11
เมื่อ: 11 พฤศจิกายน 2567, 11:14:45 AM
|
เริ่มโดย เริงอักษร - กระทู้ล่าสุด โดย เริงอักษร
|
☆นิทานเรื่อง แก้วสารพัดนึก๓๒☆ . (ตอนอวสาน๒ ระลึกชาติ)
☆มิได้การพาลแท้แย่เหลือที่ อิศวรชี้เหตุขมปมสังหรณ์ เรียกอมาตย์กราดทั่วตัวนคร ประชุมก่อนเกินแก้แพ้เภทภัย
☆สรุปความงามชัดขจัดพิษ บำบัดจิตมนุษย์ช่วยด้วยเงื่อนไข สร้างราคะชนะโหมประโคมใจ แล้วเสริมใส่โลกีย์พอมีทาง
☆อาศัยหนุ่มมุมงามรามสูร เคยเกื้อกูลเมขลามาถากถาง แก้ปัญหาฟ้าใสด้วยใจวาง เป็นผัวนางจงได้ในเร็ววัน
☆จึงเรียกตามรามสูรพิบูลศักดิ์ มาทอถักเปลื้องทุกข์นำสุขสันต์ มอบหน้าที่ดีล้ำทำโดยพลัน ทูตสวรรค์ขวานทองต้องช่วยที
☆รามสูรนั้นรักสลักแพร้ว โอ้น้องแก้วเมขลามารศรี เคยแบ่งภาคฝากใจให้นารี แล้วจากหนีเพราะกรรมชักนำไป
☆เป็นมานพหนุ่มน้อยลอยเรือค้า ร้อยธัญญาพืชพันธุ์อันสดใส ล่องทะเลเร่ขายปลายทางไกล หวังจะได้รุ่งเรืองเฟื่องเงินตรา
☆มีแม่อยู่ดูแลแท้ด้วยรัก เพราะประจักษ์ถึงบุญคุณหนักหนา พ่อมาตายหายลับดับชีวา ขอทดแทนมารดาค่าน้ำนม
☆ครั้งหนึ่งเมื่อเรือแตกตอนแหวกคลื่น กระแทกครืนหินผาพายุถม ว่ายน้ำข้ามสามวันพลันจวนจม ใกล้หมดลมแรงฮึดอึดมานาน
☆เมขลามาช่วยด้วยบุญส่ง ไม่ปลิดปลงชีวิตจิตประสาน เลยร่วมรักถักทอจนช่อบาน แตกตระการแน่นักประจักษ์ใจ
☆ครั้นวันหวนทวนลับกลับคืนถิ่น สัญญาสิ้นทุกอย่างทางสดใส จะประทับรับขวัญมั่นหทัย จำเอาไว้คำนี้ก่อนพี่จร
☆กลับถึงบ้านสราญใจให้แม่กอด วางกายทอดหนุนตักรักมิถอน โอบอิงแอบแนบไว้ในยามนอน ปากออดอ้อนฉอเลาะออเซาะคำ
☆ว่าพบหญิงจริงใจในไม่ช้า ลูกจะพากราบแม่ใช่แค่ขำ สะใภ้แก่นแสนสวยด้วยบุญนำ เฝ้าพูดย้ำจนหลับกับอกนาง
☆เมขลาคราส่องมองผ่านแก้ว พอเห็นแล้วสับสนแสนหม่นหมาง ไม่มองชี้ดีก่อนสังหรณ์พลาง มานพร้างแรมรักหักจิตใจ
☆ไปนอนอิงหญิงอื่นสะอื้นฮั่ก ด้วยความรักมากล้นทนมิไหว จึงสาปส่งลงโทษโกรธฤทัย หลงทำไปเพราะกรรมนำบังตา
☆ช่างไกลลิบสิบชาติพลาดจากรัก เคราะห์ที่หนักจึ่งจางพลางโหยหา เฝ้าพร่ำเพรียกเรียกร่ำช้ำอุรา หวังว่าฟ้าเห็นใจให้สักที
☆ได้ลูกแก้วแพรวสีที่พิเศษ บุญจากเวทย์เสกสรรพลันสุขศรี พระอิศวรชวนใช้ใจยินดี ล่อแสงชี้ส่องทางกลางทะเล
☆เพื่อค้นหามานพอยากพบหน้า เกินแรงล้าเร่งถลันมิหันเห กระพริบแพรวแก้วค้างอย่างทุ่มเท ฝ่าคลื่นเห่ครางครวญป่วนฤดี
☆รามสูรทูลรับกระชับกิจ จะพิชิตใจนางอย่างสุขี ได้หรือเปล่าเข้าท่าพาชมฟรี ในตอนนี้ขอจบหลบไปนอน.
เริงอักษร | . .
|
12
เมื่อ: 11 พฤศจิกายน 2567, 08:25:24 AM
|
เริ่มโดย เริงอักษร - กระทู้ล่าสุด โดย เริงอักษร
|
..กระโดนแดงแฝงดอก..
..กระโดนเดียวดีดดิ้น......ดอกแดง โดดเดี่ยวเกสรแซง..........กิ่งซุ้ม ไหวระบัดแพนแผง.........งอนพร่าง มิต่างตาตอตุ้ม...............ต่อต้นแตกตน.
เริงอักษร |
|
13
เมื่อ: 10 พฤศจิกายน 2567, 05:25:59 AM
|
เริ่มโดย เริงอักษร - กระทู้ล่าสุด โดย เริงอักษร
|
☆นิทานเรื่อง แก้วสารพัดนึก๓๑☆ . (ตอนอวสาน๑ ย้อนเรื่องราว)
☆ขอกล่าวย้อนซ้อนความตามท้องเรื่อง ราหูเคืองดวงจันทร์อันสดใส บังแสงฟ้าดาราพาขุ่นใน ดวงฤทัยหนักหนาช้ำจาบัลย์
☆พระอิศวรชวนแก้ใช้แค่แก้ว ราหูแคล้วหมดทุกข์แสนสุขสันต์ เมขลาลักไปในโทษทัณฑ์ รามสูรบุกบั่นฟันทะยาน
☆เมขลารับกรรมที่ทำไว้ จึงชดใช้ผลนั้นสิ้นวันหวาน อวตารสิบชาติขาดบ่วงมาร ในนิทานแก้ว"สารพัดนึก"
☆เกิดจนจบครบชาติมาตรคืนกลับ ร่างสลับอีกหนวนตรองตรึก จะจบลงตรงไหนใจระทึก กลอนยังคึกมิจางสร่างบทความ
☆เมขลาลาภพลบกรรมหมด สวยใสสดเก๋ไก๋ไร้คำถาม รามสูรลุ่มหลงเจ้านงราม เฝ้าติดตามอี๋อ๋อขอเป็นแฟน
☆ราหูได้ลูกแก้วแววสิ้นทุกข์ ทุกวันขลุกดาราพาสุขแสน เฝ้าดื่มด่ำฉ่ำหลั่งดั่งเมืองแมน อยู่ในแดนฟากฟ้าสุขาวดี
☆เลิกอมจันทร์พลันโลกมิโศกเศร้า ไม่มืดเงาราหูผู้ยักษี แผ่นดินรื่นชื่นชมสมท่าที ถึงตอนนี้ควรครบบรรจบพอ
☆แต่เรื่องถูกผูกพันคันกว่าเก่า เหมือนน้ำเน่าเซ้าซี้นี่แหละหนอ เพราะมาลีมาลัยใจละออ ทั้งสองขอตัดรักหักเจือจาน
☆มาลัยแพร่พระธรรมคำสั่งสอน ให้หายร้อนกิเลศเหตุสังสาร ทิ้งราคะโลกีย์มีมานาน เหล่าชายหวังนิพพานบานตะไท
☆มาขอบวชสวดปริตรงดกิจกาม ฝ่ายหญิงงามบำเพ็ญเห็นสวยใส ทำแต่บุญสุญทานสำราญใจ ยุ่งกันใหญ่งานนี้ที่เกิดการณ์
☆มนุษย์ใกล้สลายพันธุ์หายกันหมด เพราะว่างดเสพย์สมอารมณ์หวาน พระอิศวรป่วนปั่นหวั่นภัยพาล ถอนสะท้านหายใจให้กลุ้มทรวง
☆นอนไม่หลับกลับตัวมัวหมองจิต อุบายคิดผิดทางอย่างใหญ่หลวง เมขลาพาหม่นล้นแดดวง คนทั้งปวงเลิกชมผสมพันธุ์
☆เกิดอะไรใดหนาท้าให้อ่าน อาจชื่นบานร่าเริงเชิงขบขัน หรือซมซานผ่านซึ้งกึ่งความคัน ติดตามกันให้ได้ใกล้จบตอน.
เริงอักษร | . .
|
14
เมื่อ: 10 พฤศจิกายน 2567, 05:19:40 AM
|
เริ่มโดย เริงอักษร - กระทู้ล่าสุด โดย เริงอักษร
|
☆นิทานเรื่อง แก้วสารพัดนึก๓๐☆ . (จบตอน เมขลาอวตาร)
☆แดนบรรเจิดเลิศหรูชมพูทวีป มาลัยรีบสะสางอย่างเร็วจี๋ สืบหาแก้วแววไวไม่ช้าที อยู่ไหนนี่เร่งพินิจทิศทางใด
☆ปีนเขาข้ามสามลูกหวังถูกเผง รำพันเพลงภารตะสีหน้าใส เฮ้..ฮัลเล่วังกาว่ากันไป จัดชุดใหญ่ครึกครื้นหมื่นบรรเลง
☆ถามเหล่าแขกแปลกใจไร้คนรู้ ตะโกนกู่เนิ่นนานพาลหงายเก๋ง ข้ามแม่น้ำลำคลองมองแล้วเซ็ง ก้าวตัวเกร็งจึ๊กจั๊กไม่ยักเจอ
☆ทุลักทุเลเหหันบากบั่นหา หวังให้ฟ้าเป็นใจไม่พลั้งเผลอ ยามค่ำคืนดื่นดึกนึกละเมอ ฝันยังเพ้อถึงแก้วที่แวววาว
☆เช้าวันใหม่ไก่โห่ยังโผเผ ร่ายยี่เกเสียงลากอ้าปากหาว ภารกิจสิทธิ์รักหนักเรื่องราว เร่งสืบสาวตามบทกฎพ่อตา
☆พเนจรร่อนเร่เทหมดเหงื่อ มุ่งหมายเพื่อเจอฝันที่สรรหา อยากเคียงครองน้องพี่ศรีสุดา ใจจึงกล้าดั้นด้นค้นติดตาม
☆เห็นเมฆซ้อนก้อนหนึ่งกึ่งกลางฟ้า ล่องถลาต่ำลงข้างพงหนาม เจ้าลิงจ๋อร้องเจี๊ยกสำเหนียกนาม หลังจากถามรู้ชื่อคือหง๋อคง
☆ป้องปากถามความไปใจนั้นหวัง หง๋อคงพลั้งตอบว่าข้านั้นหลง ดั้นด้นพาพระถังนั่งม้าทรง ไปเชิญองค์คัมภีร์ที่บูชา
☆เป็นพระไตรปิฎกใช้ยกจิตร สอนคนคิดทางธรรมนำหรรษา ช่วยแยกหนีดีชั่วมั่วกายา ปรารถนาเพื่อรับกลับเมืองจีน
☆ดุจดั่งแก้วแววเวทย์วิเศษยิ่ง ยากเสียจริงนิพพานตำนานศีล สมาธิปัญญาพาป่ายปีน เพื่อให้คลีนจากบาปตราบนิรันดร์
☆มาลัยฟังดังคำหากทำได้ เราขอไปด้วยคนพ้นฝั่งฝัน เฝ้าอดทนค้นหามานานวัน ดุจสวรรค์ทรงโปรดลิงโลดใจ
☆จึงเดินร่วมรวมกันช่วยฟันฝ่า ข้ามคงคาไหลรินถิ่นอาศัย องค์สัมมาพระพุทธสุดวิไล ประทับใต้ต้นโพธิ์เป็นโล่ห์เงา
☆ก้มลงกราบทาบพื้นยื่นปุจฉา วิปัสสนาจากท่านพานหายเขลา ยึดถือไว้ไตรสิกขาอย่ามัวเมา ร่างกายเจ้ามินานพาลปลิดปลง
☆รักโลภโมโทสันนั้นกิเลส ล้วนเป็นเหตุทุกข์ล้นจนไหลหลง สำนึกดีมีไว้ใจมั่นคง อย่ามึนงงเสพย์เกินเพลินเก็บตุน
☆ฟังพระธรรมคำสอนแล้วย้อนจิต เรานั้นคิดอยากกันพลันหัวหมุน ศีล..ปัญญาสมาธิสิเจือจุน เอื้อเป็นทุนชีวิตหลอมจิตใจ
☆มาลัยจบพบแล้วแก้ววิเศษ สมดังเจตจำนงค์ปลงจิตได้ อุทิศตนโกนผมห่มผ้าไตร บรรลุไซร้อรหันต์แค่วันเดียว
☆ขอเผยแพร่แผ่ธรรมทำหน้าที่ ตราบชาตินี้ยอมรับไม่กลับเหลียว เป็นบัวบนพ้นน้ำงามจริงเชียว ใบครึ้มเขียวบ่มฟักมรรคนิพพาน
☆เดินกลับคืนผืนถิ่นแผ่นดินเกิด ปลงเสียเถิดมาลีพี่สงสาร โอมอ่านธรรมคำเน้นให้เป็นทาน พลันชื่นบานอิ่มบุญการุณย์นาง
☆ขอ..อโหสิกรรมที่ทำไว้ ทุกอย่างให้ผ่านพ้นลืมหม่นหมาง แก้ววิเศษเม็ดนี้พี่ขอวาง ส่องสว่างใจเจ้าอย่าเศร้าเลย
☆เรื่องก็ครบจบลงตรงมาลี ไม่ยอมมีคู่ขาชื่อว่าเขย ด้วยบรรลุซึ่งกุศลผลก่อเกย เมขลาเจ้าเอยเลยพ้นกรรม
☆ตอนหน้าจึงถึงคราอวสาน จบนิทานก่อนนอนบางท่อนขำ บางท่อนดีมีไว้ให้จดจำ บางท่อนหยาบอย่านำคำใส่ใจ.
เริงอักษร | . .
|
15
เมื่อ: 10 พฤศจิกายน 2567, 05:11:12 AM
|
เริ่มโดย เริงอักษร - กระทู้ล่าสุด โดย เริงอักษร
|
☆นิทานเรื่อง แก้วสารพัดนึก๒๙☆ . (เมขลาอวตาร๑๕) . (มาลีมาลัย๕ ชมพูทวีป)
☆นึกเรื่องราวคราวฝันอันลอยเด่น ตาแก่เป็นผู้รู้เช่นครูสอน เทวะช่วยอวยชัยและให้พร ในยามนอนแน่นักชักมีแรง
☆จึงมุ่งหมายกายสู่ชมพูทวีป อย่างเร่งรีบฤกษ์ดีสุรีย์แสง สว่างฟ้าจ้าแจ่มแอร่มแดง ชะเง้อแย่งหมู่เมฆเสกประกาย
☆แล้วจัดแจงแต่งตัวกลัวไม่หล่อ เฝ้ายืนรอเรือใหญ่ด้วยใจหมาย เห็นกระโจนโพ้นลำน้ำกระจาย โบกมือส่ายร้องเจี๊ยก..เรียกเป็นลิง
☆พอเรือจอดทอดสมอก็ขอขึ้น กัปตันมึนหรือเมาใครเข้าสิง นอนพังพาบกาบเรือน่าเบื่อจริง คงเมากลิ้งทั้งคืนตื่นยัง..งง
☆เจรจาต้าอ้วยให้ช่วยหน่อย เอาเรือลอยล่องน้ำย้ำประสงค์ ชมพูทวีปปลายทางอย่างมั่นคง ขอไปลงที่นั่นพลันขอบคุณ
☆ได้ขอรับ..ขับไปให้ฉันด้วย ตอนนี้ป่วยตัวร้อนนอนไข้กรุ่น พ่อมาลัยใจดีมีการุณย์ เคยเกื้อหนุนมาก่อนตอนเป็นลม
☆ตกลงกันทันใจไม่ชักช้า มาลัยกล้าแกร่งกร้าวห้าวผสม ชักใบเรือเผื่อกว้างกางเป็นพรม รับแรงห่มตามสายพระพายพัด
☆มุ่งอินเดียเชียร์กันทุกวันด้วย จะมอดม้วยหรือไม่ในพิกัด แล่นเลาะเลี้ยวเปลี่ยวไซร้ใช้ทางลัด มือตวัดพังงาอยู่หน้าเรือ
☆ล่องละลิ่วพลิ้วผ่านม่านน้ำใส ตั้งเอาไว้เข็มทิศพิชิตเหนือ คลื่นกระแทกแทรกฟองก้องเสียงเครือ ทางยังเหลืออีกไกลทำไงดี
☆ฟ้ามืดดำคล้ำหม่นจนปวดหัว แสงสลัวเลือนลางกางใบหนี กระโจนสอดยอดคลื่นหมื่นวารี รอดคราวนี้ไหมหนอขอบนบาน
☆นึกถึงหน้ามาลีโอ้..ที่รัก ซาบซึ้งนักครั้งนั้นวันแสนหวาน รับลงเรือเพื่อล่องท่องสำราญ ตาประสานสองเราเข้าชมไพร
☆ลอยเรือท้าบ้าบิ่นแทรกหินโตรก ข้ามชะโงกลึกร้างทางน้ำไหล ทิวทุ่งท่าหญ้าปรกรกรำไร มองฝั่งได้ล้วนสว่างกระจ่างตา
☆ผ่านโขดหินดินแก่งแหล่งโพรงถ้ำ เรือพลัดลำเอียงลู่เลียบภูผา เบียดหินงอกออกย้อยที่ห้อยมา ลอยถลาคลื่นริ้วที่พลิ้วพราย
☆พายุซัดพัดมาฟ้าตลบ เทกระทบซู่ซ่าน่าใจหาย ยินเสียงวี๊ดกรี๊ดหวาดว่าอาจตาย ปากมิวายเพ้อพร่ำสำลักครวญ
☆ร่างขาวผ่องน้องนั้นสั่นไปทั่ว โธ่..ทูนหัวอย่าช้าหันหน้าสวน จับด้ามพายให้มั่นพลันจ้ำกวน เราจะทวนน้ำหลากจากนี้ไป
☆ทุ่มกำลังถั่งโถมตะโบมถี่ หัวเรือรี่พุ่งลิ่วผิวน้ำไหล แหวกธาราบ้าคลั่งเททั้งใจ เร่งเร็วไวหวังพึ่งเมื่อถึงโพรง
☆สองคนพาดสาดพายตะกายแข่ง ขยับแกว่งพร้อมพรั่งดังผางโผง ทวนน้ำแทรกแตกซ่าพาเรือโคลง เหนื่อยตัวโก่งหอบฮั่กไม่พักรอ
☆งัดหัวเรือเผื่อจ้องมองให้แน่ พี่จะแถโพรงถ้ำเลี้ยวลำจ่อ เสียงฟ้าผ่าส่าฝนคำรนคอ กำพายห้อจ้วงจึ๊กลึกสุดใจ
☆เรือถลำขะมำโค้งถึงโพรงถ้ำ จึงหยุดย้ำแรงพายกายสั่นไหว ปลอบประคองน้องแน่นแผ่นหทัย ฝนหลั่งไหลถล่มฟ้าพาเงียบงัน
☆กระพริบตาฝ่ามัวตัวสำนึก ห้วงน้ำลึกกลับแห้งแจ้งเขตขัณฑ์ ชมพูทวีปถึงแล้วแว่วจำนรรจ์ เสียงกัปตันโห่ฮิ้วยกนิ้วมือ
☆โดดเรือพลันทันใดให้สะดุ้ง ฝันช่างยุ่งยั่วเย้ากระเซ้าหรือ เสียวปลาบแปลบแสบสันคันสะดือ ถึงแล้วหรือฟ้าใสดังใจจง
☆ตอนต่อครบพบแก้วแววสำเร็จ หลังระเห็จเดินทางอย่างกลัวหลง ผู้อ่านสุขสนุกไหมใจพะวง เอาจิตส่งมาช่วยด้วยก็ดี.
เริงอักษร |
|
16
เมื่อ: 08 พฤศจิกายน 2567, 12:26:53 PM
|
เริ่มโดย share - กระทู้ล่าสุด โดย share
|
ริเริ่ม : อาทิทาส (บ้านกลอนไทย) 01 พฤศจิกายน 2024
หลังจากยินเพลง APT. พี่โรเซ่กับบรูโนมารส, สรรเสริญพระเยซูคริสต์เจ้า, ก็เกิดจับจังหวะครุลหุ ทำเป็นฉันท์และแต่งบาลีปลอม ได้อย่างนี้ครับ
อัอุอัอุอั อัอุอัอุอั อัอุอัอุอั อั ยานนาวิกา โรทเตจคัจ ฉันติตํสุภัททา =====
คลคลค .. คลคลค .. คลคลค..ค
@ การอภัยมิง่าย..ต้องมุเป็นประจักษ์..จึงตระหนัก ฤทัย..เธอ
ดุจตะวันกระจ่าง..มอบสว่างมิเผลอ.. ดี ฤ ชั่ว "เสมอ"..ครัน
พึง บ่ ลืมอภัย..ไม่ละเว้นสิ "กู"..ผู้ผยองสมอง..กลวง
|
17
เมื่อ: 07 พฤศจิกายน 2567, 06:33:47 PM
|
เริ่มโดย สิมิลัน - กระทู้ล่าสุด โดย สิมิลัน
|
◇ร้อนลาวา◇ ◇ลาเอ๋ยลาวา ทะลักมาจากปล่องใต้ช่องเขา ละลายร้อนก้อนหินเป็นดินเทา เหลือขี้เถ้ากูลก่ายมากมายกอง ใจคนเป็นเช่นกันในวันร้อน โทสะซ้อนกลางจิตติดสมอง หลงเผลอไผลไร้ค่าไม่น่ามอง ไตร่และตรองก่อนทำจำเถิดเอย.
สิมิลัน | . .
|
18
เมื่อ: 07 พฤศจิกายน 2567, 05:12:59 AM
|
เริ่มโดย เริงอักษร - กระทู้ล่าสุด โดย เริงอักษร
|
☆นิทานเรื่อง แก้วสารพัดนึก๒๘☆ . (เมขลาอวตาร๑๔) . (มาลีมาลัย๔ ดื้อเพื่อน้อง)
☆คำนึงซ้อนตอนเด็กยังเล็กอยู่ เจ้าก็ดูขี้เหร่ใช่เก๋หวาน ตัวอ้วนกลมผมดำคล้ำมานาน มองเหมือนถ่านเดินได้ไม่อยากแล
☆แก้มเป็นบวบอวบใหญ่ในตาเล็ก บ่นดั่งเจ็กหยาบโลนโหนกระแส ยามเดินเหินเมินหน้าขาก็แป มองแล้วแย่ทุกส่วนแถมกวนโอ้ย
☆แต่พอโตโก้หรูดูโดดเด่น แตกเนื้อเต้นวัยเจ้าเอาล่ะโหวย มีหนุ่มจ้องมองหมายตะกายโกย อยากโขมยไปกอดพรอดรำพัน
☆ทุกเย็นย่ำค่ำคืนยืนเห็นอยู่ ใจพี่รู้แอบทักถักทอฝัน รักเรียกหามาลีศรีลาวัณย์ โอ้แจ่มจันทร์สวยพร่างกลางหทัย
☆รู้ว่าพ่อพอใจใช้ข้ออ้าง ให้พี่ห่างน้องนวลชวนสงสัย แก้ววิเศษเกล็ดมณีที่แววไว หาที่ไหนเล่าหนอท้อเหลือเกิน
☆จะดื้อรั้นดั้นด้นทนเพื่อน้อง โห่..ป่าวร้องค้นหาพากายเหิน ข้ามแม่น้ำล้ำเขาลำเนาเนิน ไม่นานเนิ่นหรอกนะจะรีบไป
☆มุ่งขึ้นเหนือเหงื่อโทรมโหมเร็วรี่ ปวดท้องฉี่ก็อั้นกั้นการไหล ทะเลวุ้งคุ้งน้ำทำอย่างไร พ่อท่านให้ค้นถึงแค่หนึ่งปี
☆ไปอังกฤษคิดไว้มิได้เรื่อง ถึงเขตเมืองฝรั่งเศสประเวศศรี ทุกคนบอกออกมาว่าไม่มี ทั่วแห่งที่หกระเหินดุ่มเดินไป
☆ถึงขั้วโลกโศกศัลย์เพราะมันหนาว นึกถึงสาวน้องเจ้า..เอ้าทนไหว ทะเลทรายซาฮาร่าฝ่าแดนไกล เถลไถลอยู่นานที่ผ่านมา
☆ลงเรือลำดำน้ำจนล้ำลึก แม้ยามดึกเร่งรุดมุดค้นหา ขึ้นกระสวยช่วยควานผ่านดารา ยืมนาซ่าหลายหนค้นไม่เจอ
☆อิตาลีโปรตุเกสเขตรัสเซีย มองโกเลียแคนาดาพาให้..เอ๋อ ทั้งฮ่องกงเกาหลีมีแต่..เบลอ น้ำตาเอ่อท่วมท้นล้นสองตา
☆เที่ยวไปค้นหนไหนก็ไม่เจอะ ช่างเลอะเทอะจริงหนอพ่อให้หา แล้วนี่เราเอาไงจะได้มา แก้ววิเศษนั้นหนาช่างบ้าบอ
☆ทรุดกายพักหนักผ่อนถอนใจฟู่ กลับจู่จู่ชายแก่แกฟันหลอ ไม้เท้ากวักยักย้ายส่ายตัวงอ ยืนหัวร่อเอิ๊กเอิ๊กเบิกตามอง
☆จึงเอ่ยถามความไปอะไรนี่ หัวเราะถี่เร็วรวดปวดสมอง เห็นหรือไม่ใครช้ำน้ำตานอง มายืนจ้องขบขันกันทำไม
☆ตาเฒ่าว่าลูกเอ๋ยขอเอ่ยบอก เฉลยออกจากปากคำหลากไหล แก้วตำนานสานสร้างเป็นอย่างไร เจ้าจงไปหาดูชมพูทวีป
☆ตัวแก้วเก็จเม็ดงามความพิเศษ เรืองฤทธิ์เวทย์เกินเหน็บเก็บใส่หีบ บันดาลได้ใสพิสุทธิ์ดุจประทีป ควรเร่งรีบไคลคลาตาให้พร
☆พอพูดจบครบถ้อยก็ลอยจาก เหินข้ามฟากวาบวับลับสิงขร สะดุ้งตื่นฟื้นกายคล้ายละคร ในบทตอนฟ้าช่วยอำนวยชัย
☆มาลัยจะประสบค้นพบแก้ว หรือว่าแคล้วคลาดคลาน่าสงสัย ตามกันต่อรออ่านนิทานไป ถึงตอนใหม่รู้หมดด้วยบทกลอน
เริงอักษร | . .
|
19
เมื่อ: 07 พฤศจิกายน 2567, 05:05:31 AM
|
เริ่มโดย เริงอักษร - กระทู้ล่าสุด โดย เริงอักษร
|
☆นิทานเรื่อง แก้วสารพัดนึก ๒๗☆ . (เมขลาอวตาร๑๓) . (มาลีมาลัย๓ อสุนีบาต)
☆นิทรารมณ์ห่มอุ่นหนุนตักแน่น หอมกลิ่นแก่นจางเจือเมื่อตีสาม ตกใจตื่นฝืนตาพยายาม เสียงคำรามอื้ออึงถมึงมา
☆เหวย..เหวยเฮ้ยขี้ครอกมาหลอกลัก แหม๋..กล้านักมิกลัวยั่วโทษา แอบคบผูกลูกสาวเยาวภา ชะ..ชะ..ช้าหน๋อยแน่เห็นแก่ตัว
☆ชะโงกหน้าคาเขาดูเงาบ้าง เลือดสีจางไร้ค่ากะลาหัว ต่ำยศชั้นบรรดาศักดิ์ไม่ยักกลัว มาทำมั่วอี๋อ๋อป้อลูกเรา
☆เฮ้ย..ไอ้มด ทด ทัพ จับให้มั่น อย่าปล่อยมันหนีได้นะไอ้เถา ผูกมัดจองสองมือแล้วถือเอา ไม้ตะพดหวดเข้าอย่าเพลาแรง
☆ขโมยคว้าปลาย่างช่างร้ายเหลือ อยากแถเถือบั่นซ้ำแสนกำแหง ลีลาอวดลวดลายใช้สำแดง มายุแยงลูกข้าบ้ายิ่งนัก
☆มาลีผงกตกใจให้อนาถ เหมือนฟ้าฟาดลงเปรี้ยงยินเสียงหนัก ถกผ้าถุงรุงรังนั่งสำลัก กระโจนพลั่กเกาะพลางร่างมาลัย
☆อย่าทำเขาเลยพ่อหนูขอร้อง เอามือป้องกราบกรานปากขานไข เราประจักษ์รักกันมั่นทรวงใน โปรดเห็นใจลูกด้วยช่วยปรานี
☆อันความรักจักหาราคาตั้ง เกินกว่าฝั่งสุดฟ้าค่าวิถี คู่ครองกันวันคืนเป็นหมื่นปี ก็อยู่ที่จิตสมัครรักร่วมกัน
☆หากพ่อยังหวังฆ่าพี่มาลัย ลูกนั้นไซร้ตายตามข้ามโศกศัลย์ โปรดเมตตาอย่าคิดปลิดชีวัน หรือบีบคั้นผิดถูกลูกน้อยเลย
☆พ่อได้ฟังดังคำช้ำหัวอก ลูกเราตกหลุมรักหนักเหลือเอ่ย เลี้ยงเจ้ามาพาใจไม่เสบย อยากหาเขยร่ำรวยหน่วยก้านดี
☆ไปรักชี้ขี้ข้าน่าโกรธขึ้ง ยืดกายผึ๋งเจ็บแท้เหมือนแหย่ฝี เจ้าไม่รู้ดูค่าดารุณี เจ้าควรมีชีพวางอย่างงามงด
☆ด้วยรักผูกลูกน้อยพลอยเกรงกริ่ง จะฆ่าทิ้งมาลัยให้สลด อุราปวดรวดร้าวหนาวรันทด ขบฟันกดกล่าวแกล้งแจ้งน้ำคำ
☆เฮ้ย..มาลัยฟังนะข้าจะบอก ไม่ขอหลอกลวงเล่นเช่นเรื่องขำ อยากพันผูกลูกเราเจ้าจงจำ เอาไปทำจนครบจบกระบวน
☆จงตามหามาหน่อยจะคอยรับ แก้วแวววับวิเศษเป็นเหตุด่วน เพื่อแทนทองของหมั้นหมั่นทบทวน จึงสมควรค่าพอรอชื่นชม
☆นับจากนี้ปีหนึ่งพึงบรรจบ เวลาครบหากได้ไม่ขื่นขม แม้นมิพบจบกันลั่นคารม ขอให้ข่มใจจากพรากกันไป
☆มาลัยฟังดังว่าน้ำตาตก โอ้..นรกจักคว้าหาที่ไหน มาลีจ๋าครานี้พี่ปวดใจ ต้องจากไกลรันทดหมดหนทาง
☆ได้แต่ปลงส่งเสียงเพียงอยากปลอบ เป็นคำตอบต่อน้องอย่าหมองหมาง พี่จะดั้นถลันด้นตะโกนพลาง หาแก้ววางเพื่อหมั้นตามสัญญา
☆ตอนต่อไปให้ชื่อ"ดื้อเพื่อน้อง" มาลัยต้องขวนขวายคลายปัญหา แก้ววิเศษประเทศใดใต้นภา จะพลิกฟ้าคว่ำดินถิ่นบาดาล.
เริงอักษร |
|
20
เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2567, 01:25:06 PM
|
เริ่มโดย share - กระทู้ล่าสุด โดย share
|
ระวัง อย่าสับสนกับ โคลง สองสุภาพ นะครับ
โคลง สองคำสุภาพ ดัดแปลงจาก โคลงสี่สุภาพ โดยใช้ บาท 2 และ บาท 4 ตำแหน่ง "คำสุภาพ" อยู่ที่ - ท้ายวรรคแรกของบาทต้น และ - ท้ายวรรคหลังของบาทจบ
** สัมผัสระหว่างบท ยึดแบบ ลิลิต
@ โคลงสี่ฯ นำปรับแปลง ....แต่งใช้ หวัง"สุภาพ"ยลชัดได้ ....กระจ่างให้เห็นเสมอ
@ เสนอ "บาทสอง" เป็นกระสวน ....เริ่มต้น "บาทสี่" มุดั้นด้น ....ปิดท้ายคำประพันธ์
|
|