แกงพริก-เทียมหน่อเหรียงกับหมูสามชั้นชาวเกาะพงันครั้งอตีดที่ผ่านมา
การนำกะทิมาเป็นส่วนประกอบในการแกงเผ็ด
ล้วนเป็นที่นิยมและขาดไม่ได้
ทุกมื้อต้องมีแกงเผ็ดจากกะทิ
ทั้งแกงเผ็ดจากผักและจากเนื่้อ
รุ่นปู่ย่าตายายมีอายุยืนยาวนับร้อยปีทั้งนั้น..
แต่ใช่ว่าแกงจากกะทิเป็นอย่างเดียว
แกงส้มหรือผัดเผ็ดก็มี
แกงเผ็ดเครื่องก็เป็นที่นิยม
แต่วันนี้จะมาแกงพริก-เทียมกันนะครับ
คล้ายๆกับแกงเผ็ดเครื่อง

เน้นพริกไทยกับกระเทียมเป็นส่วนประกอบหลัก
คือให้เยอะเข้าไว้เป็นอันว่าใช้ได้

เครื่องปรุงเด็ดอีกอย่างของชาวเกาะ
"เคยลูกปลา"
หรือกะปิปลานั่นแหละครับ
ใช้ลูกปลาหมักกับเกลือและมาตำให้ละเอียด
เก็บไว้ได้นาน
มันก็ปลาร้าดีๆนั่นเอง ฮ่าๆๆๆ
ใครว่าคนเกาะอย่างเราไม่กินปลาร้า

น้ำสะอาดครึ่่งหม้อ
เครื่องแกงเผ็ดตักลงไปเลยครับ

พริก-เทียม ที่ตำไว้พอแหลก
ใส่ตาม

น้ำแกงสีสวยนะครับ
เติมเกลือ
และอย่าลืมเน้อ
เคยลูกปลาหนึ่งช้อนโต๊ะ
ยกขึ้นตั้งไฟ

พอน้ำเดือดคลั่กๆ
ใส่หมูสับ
หรือจะใสไก่ก็ได้ ปลาก็ดีแล้วแต่ชอบ

แต่วันนี้จะแกงหมูสามชั้นกับหน่อเหรียง
สุดยอดความอร่อยจะบังเกิด
ใสหน่อเหรียงลงไปครับ
บางคนนำหน่อเหรียงไปลวกน้ำร้อนก่อน
แต่ผมใช้แบบนี้หละครับ
ดิบๆ

กะว่าหน่อเหรียงสุก
ใส่ใบราแกงไก่ หรือ ยี่หร่า ที่เด็ดใบทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว
ถ้าเป็นแกงเผ็ดเครื่องจะใช้ใบแมงลักนะครับ
ต่างกันตรงนี้

ชิมรสชาติให้ถูกคอและถูกใจ
ให้ออกเค็มนิดๆเผ็ดต้องจัดจ้าน
ไม่มีน้ำปลา ไม่มีซีอิ้วขาว ไม่มีนำตาลโน่นน้ำตาลนี่เพราะเราไม่ใช้
พริกสดบุบๆพอแตก ใส่ลงไปอีกหน่อย
เพิ่มสีสัน

เสร็จแล้วครับ
แกงพริก-เทียมหน่อเหรียงกับหมูสามชั้น

เผ็ดร้อนจากพริกไทย
ช่วยเรียกเหงื่อได้ดีนักแล
อ้อ
ปลาเค็มย่างต้องมี
ไม่งั้นอร่อยไม่ครบชุด
ง่ายๆแบบชาวเกาะเรา ไม่เห็นจะอดตาย
กลับไปถามตัวเองว่า
วัฒนธรรมการการกินแบบนี้
มันห่างหายไปจากชีวิตเรานานเท่าไหร่แล้ว
มัวแต่ก้าวตามโลกที่เร่งรัดและรวดเร็ว
กินอาหารที่มีส่วนประกอบของเคมีทุกวีทุกวัน
สะดวกแต่อันตราย
ย้อนมาใช้ชีวิตแบบง่ายๆจะบั่นทอนความจริงมากใหม
เริ่มกันได้หรือยัง
..