-/> อายุความฟ้องร้อง ในคดีแพ่ง (หนี้เงิน)

You are here: Khonphutorn.com - แหล่งข้อมูลของคนไทยหมวดอาชีพรู้กฎหมาย คลายปัญหา (ผู้ดูแล: พรหมพิพัฒน์)อายุความฟ้องร้อง ในคดีแพ่ง (หนี้เงิน)
หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: อายุความฟ้องร้อง ในคดีแพ่ง (หนี้เงิน)  (อ่าน 2772 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ดูแลเรื่องกฏหมายของเว็บ
คะแนนน้ำใจ 1010
กระทู้: 130
ออฟไลน์ ออฟไลน์
อีเมล์
   
« เมื่อ: 08 ธันวาคม 2558, 09:13:21 PM »

Permalink: อายุความฟ้องร้อง ในคดีแพ่ง (หนี้เงิน)
อายุความฟ้องร้อง ในคดีแพ่ง (หนี้เงิน)
อายุความในการฟ้องสำหรับ "หนี้" ที่ผิดนัดชำระ...ให้นับจาก
วันที่ผิดนัดชำระครั้งสุดท้าย...จนถึงวันที่ฟ้องคดี
อายุความของหนี้สินประเภทต่าง ๆ

#‎หนี้บัตรเครดิต‬
- อายุความในการฟ้อง หลังจากมีการผิดนัดชำระตามสัญญา = 2 ปี

‪#‎หนี้วงเงินเบิกเกินบัญชี‬
- อายุความในการฟ้อง หลังจากมีการผิดนัดชำระตามสัญญา = 10 ปี

#‎หนี้สินเชื่อส่วนบุคคลรวมทั้งบัตรกดเงินสด‬
- อายุความ = 5 ปี (สัญญากู้ยืมที่มีการผ่อนต้นคืนพร้อมดอกเบี้ยเป็นงวด ๆ)

‪#‎หนี้เงินกู้‬
- อายุความ = 10 ปี (สัญญากู้ยืมที่กำหนดชำระเงินต้นคืนทั้งหมดในครั้งเดียว)

‪#‎หนี้ที่เกิดจากสัญญาเช่าซื้อ‬
- อายุความในการฟ้อง หลังจากมีการผิดนัดชำระตามสัญญา = 2 ปี

ส่วนใหญ่มักจะเข้าใจกันว่า ...ให้นับจากวันที่จ่ายค่างวดครั้งสุดท้าย...จนถึงวันที่ฟ้อง ซึ่งเป็นการเข้าใจที่ ผิด ครับ
อย่าลืมนะครับ กฎหมายเขียนเอาไว้ว่า

"ให้นับจากวันที่ผิดนัดชำระครั้งสุดท้าย จนถึงวันที่ฟ้อง"
คำว่า "วันที่ผิดนัดชำระครั้งสุดท้าย" ไม่ได้หมายถึง วันที่ชำระเงินครั้งสุดท้ายนะครับ
เพราะการที่เราจ่ายเงินไปในครั้งสุดท้ายนั้น...เรายังไม่ได้ผิดสัญญา ดังนั้น อายุความก็จะยังไม่เริ่มนับ
ความหมายของคำว่า “ผิดนัดชำระสัญญา” คือ เมื่อถึงวันที่เราจะต้องจ่ายคืนเงินกู้ตามสัญญาที่ได้ระบุไว้
 แต่เราไม่ได้จ่ายตามวันที่ได้กำหนดไว้ในสัญญา...นั่นแหละ จึงจะถือได้ว่า “เริ่มผิดนัดชำระตามสัญญา”

ตัวอย่าง
นาย ก. ได้ไปทำการกู้สินเชื่อบุคคลจาก ธนาคาร A มาเป็นจำนวนเงิน XX,XXX บาท ซึ่งกำหนดให้ผ่อนจ่ายคืน
ทั้งหมด 24 งวด ๆ ละ 1,000.- บาท โดยต้องผ่อนจ่ายคืนไม่เกินวันที่ 8 ของทุก ๆ เดือน
นาย ก. ได้รับเงินกู้มาแล้ว ในวันที่ 9 ก.ค. 2557 ซึ่งหลังจากนั้น นาย ก. ได้ผ่อนจ่ายชำระเงินคืนไปแล้ว เป็นบางงวด ดังนี้
งวดที่ 1 จ่าย 1,000.- บาท วันที่จ่าย 8 ส.ค. 2557
งวดที่ 2 จ่าย 1,000.- บาท วันที่จ่าย 7 ก.ย. 2557
งวดที่ 3 จ่าย 1,000.- บาท วันที่จ่าย 6 ต.ค. 2557
งวดที่ 4 จ่าย 1,000.- บาท วันที่จ่าย 7 พ.ย. 2557
งวดที่ 5 นาย ก. ควรจะต้องจ่ายค่าผ่อนชำระ 1,000.- บาท ไม่เกินวันที่ 8 ธ.ค. 2557 ตามสัญญา
แต่ นาย ก. ไม่มีเงินจ่าย จึงเริ่มหยุดจ่าย...ตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค. 2557 เป็นต้นมา...จนถึงปัจจุบัน
วันที่ 8 ธ.ค. 2557 นี่แหละครับ ที่ถือว่า นาย ก. ได้เริ่มผิดนัดชำระตามสัญญา (ถึงกำหนดวันที่ต้องจ่ายแล้ว...แต่ไม่จ่าย)

จะอ้างว่า วันที่ 7 พ.ย. 2557 เป็นวันที่ นาย ก. เริ่ม “ผิดนัดชำระตามสัญญา” เพราะเป็น “การจ่ายชำระเงินเป็นครั้งสุดท้าย” ไม่ได้
เพราะถือได้ว่า นาย ก. ยังมีการจ่ายชำระเงินในวันที่ 7 พ.ย. 2557 ตามสัญญาอยู่ จึงไม่ได้เป็นการผิดนัดตามสัญญาแต่อย่างใด
ที่ยกตัวอย่างขึ้นมาให้เห็น เพราะว่าอาจส่งผลต่อการสู้ต่อคดีของลูกหนี้ ที่ยังไม่เข้าใจในการตีความของกฏหมาย เช่น
ถ้าลูกหนี้ถูกฟ้องเรื่อง “หนี้บัตรเครดิต” (ซึ่งมีอายุความ 2 ปี โดยนับจากวันที่ผิดนัดชำระ)
ลูกหนี้ได้หยุดจ่ายมาเป็นเวลา 24 เดือน (2 ปี) พอดี โดยลูกหนี้ คำนวนระยะเวลา จากวันที่เริ่มจ่ายเงินเป็นครั้งสุดท้าย
 จนถึงวันที่ฟ้อง และได้อ้างข้อมูลดังกล่าวนี้ต่อศาลว่า “คดีขาดอายุความ” ไปแล้ว
 เพื่อที่จะให้ศาล “ยกฟ้อง” ให้

แต่ถ้าฝ่ายโจทก์แย้งว่า “ยังไม่ขาดอายุความ” ตามเหตุผลที่ได้อธิบายไปแล้ว...
จะทำให้คดีที่ถูกฟ้องร้องต่อศาลนี้ มีระยะเวลาในการ “ผิดนัดชำระสัญญา”
เพียงแค่ 23 เดือน (1 ปี กับอีก 11 เดือน) เท่านั้น...
คดีจึงไม่ขาดอายุความ และอาจส่งผลให้ลูกหนี้ถูกตัดสิน “แพ้คดี” เนื่องจากการสู้ความ "ผิดประเด็น" ก็เป็นได้

ดังนั้น สำหรับผู้ที่จะใช้ “เงื่อนไขของ การผิดนัดชำระตามสัญญา”
สำหรับต่อสู้คดีในเรื่อง “ขาดอายุความ” ให้พิจารณาถึงส่วนนี้ด้วยนะครับ
คำว่า "คดีขาดอายุความ" มีความหมายว่า "ไม่สามารถเอาผิดได้ตามกฏหมายที่บัญญัติไว้"
แต่ไม่ได้หมายความว่า ฟ้องไม่ได้ หรือห้ามฟ้อง นะครับ...
กล่าวคือถ้าอยากจะฟ้องก็ฟ้องไป แต่ฟ้องแล้วก็ไม่สามารถเอาผิดกับจำเลยได้
ถ้าเจ้าหนี้รู้ว่า...คุณเองก็พอมีความรู้ในเรื่อง "คดีขาดอายุความ" และหนี้ที่มีอยู่กับคุณ ได้ขาดอายุความในการฟ้องไปแล้ว...
อาจจะไม่ฟ้องคุณก็ได้ เนื่องจากต้องเสียเงิน และเสียเวลาในการฟ้องไปเปล่า ๆ...
แต่จะใช้วิธีในการทวงหนี้ไปเรื่อย ๆ แทน (กฏหมายไม่ได้ระบุไว้นี่ครับว่า ถ้าไม่ฟ้อง...
แล้วห้ามทวงหนี้โดยเด็ดขาด หรือทวงไม่ได้)

ดังนั้น...สถาบันการเงินซึ่งเป็นเจ้าหนี้ จะต้องใช้สิทธิฟ้องร้องให้ลูกหนี้ชำระหนี้ ภายในกำหนดเวลาตามที่กฏหมายระบุไว้
นับตั้งแต่ลูกหนี้ “ผิดนัดชำระหนี้” กับเจ้าหนี้เป็นครั้งสุดท้าย ถ้าหากเจ้าหนี้ไม่ได้ใช้สิทธิเรียกร้อง
 หรือฟ้องร้องภายในระยะเวลาตามที่กฏหมายกำหนด คดีก็เป็นอันขาดอายุความ หรือหมดสิทธิเรียกร้อง
 ลูกหนี้ก็พ้นความรับผิด ไม่ต้องชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ เพราะถึงแม้เจ้าหนี้จะดันทุรังฟ้องร้องลูกหนี้
แต่เมื่อลูกหนี้ยกข้อต่อสู้ว่าคดีหมดอายุความแล้ว ศาลก็ต้องพิพากษายกฟ้องให้อยู่ดี

#‎ที่สำคัญอย่าลืมว่า‬ ถึงแม้คดีจะขาดอายุความไปแล้วก็ตาม แต่ถ้าเจ้าหนี้ยื่นฟ้อง
แล้วลูกหนี้ไม่ยื่นคำให้การ ในการต่อสู้คดี…ลูกหนี้จะเป็นผู้ “แพ้คดี” ทันที...ดังนั้นเมื่อลูกหนี้ยื่นคำให้การต่อสู้คดี
ลูกหนี้จะต้องต่อสู้คดีในประเด็นที่ว่า คดีของโจทก์ “ได้ขาดอายุความไปแล้ว”
มิฉะนั้นศาลก็ไม่อาจหยิบยกเรื่องคดีขาดอายุความ ขึ้นมาเป็นเหตุให้ยกฟ้องของโจทก์ได้

มีตัวอย่างมากมาย ที่แม้เจ้าหนี้จะรู้ว่าคดีขาดอายุความไปแล้ว แต่เจ้าหนี้ก็ยังให้ทนายความ ยื่นฟ้องลูกหนี้อีก
โดยหวังว่าถ้าฟลุ๊ค ๆ ขึ้นมา ไปเจอลูกหนี้ที่ไม่รู้เรื่อง ไม่ใส่ใจที่จะต่อสู้คดี เพราะรับรู้ว่าตนเองเป็นหนี้เขาจริง ๆ
แต่หารู้ไม่ว่าคดีขาดอายุความแล้ว จึงไม่ได้ยื่นคำให้การต่อสู้คดีว่าขาดอายุความแต่อย่างใด
นั่นนับว่าเป็นคราวเฮงของเจ้าหนี้ และเป็นคราวซวยของลูกหนี้ ศาลก็จะต้องพิพากษาตามพยานหลักฐานให้เจ้าหนี้ชนะคดีไป
และลูกหนี้ก็ต้องรับผิดชำระหนี้ตามคำพิพากษาของศาลต่อไป

สรุปให้ชัด ๆ ก็คือ
ลูกหนี้ส่วนมากจะเข้าใจว่า เมื่อขาดอายุความแล้วเจ้าหนี้ฟ้องไม่ได้ก็จบกันแค่นั้น หรือถ้าฟ้อง
ศาลก็คงจะไม่รับคำฟ้องเพราะขาดอายุความ แต่ความจริงกลับไม่เป็นอย่างที่ทุกคนเข้าใจ
เพราะถึงจะขาดอายุความไปแล้ว แต่ทางฝ่ายเจ้าหนี้ก็สามารถยื่นฟ้องได้
 โดยศาลก็จะดำเนินการไปตามกระบวนการของกฎหมายตามขั้นตอนต่าง ๆ ต่อไป

การที่จะให้ศาลหยิบยกเอาเรื่อง การขาดอายุความขึ้นมาพิจารณานั้น
 ลูกหนี้จะต้องยื่นคำให้การต่อสู้คดีในเรื่องของการขาดอายุความ ขึ้นเป็นข้อต่อสู้ในชั้นศาล
ซึ่งศาลก็จะนำมาพิจารณาตรวจสอบดูข้อเท็จจริง และถ้าหากเป็นจริงตามที่ลูกหนี้ยื่นคำให้การต่อสู้มา
 ศาลก็จะ "ยกฟ้อง"

ซึ่งในเรื่องนี้ได้มีกฎหมายรองรับอยู่ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งบัญญัติไว้ว่า
มาตรา 193/10 “สิทธิเรียกร้องที่ขาดอายุความ ลูกหนี้มีสิทธิที่จะปฏิเสธการชำระหนี้ตามสิทธิเรียกร้องนั้นได้"
มาตรา 193/29 “เมื่อไม่ได้ยกอายุความขึ้นเป็นข้อต่อสู้ ศาลจะอ้างเอาอายุความมาเป็นเหตุยกฟ้องไม่ได้”


บันทึกการเข้า

ใช้ชีวิตแบบสบายๆ ปล่อยวางบ้าง
ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 65535
เหรียญรางวัล:
PJ ดีเด่นนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลเว็บ
กระทู้: 18,134
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สาวหวาน กับ ความฝันไม่รู้จบ "
   
« ตอบ #1 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2558, 09:50:13 PM »

Permalink: Re: อายุความฟ้องร้อง ในคดีแพ่ง (หนี้เงิน)

บันทึกการเข้า


♪♪♪ รวมบทกลอนน้องจ๋า คลิกค่ะ ...

ขอบคุณทุกภาพจาก Internet และเพลงจากYouTube
หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: