือเปล่า ?"  เด็กหนุ่มตอบว่า " ไม่เคยครับ " ผู้อำนวยการถามต่อว่า " คุณพ่อของเธอเป็นคนจ่ายค่าเล่าเรียนให้ใช่ไหม? " เด็กหนุ่มตอบว่า " คุณพ่อของผมเสียไปตั้งแต่ผมอายุได้ขวบเดียวครับ เป็นคุณแม่ที่จ่ายค่าเล่าเรียนให้ผม" ผู้อำนวยการถามต่อว่า " คุณแม่ของเธอทำงานที่ไหน? " เด็กหนุ่มตอบว่า " คุณแม่รับจ้างซักผ้ารีดผ้า "

            ผู้อำนวยการขอดูมือของเขา เด็กหนุ่มยื่นมือที่เรียบลื่นไม่มีที่ติให้ผู้อำนวยการดู  ผู้อำนวยการถามต่อว่า " เธอเคยช่วยคุณแม่ของเธอทำงานบ้างหรือเปล่า ?" เขาตอบว่า " ไม่เคยครับ คุณแม่ต้องการให้ผมเรียนแล้วก็อ่านหนังสือเยอะ ๆ คุณแม่ซักผ้าได้เร็วกว่าผมด้วยครับ " ผู้อำนวยการบอกว่า " ฉันมีเรื่องให้เธอช่วยทำอย่างหนึ่งนะ วันนี้ เธอกลับไปที่บ้าน ช่วยล้างมือของคุณแม่ของเธอแล้วกลับมาพบฉันอีกทีพรุ่งนี้เช้า "


           ด้วย ความมั่นใจว่าโอกาสที่จะได้งานทำมีอยู่สูงมาก เมื่อเขากลับไปถึงบ้านเขา จึงรู้สึกเต็มใจที่จะล้างมือให้แม่ของเขา ฝ่ายแม่รู้สึกประหลาดใจระคน หวั่นใจ เธอส่งมือให้ลูก หนุ่มน้อยค่อยๆ ล้างมือให้แม่ แล้วน้ำตาไหลก็ออกมา

           เขาเพิ่งรู้สึกว่ามือของแม่นั้นช่างเหี่ยวย่นและ เต็มไปด้วยริ้วรอยขูดข่วน  ซึ่งบางแผลพอโดนล้างน้ำก็ทำให้แม่เจ็บจนตัวสั่นระริก

           นี่เป็นครั้งแรกที่เด็กหนุ่มตระหนักรู้ว่า มือคู่นี้เองที่ซักผ้าทุกวัน เพื่อหารายได้มาส่งเีสียให้เขาได้เล่าเรียน รอยแผลเหล่านี้คือ ราคาทีแม่ต้องจ่ายไปเพื่อความสำเร็จในการศึกษาของเขา เพื่อผลการเรียนที่ ยอดเยี่ยมของเขาและอาจจะเพื่ออนาคตของเขาด้วย



           คืนนั้นสองแม่ลูกได้คุยกัน อยู่นาน

           เช้าวันต่อมา เด็กหนุ่มก็เดินทางไปที่ออฟฟิศของผู้อำนวยการ  ผู้อำนวยการสังเกตเห็นน้ำตาในดวงตาของเขา จึงพูดขึ้นว่า " ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยว่าเมื่อคืนที่บ้าน เธอทำอะไรบ้าง แล้วได้บทเรียนอะไร ? " เด็กหนุ่มตอบว่า " ผมล้างมือให้แม่ครับ แล้วก็เลยช่วยแม่ซักผ้าที่เหลือจนเสร็จ " ผู้อำนวยการบอกว่า " ช่วยเล่าให้ฉันฟังหน่อยว่า เธอรู้สึกยังไง "

          เด็กหนุ่มตอบ 
         
          ข้อที่หนึ่ง ผมได้รู้ซึ้งถึงคำว่า สำนึกในบุญคุณ ถ้าไม่มีแม่ก็คงไม่มีความสำเร็จของผมด้วย
          ข้อที่สอง จากการช่วยแม่ทำงาน ผมได้รู้ว่ามันลำบากยากเย็นยังไงกว่าจะทำอะไรออกมาสักอย่างหนึ่ง
          ข้อที่สาม ผมได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของความรักและความผูกพันในครอบครัว "

          ผู้อำนวยการจึงบอกว่า " นี่คือสิ่งที่ฉันต้องการ  ฉันอยากได้ คนที่รู้ค่าของการได้รับความช่วยเหลือ อยากได้คนที่เข้าใจถึงความลำบาก ของใครสักคนในการจะทำอะไรได้มาสักอย่าง และอยากได้คนที่ไม่ได้ตั้งเงิน เป็นเป้าหมายในชีวิตแต่เพียงอย่างเดียว มาเป็นผู้จัดการให้ฉัน  เป็นอันตกลงว่าฉันรับเธอไว้ทำงาน "

         ในเวลาต่อมา เด็กหนุ่มคนนี้ก็ได้ทำงานอย่างหนักและได้รับความนับถือจากผู้ใต้บังคับบัญชา  ลูกจ้าง ทุกคนทำงานเป็นทีมอย่างขยันขันแข็ง  กิจการของบริษัทก็เจริญก้าวหน้าเป็นอย่างดี

         เด็กที่ถูกตามใจจนเป็นนิสัยได้รับทุกอย่างที่ต้องการ  จะสร้างนิสัยเอาแต่ใจตัวเองและเห็นแก่ตัวเองเป็นอันดับแรก
เขาจะไม่สนใจ ความเหนื่อยยากของพ่อแม่  เมื่อถึงวัยทำงานเขาก็จะคาดหวังว่า ใคร ๆ จะต้องเชื่อฟังเขา  เมื่อเขาเป็นผู้จัดการ เขาจึงไม่มีวันรู้ว่าบรรดาลูกจ้างนั้นลำบากอย่างไร และมักจะโทษคนอื่น

         คน ลักษณะนี้อาจจะทำงานได้ อาจจะประสบความสำเร็จช่วงหนึ่ง แต่ในที่สุด แล้ว เขาจะไม่สำเหนียกคุณค่าของความสำเร็จ หากยังคงคร่ำครวญ เคียดขึ้ง และไม่มีวันรู้สึกเพียงพอ

         ถ้าเรา เป็นพ่อแม่ประเภทที่ปกป้องลูกแบบนี้  จงถามตัวเราว่า  เรากำลังให้ความรัก กับลูกหรือ กำลังทำลายเขากันแน่ ?
เราให้ลูก ๆ มีบ้านใหญ่ ๆ อยู่ กินอาหารดี ๆ  เรียนเปียโน ดูทีวีจอใหญ่  แต่เวลาที่เราตัดหญ้า ลองให้ลูกได้ทำด้วย หลังอาหาร ให้เขาล้างถ้วยชามของตัวเองพร้อม ๆ กับพี่ ๆ น้อง ๆ ไม่ใช่ว่าเราไม่มีปัญญาจ้างคนรับใช้ แต่เพราะเราอยากจะให้ความรักกับพวกเขาอย่างถูกวิธี เราอยากให้เขาเข้าใจว่า ไม่ว่าพ่อแม่จะจนหรือจะรวย วันหนึ่งก็จะต้องผมขาว แก่เฒ่าลงไป เหมือนกับแม่ของเด็กหนุ่มคนนี้
 
         สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ลูกของเราจะได้เรียนรู้ คือ รู้คุณค่าของความพยายาม ได้รู้จักว่า ความยากลำบากมันเป็นยังไง และได้เรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกับผู้อื่นให้เป็น


ขอขอบคุณ คุณ Laydy007 http://mblog.manager.co.th/lady007/th-107626/ 

หมายเหตุ...เป็นเพียงภาพประกอบ มิใช่บุคคลที่กล่าวถึง


     


บันทึกการเข้า
คะแนนน้ำใจ 1103
เหรียญรางวัล:
ครูกลอน
กระทู้: 113
ออฟไลน์ ออฟไลน์
ข้าพเจ้าเพียงผู้ใช้กวี เพื่อหย่อนฤดี...
   
« ตอบ #1 เมื่อ: 10 เมษายน 2556, 01:25:53 PM »

Permalink: Re: คุณค่าแห่งการรู้ คุณค่า
ซึ้ง....
บันทึกการเข้า
คะแนนน้ำใจ 1135
เหรียญรางวัล:
ผู้ดูแลบอร์ดนักโพสดีเด่น
กระทู้: 194
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« ตอบ #2 เมื่อ: 10 เมษายน 2556, 04:45:44 PM »

Permalink: Re: คุณค่าแห่งการรู้ คุณค่า
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: