You are here: Khonphutorn.com - แหล่งข้อมูลของคนไทยหมวดสุขภาพกินเพื่อสุขภาพ (ผู้ดูแล: หมอจุ๋ม จุ๋มจิ๋ม จิ๋มจุ๋ม)เตือนแล้วนะ!!! "ผัก 5 ชนิด" ไม่ควรกินดิบ..เสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพ!!?
หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: เตือนแล้วนะ!!! "ผัก 5 ชนิด" ไม่ควรกินดิบ..เสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพ!!?  (อ่าน 2169 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 65535
เหรียญรางวัล:
PJ ดีเด่นนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลเว็บ
กระทู้: 18,135
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สาวหวาน กับ ความฝันไม่รู้จบ "
   
« เมื่อ: 26 ธันวาคม 2558, 08:31:05 PM »

Permalink: เตือนแล้วนะ!!! "ผัก 5 ชนิด" ไม่ควรกินดิบ..เสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพ!!?


เตือนแล้วนะ!!! "ผัก 5 ชนิด" ไม่ควรกินดิบ.
เสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพ!!?
"ผัก" มีประโยชน์ต่อร่างกาย มันจึงเป็นเหมือนอาหารหลักที่มนุษย์เรานำมาใช้ประกอบอาหาร
หากเรากินผักมากๆก็จะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง แต่รู้หรือเปล่า? 5 ผักเหล่านี้ "กินดิบๆ" เสี่ยงอันตราย
 ขอบอก!! ว่ามีแต่ผักที่เราๆชื่นชอบ กินกันเป็นประจำทั้งนั้น ทั้งเป็นเครื่องเคียงใส่ก๋วยเตี๋ยวเอย
ขนมจีนน้ำยาเอย หรือกินกับลูกชิ้นปิ้ง ไม่น่าเชื่อว่าจะติดโผกับเขาด้วย!  ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกัน!




ผักโขม
ไม่ควรกินดิบเพราะกรดในผักโขมจะขัดขวางการดูดซึมของธาตุเหล็ก คือกรดที่ชื่อว่าออกเซลิค
 แอซิด อยู่ในตัวมันสูง ทำให้ร่างกายเราไม่สามารถดูดซับธาตุเหล็กนั่นเอง




หน่อไม้
หน่อไม้ดิบมีสารที่จะเปลี่ยนเป็นไซยาไนด์ ที่เป็นพิษได้ จึงต้องต้มในน้ำเดือดนานเกิน 10 นาทีจึงจะปลอดภัยสุดๆ
 เจ้าสารที่ว่าว่านี้ขื้นอยู่กับสายพันธุ์ของหน่อไม้ และสภาพการปลูก การบรรจุเตรียมขายด้วยค่ะ
ในกรณีหน่อไม้ปี๊บต้องต้มฆ่าเชื้อก่อนปิดปี๊บอยู่แล้ว ก็ช่วยลดเจ้าสารพิษตัวนี้ไปได้มากๆ
 โดยปกติเรากินหน่อไม้ เราก็ต้องลวกก่อนอยู่แล้ว ลวกนานๆละกัน อีกเรื่องนึงก็คือโรคโบทูลิซึ่ม
 กล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นหนักๆก็ไม่มีแรงหายใจเองไม่ได้ ถ้าช่วยไม่ทันก็ถึงตายได้
ถ้าหน่อไม้ปีปนั้นไม่สะอาดจะแฝงเชื้อนี้มากับดิน





ถั่วฝักยาว
ถั่วฝักยาวดิบด้วยแล้วจะมีแก๊สค่อนข้างสูงโดยเฉพาะแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ทำให้ท้องอืด
ไม่เหมาะกับคนที่มีปัญหาการย่อยและผู้สูงอายุ





ถั่วงอก
ในผักสดบางชนิดมีสารพิษที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ "ไฟเตต จะพบมากในพืชตระกูล ถั่ว ไม่ว่าจะเป็นถั่วเหลือง
ถั่วลิสง ถั่วเขียว หรืองา ดังนั้นในถั่วงอกดิบจึงมีไฟ เตตสูง ซึ่งเมื่อกินเข้าไปจะ ไปจับแร่ธาตุบางชนิดที่อยู่ในอาหาร
 ทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมแร่ธาตุเหล่านั้นเข้าร่างกาย ร่างกายจะเป็นโรคขาดแร่ธาตุ
สารพิษเหล่านี้สามารถทำลายได้โดยการต้ม แต่ถ้าปรุงให้สุกไฟเตตจะสลายไป หรือมีปริมาณน้อยลง
 โอกาสที่ไฟเตตจะไปดูดซับแร่ธาตุต่าง ๆ จึงน้อยกว่าการรับประทานดิบ ๆ
" จึงควรรับประทานถั่วงอกสุขดีกว่าถั่วงอกดิบ แต่ในความเป็นจริงเราต้องรับประทานจำนวนมาก
จึงเกิดการขัดขวางการดูดซึม ถ้าจะทานดิบก็ควรทานในปริมานพอเหมาะค่ะ





กำหล่ำปลี
ในกะหล่ำปลีดิบจะมีสารพิษที่เรียกว่า กอยโตรเจน (Goibrogen) ซึ่งเป็นสารที่จะไปกันไม่ให้ต่อมไทรอยด์จับไอโอดีน
 สร้างเป็น ฮอร์โมนไทร๊อกซิน (Thyroscine) ได้ ซึ่งผลที่เกิดขึ้นคือ จะทำให้เกิดเป็นโรคคอหอยพอก
แต่สารพิษเหล่านี้จะถูกทำลายได้ โดยการต้ม จึงควรรับประทานกะหล่ำปลีสุก จะดีกว่ากะหล่ำปลีดิบ
 ความจริงก็คือถ้าคนๆนั้น มีสภาวะไทรอยด์ก็ควรงดเพราะโอกาสจะเพิ่มอาการ
ส่วนคนปกติทานเป็นผักแกล้มกับน้ำพริก หรือลาบก็คงไม่มากเท่าไหร่ ยกเว้นทานเป็นกิโลๆ


ที่มา อินเทอเนท
บันทึกการเข้า


♪♪♪ รวมบทกลอนน้องจ๋า คลิกค่ะ ...

ขอบคุณทุกภาพจาก Internet และเพลงจากYouTube
หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: