-/> กิน “ทุเรียน-กล้วยไข่-ขนุน-ลิ้นจี่” มีโฟเลตเพียบ ช่วยหยุดทารกพิการ-อัลไซเมอร์

You are here: Khonphutorn.com - แหล่งข้อมูลของคนไทยหมวดสุขภาพกินเพื่อสุขภาพ (ผู้ดูแล: หมอจุ๋ม จุ๋มจิ๋ม จิ๋มจุ๋ม)กิน “ทุเรียน-กล้วยไข่-ขนุน-ลิ้นจี่” มีโฟเลตเพียบ ช่วยหยุดทารกพิการ-อัลไซเมอร์
หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: กิน “ทุเรียน-กล้วยไข่-ขนุน-ลิ้นจี่” มีโฟเลตเพียบ ช่วยหยุดทารกพิการ-อัลไซเมอร์  (อ่าน 1664 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 65535
เหรียญรางวัล:
PJ ดีเด่นนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลเว็บ
กระทู้: 18,135
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สาวหวาน กับ ความฝันไม่รู้จบ "
   
« เมื่อ: 06 ธันวาคม 2558, 06:56:35 PM »

Permalink: กิน “ทุเรียน-กล้วยไข่-ขนุน-ลิ้นจี่” มีโฟเลตเพียบ ช่วยหยุดทารกพิการ-อัลไซเมอร์



แนะกิน “ทุเรียน-กล้วยไข่-ขนุน-ลิ้นจี่”
มีโฟเลตเพียบ ช่วยหยุดทารกพิการ-อัลไซเมอร์

.
นักวิชาการชี้ “โฟเลต” จำเป็นต่อร่างกายทุกช่วงอายุ แนะกินผลไม้ไทยทั้งทุเรียน กล้วยไข่ ขนุน ลิ้นจี่
มีโฟเลตเพียบ ช่วยป้องกันความพิการในทารก หยุดภาวะอัลไซเมอร์ แต่ต้องกินอาหารให้มีความหลากหลายและสมดุลเหมาะสม

รศ.ดร.รัชนี คงคาฉุยฉาย อาจารย์ประจำสถาบันโภชนาการ กล่าวว่า โฟเลตเป็นสารอาหารที่มีความสำคัญกับคนทุกกลุ่มอายุ
ตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ แม่ก็ต้องการโฟเลตมาก เพราะเป็นสารอาหารที่ช่วยหยุดภาวะความพิการของทารกได้
ทำให้เซลล์ตัวอ่อนเจริญเติบโตเป็นปกติ ลดภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ หรือกระดูกสันหลังไม่ปิดได้
 ขณะที่ทารกก็ต้องการเพื่อพัฒนาเซลล์สมอง
ส่วนคนสูงอายุจะช่วยลดภาวะอัลไซเมอร์ได้ นอกจากนี้ โฟเลตยังช่วยหลั่งสารซีโรโทนิน ที่ช่วยควบคุมการนอน ความหิว
 ความอยาก และอาการซึมเศร้า ซึ่งโฟเลตจะอยู่ในพวกผักใบเขียว แต่ถูกทำลายได้ง่ายด้วยความร้อน

ดังนั้น การรับประทานให้ได้โฟเลตตามปริมาณที่ร่างกายต้องการคือวันละ 300 ไมโครกรัมต่อวัน จึงเป็นเรื่องยาก
ซึ่งบางประเทศจะพบอุบัติการณ์การขาดโฟเลต เช่น มาเลเซีย พบประมาณร้อยละ 10

รศ.ดร.รัชนี กล่าวอีกว่า จากการวิจัยเพื่อหาค่าของสารอาหารในอาหารแต่ละประเภท พบว่า
โฟเลตนอกจากจะอยู่ในผักใบเขียว ยังอยู่ในผลไม้ไทยด้วย คือ ทุเรียนชะนีไข่ หมอนทอง
กล้วยไข่ ขนุน มะละกอ ลิ้นจี่ ซึ่งผลไม้เหล่านี้สามารถรับประทานสดๆ ได้ โดยไม่ต้องผ่านความร้อน
ทำให้ได้รับปริมาณโฟเลตอย่างเต็มที่ อย่างทุเรียนซึ่งเป็นแหล่งที่มีโฟเลตมากที่สุด สามารถรับประทานเพียง 2 เม็ด
ก็จะเท่ากับ ร้อยละ 50 ของปริมาณที่แนะนำต่อวันแล้ว
ส่วนกล้วยไข่ รับประทานเพียง 2 ลูกต่อวัน ลิ้นจี่ 8 ผล ขนุน 8 ชิ้น เป็นต้น

“การรับประทานอาหารควรมีความหลากหลาย เช่น ทุเรียน แม้จะมีโฟเลตสูง
แต่ถือเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลและให้พลังงานสูงเช่นกัน ผู้มีโรคประจำตัวบางชนิด อาจรับประทานได้ไม่มากนัก
 การจัดมื้ออาหารให้มีความสมดุลและหลากหลาย จึงเป็นสิ่งสำคัญ ต้องเน้นให้มื้ออาหารมีความหลากหลาย
สับเปลี่ยนหรือรับประทานอาหารหลายๆชนิด แต่ต้องพอดี ไม่ทานอย่างใดอย่างหนึ่งมากจนเกินความต้องการของร่างกาย
ก็จะทำให้เกิดความสมดุล อาหารก็จะกลายเป็นยา ไม่ใช่ยาพิษ” รศ.ดร.รัชนี กล่าว


Cr.บรรยากาศ
บันทึกการเข้า


♪♪♪ รวมบทกลอนน้องจ๋า คลิกค่ะ ...

ขอบคุณทุกภาพจาก Internet และเพลงจากYouTube
หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: