You are here: Khonphutorn.com - แหล่งข้อมูลของคนไทยกระทู้เมื่อเร็วๆ นี้
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 10
 41 
 เมื่อ: 26 ตุลาคม 2567, 04:18:17 PM 
เริ่มโดย สิมิลัน - กระทู้ล่าสุด โดย สิมิลัน


.   ♡ทิ้งฉันไว้ตรงนี้..เถอะนะ♡

♡เมื่อสิ้นยางกลางยอดถอดใยเยื่อ
ยากหลงเหลือหลบหลีกกระผีกหล่น
กิ่งที่ปอกดอกปักไร้หลักปน
ไร้ยินยลเย้ยยั่วทุกชั่วยาม

♡ลมโชยผิวปลิวผ่านรุกรานแผ่
เพ็ญดวงแขพลอยขุ่นอรุณข้าม
ทั่วโค้งคุ้งปรุงเคี่ยวเปลี่ยวคุกคาม
สิ่งสวยงามพึงงดหมดงมงาย

♡เพียงเถ้าฟ้าคราฟื้นคืนจันทร์ฟ่อง
ตรงกลางห้องหทัยหาลับลาหาย
ทิ้งรูปลักษณ์ผลักเลือนบิดเบือนลาย
จิตวุ่นวายหลุดวับกับวันวาน

♡ชื่นเคยเรียงเคียงร่างรอสางรุ่ง
ยังหมายมุ่งเพ่งมองตรองฝ่าม่าน
หมื่นฟ้าทอก่อท้นเกินทนทาน
จึ่งลนลานเรื่องเล่าเศร้าประโลม

♡ต่อจากนี้มีแน่เหลือแค่นั้น
เวลาสั้นแสงสุดหยุดดวงโสม
แม้บีบคั้นหมั่นค้นล้นพวงโคม
กาบโพยมหรี่พยับดับพยนต์

♡ถึงคราแล้วแววเลี่ยงเพียงลาล่วง
สลายบ่วงเอ่ยบอกใช่หลอกบ่น
เคยมากมายหมายมั่นพลันมืดมน
เจ็บเสียจนยามจากไม่อยากเจอ.

                 สิมิลัน

 42 
 เมื่อ: 26 ตุลาคม 2567, 04:14:08 PM 
เริ่มโดย เริงอักษร - กระทู้ล่าสุด โดย เริงอักษร




☆นิทานเรื่อง แก้วสารพัดนึก๑๑☆
.      (รามสูรขว้างขวาน๒)

☆แค้นตัวเอกเมขลาเป็นบ้าคลั่ง
ราหูนั่งโกรธากล้าไฉน
ลักลูกแก้วแพรวพรั่งดั่งดวงใจ
ช่างกระไรจริงแท้แม่ตัวดี

☆จะออกตามยามนี้ที่คิดหนัก
กระอึกอักคำนวณป่วนวิถี
แอบไปแฝงแห่งใดในธานี
จรลีหลบซ่อนช่างร้อนทรวง

☆กายเราหนอก็แย่มีแค่ครึ่ง
เพราะครั้งหนึ่งเกี่ยวข้องของที่หวง
ไปดื่มน้ำอำมฤตคิดตักตวง
เทวาท้วงขึ้งโกรธทวงโทษเอา

☆หวังก้าวล้ำอมตะไม่ละร่าง
กลับฝันค้างโดนจักรพักตร์อับเฉา
นารายณ์สร้างขว้างมาเพื่อฆ่าเรา
บั่นดั่งเสาสองท่อนเมื่อตอนนั้น

☆แต่ฤทธิ์ล้ำน้ำทิพย์ที่จิบชื่น
ชีพยังฝืนอยู่ได้ไม่อาสัญ
ขาดครึ่งท่อนผ่อนยั้งยังชีวัน
โดนภาคทัณฑ์เอาไว้ให้ทำงาน

☆คอยเฝ้ามองส่องไซร้ใจมนุษย์
โผล่เงาผุดครอบงำนำสังขาร
บอกเรื่องกรรมทำต่อที่ก่อการ
อย่ารอนานจะแย่จงแก้บน

☆ต้องติดเบรคเมขลาน่าตามนัก
แต่ตระหนักตัวดีมีเหตุผล
เชื่องช้าชืดอืดอาดอนาถปน
เพราะมีตนแค่ครึ่งจึงไม่ควร

☆คว้าไอโฟนโดนใจให้เท่ห์นัก
นิ้วยึกยักส่งไลน์ใช้คลื่นสวน
รามสูรกูลเกื้อเพื่อชักชวน
รีบมาด่วนโปรดช่วยเพราะป่วยใจ

☆รามสูรหนุ่มเน้นเป็นขุนขวาน
เพชรตระการทั่วด้ามงามสุกใส
ทุกคราวง้างขว้างขวานสะท้านไป
สะเทือนในโลกหล้าฟ้าโครมครืน

☆ตกตรงไหนไศลขาดพินาศโข
สันตะโรเรื่อยไปไม่อาจฝืน
พังทะลายหายวับมิกลับคืน
ทั่วทั้งพื้นโลกาพามืดมัว

☆รับเสียงฝากจากมิตรรีบคิดแก้
เหน็บรักแร้ด้วยขวานพาลปวดหัว
ส่งไลน์บ่อยร้อยครั้งช่างน่ากลัว
รีบผันตัวเหาะลัดสะบัดกาย

☆ขี่ไก่ฟ้าคว้าเหินเดินอากาศ
เหล้ารสฝาดคอนยัคมิมักง่าย
ของฝากเยือนเพื่อนซี้ที่ฟูมฟาย
หวังละลายความเศร้าที่เล่ามา

☆ข้ามละเมาะเลาะเทียมเหลี่ยมไศล
พนาไพรคาบสมุทรสุดแหล่งหล้า
เรื่องสะดุดหยุดลงตรงไคลคลา
ไว้ตอนหน้าอ่านดูจะรู้ความ.

           เริงอักษร


 43 
 เมื่อ: 26 ตุลาคม 2567, 04:10:10 PM 
เริ่มโดย เริงอักษร - กระทู้ล่าสุด โดย เริงอักษร



☆นิทานเรื่อง แก้วสารพัดนึก๑๐☆
 .    (รามสูรขว้างขวาน๑)

☆เริ่มกล่าวต้อนย้อนรอยถอยตัวเรื่อง
ราหูเคืองขุ่นช้ำน้ำลายสอ
เมขลากล้ากบฏใจคดงอ
มาพูดจ้อสำเนียงข้างเตียงนอน

☆รอจนหลับพับฐานสำราญชื่น
ตลอดคืนฝันหวานบานสลอน
ถอดดวงจิตปลิดไปเพราะได้พร
ลูกแก้วซ่อนซุกหมอนที่นอนตน

☆ข้ามฟ้าล่วงห้วงหาวเห็นดาวเกลื่อน
ได้มาเยือนดาราเวหาหน
แสนดื่มด่ำฉ่ำไซร้ในกมล
มิยินยลอื่นใดยามใกล้นาง

☆เคียงพนอล้อรักบนตักนุ่ม
ราหูหนุ่มหยอกเย้าแม่ดาวหาง
จุมพิตเจือเนื้อหนั่นสรรพางค์
แล้วทิ้งคางแนบอกมิยกคืน

☆กลิ้งกายเกลือกเลือกกอดเจ้ายอดรัก
สุดจะหักห้ามจิตไม่คิดฝืน
ดาราเครือเหลือข่มล้มทั้งยืน
มิอาจขืนเสน่หาจากราหู

☆จึงยินยอมพร้อมใจยากไสผลัก
แทบสำลักถั่งท้นรักล้นอยู่
ช่างซนซ้อนซ่อนซุกทุกอณู
คงไม่รู้สินะจะขาดใจ

☆ทั้งคืนค้นวนเวียนเปลี่ยนสวรรค์
สักกี่ชั้นเกินจับนับครั้งไหว
โปรดเถิดหนาอย่าหนีแอบมีใคร
น้องมอบให้พี่หมดจงจดจำ

☆กลเม็ดเสร็จสมอารมณ์หมาย
จึงทอดกายเคียงชมข้างคมขำ
ส่งเสียงหวานผ่านล้วนถ้วนถ้อยคำ
อิ่มเลิศล้ำเอมรสจรดทรวง

☆อยากแนบข้างกลางแสงมิแหนงหน่าย
ดารารายดวงนี้ที่แหนหวง
โอ้ยอดรักปักหทัยใช่หลอกลวง
หญิงทั้งปวงพ่ายแพ้ต่อแม่นาง

☆ทะลุล่วงห้วงหามาจนเช้า
ต้องลาเจ้านงพงาครารุ่งสาง
พรุ่งนี้โซร้ไออุ่นหากกรุ่นจาง
จะมาค้างเคียงใหม่ใส่อุ่นครอง

☆พี่ลาแล้วแก้วตาดาราฉาย
อย่ายอมชายไหนอื่นยืนเป็นสอง
ถึงเวลาฟ้าเสกเมฆเรืองรอง
ขอจับจองน้องนางมิห่างเชียว

☆สลายองค์ลงเล็กเป็นเหล็กผง
ปลิวร่างปลงกลับคืนฝืนแค่เสียว
มิติเปิดเลิศหรูประตูเกลียว
หมุนลดเลี้ยวแสงวับจับในตา

☆โผล่จิตพรวดจรวดสาดมิอาจสู้
เป็นลมลู่ดั่งกรดหมดปัญหา
กลับสู่ร่างสร่างสนิทจากนิทรา
ปากยังอ้าย้วยห้อยย้อยน้ำลาย

☆ตกใจตื่นคืนตนตอนพ้นสาง
กลับหม่นหมางใจแสบแทบสลาย
เมขลากล้าโขมยโดยไม่อาย
ลูกแก้วหายไปด้วยซวยเหลือดี

☆อุเหม่..เล่ห์เก๋แท้แย่จริงโหวย
เจ้าหลบโกยกายจากพรากแก้วหนี
จะแก้ต่างอย่างไรใครบอกที
ตอนหน้านี้คงรู้ดูกันไป.

                  เริงอักษร

 44 
 เมื่อ: 26 ตุลาคม 2567, 04:05:17 PM 
เริ่มโดย เริงอักษร - กระทู้ล่าสุด โดย เริงอักษร



☆นิทานเรื่อง แก้วสารพัดนึก๙☆
.   (จบตอน อภินิหารลูกแก้ว)

☆เมื่อสุดแค้นแสนรักเกินหักได้
แม่ทรามวัยเมฆขลาคราพลุ่งพล่าน
สาปสรรค์ว่ามานพแคล้วพบพาน
ตราบชั่วกาลกัปกัลป์วันเวลา

☆ยามฝนหลั่งครั้งใดจะใช้แก้ว
ส่องวาวแวววิบวับจับโลกหล้า
ตะโกนวุ่นขุ่นแคันแน่นอุรา
พสุธาจ่งรู้ดูชายเลว

☆เป็นชายไซร้ไร้คิดจิตลามก
ใจมุ่นหมกกามาพาตกเหว
ราคะซ่อนร้อนรุ่มสุมเพลิงเปลว
ทิ้งรักเหลวแหลกยับสับปรับจริง

☆กลิ้งกลับกลอกบอกกลั้วคอยยั่วย้ำ
สร้างรอยช้ำปลิ้นปลอกนอกใจหญิง
ช่างกะล่อนหลอนหลอกเป็นวอกลิง
มิเคยนิ่งสักทีหากมีทาง

☆ลูกเขาเสียเมียใครก็ไม่สน
แอบแวะวนวกเวืยนเปลี่ยนเป็นหาง
เหลิงอารมณ์สมสู่ไม่รู้วาง
แล้วเหินห่างทิ้งไกลไร้อาวรณ์

☆สาวนับร้อยน้อยใหญ่ในโลกนี้
ฟังวาทีเถิดหนาอุทาหรณ์
ผู้ชายใจไม้เลื้อยเหนื่อยอุทร
แตกหน่อหงอนสอนช้ำอยู่ร่ำไป

☆อยากเข่นคั่วชั่วชายทั้งหลายนั่น
สร้างสัมพันธ์สูงส่งจนหลงไหล
มิเคยรักหนักจริงทิ้งเรื่อยไป
หรืออย่างไรกันหนอขอถามที

☆ตั้งแต่นั้นวันไหนในสายฝน
ที่หลั่งท้นเชิงเฉกด้วยเมฆสี
ก้อนดำคล้ำฉ่ำชื้นกลืนธานี
เมขลาจรลีทุกที่ไป

☆ยื่นแก้วซัดกวัดกวาดวาดเป็นแสง
สว่างแรงแค้นคั่งสุดหลั่งไหล
กะพริบพร่างกลางฟ้าสุราลัย
ประกาศไกลลั่นเสียงเพี้ยงคำราม

☆เป็นลมพิษฤทธิ์เดชเพชรหึง
พัดตังตึงครึกโครมโหมตัวหาม
บอกความนัยให้รู้อยู่ทุกยาม
จากคนงามเมขลาว่าเสียใจ

☆จึงขอจบครบถ้อยมิน้อยมาก
ความแค้นจากเมขลาน่าหวั่นไหว
เพราะรักจริงสิ่งแค้นแน่นหทัย
ที่ทำไปด้วยโกรธอย่าโทษเลย

☆เรื่องเริ่มลามตามตอนด้วยกลอนต่อ
อย่างไรหนอพากเพียรเขียนเฉลย
"รามสูรขว้างขวาน"อ่านเสบย
เรื่องที่เผยสนุกแน่เพียงแค่รอ.

                     เริงอักษร

 45 
 เมื่อ: 26 ตุลาคม 2567, 03:59:43 PM 
เริ่มโดย เริงอักษร - กระทู้ล่าสุด โดย เริงอักษร


☆นิทานเรื่อง แก้วสารพัดนึก๘☆
.       (อภินิหารลูกแก้ว๔)

☆เจ็บแสบเสียวแปลบอก
สั่นงันงกเกินถกถอน
มานพจบร้างจร
ไปแอบรื่นดรุณี

☆ทรวดทรงอนงค์นั้น
วิลาวัณย์บรรเจิดศรี
หน้าสวยช่วยดูดี
เห็นแล้วช้ำฤทัยครวญ

☆เมฆเอยเมขลา
เจ็บนักหนาพากำสรวล
ใจชายร้ายเรรวน
ดั่งมดชินชอบกลิ่นคาว

☆โธ่..ไฉนไยพี่เจ้า
ไปคลึงเคล้ากระเซ้าสาว
ทิ้งน้องร้องไห้พราว
ลืมรักแล้วหรืออย่างไร

☆น้องนี้มอบพี่หมด
มิเก็บทดเกินอดไหว
สุดห้วงของดวงใจ
มอบเกินล้นเพียงคนเดียว

☆ยิ่งคิดจิตยิ่งโกรธ
ร้อนพิโรธโกรธขุ่นเขียว
เกลียดนักรักเปลี่ยนเกลียว
ต่อแต่นี้มิมีใคร

☆ตั้งจิตอธิษฐาน
ขอบนบานผ่านแก้วใส
พรสาปอาบด้วยไฟ
อาละวาดทุกชาติวัน

☆สาปส่งลงคำสวด
ให้เร็วรวดเร่งกวดขัน
นรกจงมาลงทัณฑ์
ตามคำสาปตราบฤดี

☆สาปส่งตรงหญิงนั้น
ตกโลกันตร์หลั่นวิถี
ปืนงิ้วอเวจี
ทุกวันคืนหมื่นกัปกัลป์

☆เป็นเปรตเทวษไห้
ทุกวันไซร้ใจโศกศัลย์
คับแค้นแสนจาบัลย์
อย่าได้พบจบสุขเลย

☆ขอพรวอนลูกแก้ว
หากยินแล้วแววเฉลย
เมขลาบ้าเหลือเอ่ย
มิอาจรอขออย่านาน

☆มานพในภพนี้
ปากนั้นดีที่ขับขาน
หลอกหลงซึ่งนงคราญ
เสียหมดสิ้นทั้งอินทรีย์

☆สร้างฝ้าราคีคาว
ทำให้สาวร้าวราศี
รักหนึ่งที่พึงมี
ก็แตกยับกับลมลวง

☆แก้วโกฐิโปรดลูกด้วย
แทบมอดม้วยป่วยหึงหวง
สาปสั่งชายทั้งปวง
ที่สร้างพิษนิจนิรันดร์

☆ขอพรย้อนข้อหนึ่ง
ให้ชายซึ่งซึ้งสุขสันต์
รื่นเรียงเคียงร่างกัน
มานพนั้นพลันรับไป

☆เกิดเป็นเช่นควายโง่
มิพุทโธโอ้วันไหน
ย่ำนาคาแอกไกว
สักหมื่นชาติพลาดรักลง

☆มีลิ้นกินแค่หญ้า
เป็นใบ้บ้าอ้าปากหลง
ค่ำเช้าเฝ้าไถพง
โดนหวดแซ่แก่คาคาน

☆ข้าวปลูกถูกคนกิน
ยากยลยินถิ่นอาหาร
เคี้ยวเอื้องเยื้องคางยาน
อย่าพบหาหญ้าอ่อนเลย

☆เท่านั้นมันไม่พอ
ขอสาปต่อพ่อหนุ่มเอ๋ย
รักรื่นชื่นชวนเชย
ยิ่งเกลียดถี่ทวีคูณ

☆สาปเป็นเช่นไรนั้น
หรือจะบั่นหั่นเหลือศูนย์
ปล่อยทิ้งสิ่งเกื้อกูล
โทษหลอกหญิงทิ้งช้ำใจ

☆ตอนหน้าต้องบ้าแน่
หมดทางแก้แลไฉน
เรื่องร้อนตอนต่อไป
จะมาเล่าเม้าท์นิทาน.

                 เริงอักษร

 46 
 เมื่อ: 26 ตุลาคม 2567, 03:49:25 PM 
เริ่มโดย เริงอักษร - กระทู้ล่าสุด โดย เริงอักษร





☆นิทานเรื่อง แก้วสารพัดนึก๗☆
.      (อภินิหารลูกแก้ว๓)
☆เมขลาล้าเปลี่ยวเสียวดวงจิต
ทั้งชีวิตหงอยเหงาเศร้าหวั่นไหว
ชายเคยรักหักห่างร้างเลือนไป
ทิ้งทรามวัยหนีกลบลบลืมกัน

☆ทำหน้าที่สี่ฟ้ามหาสมุทร
นางเป็นบุตรนฤบาลธารสวรรค์
คอยยุดเรือเผื่อล่มไม่จมพลัน
คนโจษจันฤทธาพาบรรเทา

☆ใครมีบุญอุ่นใจคราได้พบ
พานประสบเรือล่มจมอับเฉา
นางรีบรุดฉุดชักหนักเป็นเบา
นำพาเข้าหาฝั่งยังแผ่นดิน

☆ค่ำคืนหนึ่งซึ้งใจไม่รู้จบ
หนุ่มมานพแห่งเมืองเขื่องเสาหิน
รูปร่างงามตามคิดจิตยุพิน
มอบรักสิ้นสุดสายกายเปรอปรน

☆คราที่พลั้งครั้งนั้นสวรรค์พร่าง
เขาพานางล่องเรือเพื่อฝ่าฝน
ลุยยอดคลื่นชื่นคล้องกันสองคน
ล่องไปจนสุดฟ้านภาลัย

☆คลื่นลูกล้ำซ้ำเล่าเข้าถาโถม
เรือเอียงโครมคลั่งครื้นลื่นไถล
หลุดพิกัดลัดทางห่างออกไป
พาหัวใจหวาดหวั่นตะครั่นตัว

☆นางสำลักชักดิ้นเหมือนสิ้นท่า
เงยปากอ้าร้องลั่นพร้อมสั่นหัว
พายุคึกลึกล้ำทำให้กลัว
กายระรัวรีบกอดยอดชีวา

☆บอกพี่ค่ะพี่ขาอย่าใจร้อน
หันหัวก่อนเรือพ้นชนหินผา
น้องนั้นอาจขาดใจในคงคา
หยาดน้ำตาคลอปริ่มริมแก้มนาง

☆ช่วยจับกางหางเสือดันเรือส่ง
มิให้หลงทางค้นจนรุ่งสาง
มุ่งแสงเหลืองเรืองอุ่นกรุ่นสีจาง
ฟ้ากระจ่างถึงฝั่งได้ดั่งใจ

☆พ่อยอดชายหายหน้าลับลาจาก
รักที่ฝากกลางจิตคิดบ้างไหม
น้องว้าวุ่นขุ่นข้องหมองหทัย
อยู่ที่ไหนกันเล่าเฝ้ารอเธอ

☆คราหนึ่งเคยเผยคำนำข่าวสาร
ถึงชายชาญราหูคู่เสนอ
จากน้องดาวสาวน้อยคอยพบเจอ
สาส์นล้นเอ่อความรักหนักรำพัน

☆ราหูนำคำร้องฟ้องอิศวร
พบเรื่องล้วนน่าฟังดังกับฝัน
ลูกแก้วเปรื่องเรืองฤทธิ์อิทธิพลัน
พาใจนั้นหวังโลภละโมบมอง

☆รอจังหวะจะโคนก่อนโยนพิษ
หวังมีสิทธิ์แอบเร้นเป็นเจ้าของ
โขมยแก้วแพรวฟ้าเอามาครอง
เข้าจับจองดังจิตยอมผิดทาง

☆ขอดูส่องช่องสานผ่านมิติ
อุตริจริงหนอก่อรอยด่าง
เห็นทุกสิ่งจริงแล้วตามแก้ววาง
มานพค้างเคียงสาวพราววิไล

☆นอนร่างกกหมกกอดพรอดหญิงอื่น
หน้าระรื่นยิ้มแย้มช่างแจ่มใส
บอกว่ารักภักดีแล้วมีใคร
แค้นทรวงในเหลือดีที่เขาทำ

☆รุนแรงแน่แค่ไหนในน้ำโห
แม่จิ๊กโก๋เมฆขลาครากระหน่ำ
จะสับย่อยซอยโยกหรือโขลกตำ
ขอน้อมนำเสนอต่อรออีกตอน.

           เริงอักษร

 47 
 เมื่อ: 26 ตุลาคม 2567, 03:42:51 PM 
เริ่มโดย เริงอักษร - กระทู้ล่าสุด โดย เริงอักษร



 .
     
     อภินิหารลูกแก้ว๒

☆ราหูยินสิ้นคำนำมาบอก
เหมือนหมุดตอกจมมิดพิษที่ฝัง
มึนในหัวตัวสั่นหวั่นรักพัง
แม่ร้อยชั่งส่งสาส์นผ่านความมา

☆โอ้หนอ...ฤทธิ์คิดถึงซึ่งดาวน้อง
เสียงมันก้องภายในไม่หรรษา
ทำอย่างไรได้พบสบนัยตา
มองไขว่คว้าผ่านแนวลูกแก้วนั้น

☆ชักชวนพูดทูตเอกเมขลา
จูงมือพาเหาะลู่สู่สวรรค์
ไปเฝ้าทรงองค์อิศวรครวญรำพัน
ช้ำจาบัลย์เหลืออดรันทดใจ

☆เห็นเพียงหน้าพาหม่นเพราะจนจิต
อยากแนบชิดเคียงข้างอย่างฝันใฝ่
ด้วยว่าห่างทางเอื้อมเหลื่อมภพไกล
ทูลกราบไปโปรดด้วยช่วยอีกที

☆พระอิศวรทวนฟังยังคำกล่าว
ถึงเรื่องราวทุกข์ใจไม่สุขี
เมขลาราหูพรูวจี
เอ่ยวลีจาบัลย์พลันกราบทูล

☆จึงเอ่ยชี้นี่แน่ะจะแก้ให้
รู้หรือไม่ลูกแก้วแพรวแสงสูรย์
ขอพรเถิดเกิดผลจนเกื้อกูล
สิ้นอาดูรสุขแน่แค่กล่าวคำ

☆อิทธิฤทธิ์พิศดารให้ผ่านได้
ประตูไซร้เปิดอ้าพาถลำ
ลัดนภาฟ้ามัวสลัวดำ
หนทางนำพบดาวก้าวข้ามไป

☆ลอดหักเหเวลากล้าเสนอ
"Back To The  Future"เธอเห็นไหม
เป็นบทกาพย์ภาพยนต์ที่คนไทย
จำกันได้หลายภาคมิยากเลย

☆ปลื้มทรวงในได้ท่านะราหู
พอรับรู้ความนัยไม่นิ่งเฉย
รีบทูลลาฟ้าฝั่งหวังชื่นเชย
เพียงแค่เอ่ยขอพรหมดร้อนรน

☆ตั้งแต่นั้นวันคืนอีกหมื่นโกฏิ
มิเคยโทษจันทร์เอ๋ยเลยสักหน
ถึงแสงลบกลบดาวพราวสกล
ก็ไม่สนหรอกหนอขอพรเอา

☆ทุกเวลาคว้าสุขไร้ทุกข์โศก
พาให้โลกสดใสไม่หงอยเหงา
ต่างหน้ารื่นชื่นบานผ่านร่มเงา
หมดความเศร้าซึมท้อทรมาน

☆เรื่องมาเกิดเปิดช่องต้องแก้ไข
เจ้าทรามวัยเมฆขลาช่างกล้าหาญ
ลักแก้วฟ้าราหูผู้สำราญ
อธิษฐานเพื่อตนผ่านมนตรา

☆โลภอยากได้ใจด่วนล้วนไม่คิด
จึงทำผิดอุกอาจปรารถนา
ติดตามก่อนตอนใหม่ในลีลา
เมขลาเกิดดลด้วยกลใด

         เริงอักษร
.
.


 48 
 เมื่อ: 22 ตุลาคม 2567, 05:16:05 AM 
เริ่มโดย เริงอักษร - กระทู้ล่าสุด โดย เริงอักษร



   ☆นิทานเรื่อง แก้วสารพัดนึก๖☆
 .       (อภินิหารลูกแก้ว ๑)

☆ราหูยินสิ้นคำนำมาบอก
เหมือนหมุดตอกจมมิดพิษที่ฝัง
มึนในหัวตัวสั่นหวั่นรักพัง
แม่ร้อยชั่งส่งสาส์นผ่านความมา

☆โอ้หนอ...ฤทธิ์คิดถึงซึ่งดาวน้อง
เสียงมันก้องภายในไม่หรรษา
ทำอย่างไรได้พบสบนัยตา
มองไขว่คว้าผ่านแนวลูกแก้วนั้น

☆ชักชวนพูดทูตเอกเมขลา
จูงมือพาเหาะลู่สู่สวรรค์
ไปเฝ้าทรงองค์อิศวรครวญรำพัน
ช้ำจาบัลย์เหลืออดรันทดใจ

☆เห็นเพียงหน้าพาหม่นเพราะจนจิต
อยากแนบชิดเคียงข้างอย่างฝันใฝ่
ด้วยว่าห่างทางเอื้อมเหลื่อมภพไกล
ทูลกราบไปโปรดด้วยช่วยอีกที

☆พระอิศวรทวนฟังยังคำกล่าว
ถึงเรื่องราวทุกข์ใจไม่สุขี
เมขลาราหูพรูวจี
เอ่ยวลีจาบัลย์พลันกราบทูล

☆จึงเอ่ยชี้นี่แน่ะจะแก้ให้
รู้หรือไม่ลูกแก้วแพรวแสงสูรย์
ขอพรเถิดเกิดผลจนเกื้อกูล
สิ้นอาดูรสุขแน่แค่กล่าวคำ

☆อิทธิฤทธิ์พิศดารให้ผ่านได้
ประตูไซร้เปิดอ้าพาถลำ
ลัดนภาฟ้ามัวสลัวดำ
หนทางนำพบดาวก้าวข้ามไป

☆ลอดหักเหเวลากล้าเสนอ
"Back To The  Future"เธอเห็นไหม
เป็นบทกาพย์ภาพยนต์ที่คนไทย
จำกันได้หลายภาคมิยากเลย

☆ปลื้มทรวงในได้ท่านะราหู
พอรับรู้ความนัยไม่นิ่งเฉย
รีบทูลลาฟ้าฝั่งหวังชื่นเชย
เพียงแค่เอ่ยขอพรหมดร้อนรน

☆ตั้งแต่นั้นวันคืนอีกหมื่นโกฏิ
มิเคยโทษจันทร์เอ๋ยเลยสักหน
ถึงแสงลบกลบดาวพราวสกล
ก็ไม่สนหรอกหนอขอพรเอา

☆ทุกเวลาคว้าสุขไร้ทุกข์โศก
พาให้โลกสดใสไม่หงอยเหงา
ต่างหน้ารื่นชื่นบานผ่านร่มเงา
หมดความเศร้าซึมท้อทรมาน

☆เรื่องมาเกิดเปิดช่องต้องแก้ไข
เจ้าทรามวัยเมฆขลาช่างกล้าหาญ
ลักแก้วฟ้าราหูผู้สำราญ
อธิษฐานเพื่อตนผ่านมนตรา

☆โลภอยากได้ใจด่วนล้วนไม่คิด
จึงทำผิดอุกอาจปรารถนา
ติดตามก่อนตอนใหม่ในลีลา
เมขลาเกิดดลด้วยกลใด.

         เริงอักษร


 49 
 เมื่อ: 20 ตุลาคม 2567, 12:07:40 PM 
เริ่มโดย สิมิลัน - กระทู้ล่าสุด โดย สิมิลัน


      

        ♡คือเธอ♡

♡เธออยู่ไกลแสนไกลเกินไขว่คว้า
ดั่งจันทราอาบอิ่มที่พริ้มแสง
ใต้ฟากฟ้าเด่นฟ้าเจิดจ้าแรง
พร่างพราวแฝงเมฆายามมาเยือน

♡เธอสวยพริ้งเพริศพริ้งดูยิ่งแจ่ม
เอิบแอร่มนวลนิ่มยั่วยิ้มเหมือน
สุขสกาวเหนือสกาวกว่าดาวเดือน
คอยย้ำเตือนจิตปลุกอยู่ทุกวัน

♡เธออ่อนช้อยแช่มช้อยใช่น้อยนิด
เทพประดิษฐ์เสกสร้างกระจ่างสรร
ปั้นจากดาวหมื่นดาวที่พราวพรรณ
จากสวรรค์หรือไรเฝ้าไตร่ตรอง

♡เธอวกวนเวียนวนอยู่จนค่ำ
ลอยดวงต่ำสุกใสวิไลส่อง
ให้เราช้ำกว่าช้ำระกำมอง
เกินหมายปองก่ายเกี่ยวแม้เสี้ยวใจ

♡เธอส่งเสียงล้านเสียงเพียงหวานหู
มาก้องกู่ซ้ำซ้อนสะท้อนใส
สลับเรียงร้อยเรียงสำเนียงไกล
พาจิตไหวหวิววาบกำซาบทรวง

♡เธอรักใครชอบใครให้หม่นหมอง
อยากขอจองกลางใจหากไม่หวง
ใช่พูดเล่นเพียงเล่นเช่นลมลวง
มอบทั้งดวงหทัยนี้ไว้ที่เธอ.
.
               สิมิลัน
.
ขอบคุณภาพจากอินเทอร์เน็ต
.

 50 
 เมื่อ: 20 ตุลาคม 2567, 06:04:44 AM 
เริ่มโดย เริงอักษร - กระทู้ล่าสุด โดย เริงอักษร



  ☆นิทานเรื่อง แก้วสารพัดนึก๕☆
 .      (อภินิหารลูกแก้ว๑)

.
☆ลูกแก้วสีที่สร้างกลางสมุทร
ใช้เพื่อหยุดราหูให้รู้ถอน
อมดวงจันทร์มั่นใจไร้แสงจร
ผลสะท้อนถึงโลกโศกซึมเซา

☆ภัยพินาศสาดสู่หมู่มนุษย์
ในที่สุดเข่นฆ่าน่าอับเฉา
แย่งกอบโกยโหยหามาบรรเทา
ความโลภเข้าครอบงำนำชะตา

☆พระอิศวรทวนบทกำหนดสอน
ลูกแก้วซ่อนอิทธิฤทธิ์ผิดฝั่งฝา
พรมากมายหลายสิ่งอิงตำรา
ใครได้มาชื่นชมย่อมสมใจ

☆กำหนดจิตคิดพลางหาทางออก
แค่เพียงบอกราหูผู้อ่อนไหว
พบนางนวลชวนฝันวรรณวิไล
ลูกแก้วไซร้นำสู่ประตูดาว

☆ราหูแค่แลมองไม่ลองขอ
พรสักข้อจึงช้ำระกำหนาว
ดารารายคลายรักหนักเรื่องราว
นอนแหง่วหง่าวยอกย้อนถอนฤดี

☆พระอิศวรครวญคิดพิศวง
บาปกรรมส่งเมฆบังยังวิถี
ไม่บอกค่าราหูให้รู้ที
พรมากมีขอได้ใจต้องการ

☆จะดึงเดือนเคลื่อนดาวสาวมากอด
จะเพ้อพรอดพร่ำรักสลักหวาน
จะเสกสรรพรรณนาพาเบิกบาน
จะเอ่ยขานอย่างไรย่อมได้ชม

☆พระราหูรู้สดับเมื่อรับสาส์น
จากดวงมานฝากมาพาขื่นขม
เมขลามาบอกตอกอารมณ์
ว่าดาวตรมนักหนาราหูเอย

☆มิเห็นหน้ามานานเกินขานไข
ทิ้งกันไปหรือโกรธโปรดเฉลย
ใจช่างดำย้ำเหยียยเงียบจังเลย
ทุกคราเคยลอบหายามราตรี

☆หรือแอบพบคบใครหมดใยเยื่อ
รักแผ่เผื่อหญิงอื่นชื่นแล้วหนี
ถอนใจลดหมดสิ้นคงยินดี
ใจน้องนี้เซซวนจวนวอดวาย

☆ยังจำมั่นวันเก่าเราเคยรัก
ร่วมสลักรอยอุ่นละมุนหมาย
อบอวลรู้อยู่ข้างเคียงร่างกาย
หอมกำจายคละคลุ้งจรุงใจ

☆ค่ำคืนคราฟ้าดำคล้ำด้วยเมฆ
พิรุณเสกฝนฉ่ำทำไฉน
เสียงฟ้าโหมโครมครืนยืนกอดใคร
ลืมหรือไรพี่ยาฝ่าฝนพรำ

☆กระซิบปลอบตอบน้องหยุดร้องไห้
กอดพี่ไว้ดีแน่แม่คมขำ
อย่ากลัวพลุอสุนีที่กระทำ
น้องถลำอ้อมอกหมกกายอิง

☆ใจมันเต้นเร้นลึกเกินนึกคิด
โดนจุมพิตฝังฝากหน้าผากหญิง
สั่นระทวยด้วยรักหวังพักพิง
พี่ช่วงชิงโอบกอดพรอดภิเปรย

☆ฝนกระหน่ำซ้ำถี่กี่ครั้งเล่า
สั่นกระเส่าหนาวซ้อนไอร้อนเผย
สายฟ้าฟาดสาดเปรี้ยงเคียงคู่เชย
น้องมิเคยคลายแขนแม้นขาดใจ

☆ขอตายคาหน้าอกนรกสรร
ยากดึงดันหนีหลบจบตรงไหน
เอนกอดนิ่งอิงแอบแนบหทัย
จวบฝนใสอบอุ่นกรุ่นนภา

☆แล้วไยลืมปลื้มปลงมิสงสาร
น้องซมซานร่วงโรยใจโหยหา
ได้แต่ร้องก้องกู่อยู่ทุกครา
โธ่..พี่ขาราหูรู้เถิดคอย

☆เหตุการณ์นั้นผันผวนป่วนไฉน
ตอนต่อไปราหูผู้เหงาหงอย
ดาราพราวหนาวรักชักตาปรอย
จะทะยอยเล่ารู้สู่กันฟัง.
.
          เริงอักษร
.

หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 10