หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: โรคโลหิตจาง อาการป่วยของคนขาดธาตุเหล็ก  (อ่าน 4369 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 65535
เหรียญรางวัล:
PJ ดีเด่นนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลเว็บ
กระทู้: 18,130
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สาวหวาน กับ ความฝันไม่รู้จบ "
   
« เมื่อ: 07 ตุลาคม 2557, 09:02:42 AM »

Permalink: โรคโลหิตจาง อาการป่วยของคนขาดธาตุเหล็ก


โรคโลหิตจาง อาการป่วยของคนขาดธาตุเหล็ก

ดูแลตนเองเมื่อเป็นโลหิตจาง

          โลหิตจางเป็นความผิดปกติของเลือดที่พบได้บ่อยที่สุด     
          ภาวะโลหิตจาง (Anemia) เป็นโรคทางโลหิตวิทยาที่พบบ่อยที่สุด โดยเกิดจากการมีจำนวนเม็ดโลหิตแดงน้อยหรือมีการทำงานที่ผิดปกติ
 สีของเม็ดเลือดแดงมาจากฮีโมโกลบิล ซึ่งเป็นสารประกอบที่มีธาตุเหล็กเป็นตัวนำออกซิเจน
          สำหรับการเกิดของโรคโลหิตจางก็เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ เช่น เกิดจากการขาดอาหาร การเผาผลาญบกพร่อง ยาบางชนิด
ได้รับสารพิษ เสียโลหิตเป็นจำนวนมาก เป็นมะเร็งและโรคอื่นอีกหลายชนิด





            คุณเป็นโลหิตจางหรือไม่
          ผู้ป่วยมักมาด้วยอาการอ่อนเพลีย ไม่มีแรง ผิวซีด หอบเหนื่อย หัวใจเต้นแรง แต่การวินิจฉัยที่แน่นอนคือการตรวจเลือด (CBC)
แล้วใครบ้างละเสี่ยงต่อการขาดธาตุเหล็ก ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญของการเกิดโรค
          กลุ่มคนที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะโลหิตจาง ได้แก่ สตรีมีครรภ์ สตรีหลังคลอด สตรีมีประจำเดือน และเด็กในวัยเจริญเติบโต
 ผู้หญิงที่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์จะมีการสร้างเม็ดเลือดแดงเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้ร่างกายสามารถนำสารอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงคุณแม่
และทารกในครรภ์อย่างเพียงพอ
          ส่วนสตรีหลังคลอดจะสูญเสียธาตุเหล็กไปกับเลือดขณะคลอด ดังนั้น ร่างกายต้องการธาตุเหล็กมากกว่าปกติเช่นกัน
 สำหรับเด็กจะต้องการธาตุเหล็กโดยเฉลี่ย 1 มิลลิกรัมต่อวัน จึงเพียงพอต่อร่างกายที่กำลังเจริญเติบโต แต่ธาตุเหล็ก
จากอาหารจะได้รับการดูดซึมไม่ดีนัก หรือเพียงร้อยละ 10 เท่านั้น ดังนั้นเพื่อป้องกันภาวะโลหิตจางในเด็ก
จึงควรได้รับธาตุเหล็กวันละ 8 ถึง 10 มิลลิกรัม ทั้งนี้ ความต้องการธาตุเหล็กของเด็กที่ดื่มนมแม่จะน้อยกว่านี้
 เพราะธาตุเหล็กจากนมแม่จะดูดซึมได้ดีกว่าถึง 3 เท่าตัว




  นอกจากนี้อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้โลหิตจางได้คือการได้รับสารตะกั่วเข้าสู่กระแสเลือดมากเกินไป
เด็กในช่วงอายุระหว่าง 9 เดือน – 2 ปี จะเป็นช่วงเสี่ยงต่อการเป็นโรคโลหิตจางมากที่สุด
 เด็กที่อยู่ในช่วงวัยนี้ควรได้รับการตรวจเลือดเพื่อดูว่าเป็นโรคโลหิตจางหรือไม่ โดยเฉพาะเด็กที่เกิดก่อนกำหนด
ควรได้รับการตรวจเลือดเร็วกว่าช่วงอายุดังกล่าว

            โลหิตจาง…ที่พบบ่อย
           ชนิดขาดธาตุเหล็ก (Iron Deficiency Anemia) ซึ่งพบมากที่สุด เกิดจากร่างกายขาดธาตุเหล็ก
ทำให้ไม่เพียงพอในการสร้างฮีโมโกลบิน อาจเกิดจากการรับประทานอาหารไม่เพียงพอ มีโรคลำไส้หรือเสียเลือด
ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการมีประจำเดือนมากหรือมีการเสียโลหิตเรื้อรังจากสาเหตุอื่น
           ชนิดไขกระดูกบกพร่องหรืออะพลาสติก (Aplastic) เกิดเมื่อไขกระดูกไม่สามารถสร้างเม็ดเลือดบางชนิดได้เพียงพอ
 เช่น เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว หรือเกล็ดเลือด แต่เม็ดเลือดที่ผลิตได้จะมีลักษณะทั่วไปเป็นปกติ สาเหตุที่เป็นไปได้คือ
 มีความผิดปกติทางพันธุกรรมหรือมีเนื้องอกของต่อมไทมัส การได้รับรังสีและสารเคมีบางชนิดหรือเกิดภายหลังโรคติดเชื้อ
 ภาวะนี้อาจเกิดขึ้นโดยไมทราบสาเหตุ






            ชนิดขาดกรดโฟลิก (Folic acid Deficiency Anemia) มักเป็นผลจากการขาดวิตามินบีซึ่งจำเป็นในการสร้างฮีโมโกลบิน
 ภาวะโลหิตจางชนิดนี้พบบ่อยในโรคพิษสุรา และโรคลำไส้ ซึ่งพบน้อยกว่า
            ชนิดเม็ดเลือดแดงแตกหรือฮีโมลิติก (Hemolytic Anemia) เกิดจากมีการทำลายเม็ดเลือดแดงเกินกว่าที่ร่างกายจะสร้างทัน
บางครั้งเกิดจากภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อต้านเซลล์เม็ดเลือดแดง
            ชนิดขาดวิตามินบี หรือเพอร์นิเซียส (Pernicious Anemia) เกิดจากการขาดวิตามินบี 12 เนื่องจากกระเพาะอาหาร
ไม่สามารถสร้างสารที่จำเป็นในการดูดซึมวิตามินเข้าสู่กระแสโลหิต

            การรักษา
          การรักษาโรคโลหิตจางในแต่ละชนิด มีแนวทางการรักษาที่ไม่เหมือนกัน หากสงสัยควรไปรับการรักษาจากแพทย์เฉพาะทาง
แต่โดยทั่วไปควรรับประทานอาหารเสริมสุขภาพและได้สมดุล แต่ก็ไม่ควรรับประทานยาเม็ดธาตุเหล็ก หรืออาหารเสริมชนิดอื่น ๆ
โดยไม่ปรึกษาแพทย์ การได้รับธาตุเหล็กมากเกินไป อาจเป็นอันตรายต่อตับ หัวใจ และอวัยวะอื่น ๆ

          นอกจากนี้ คุณอาจเลือกรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็กได้เช่นกัน โดยเลือกจากแหล่งอาหารของธาตุเหล็ก
อยู่ในอาหารหลัก 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ
            ธาตุเหล็กชนิดที่อยู่ในเนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ และอาหารทะเล อาหารกลุ่มนี้จะมีธาตุเหล็กสูง และดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้ดีที่สุด
 จะสังเกตได้จากเนื้อที่มีสีแดงยิ่งเข้มขึ้นแสดงว่ามีธาตุเหล็กสูง เมื่อรับประทานร่วมกับอาหารที่มิวิตามินซีสูง เช่น บรอคโคลี พริก
มะเขือเทศ ฝรั่ง ส้ม จะยิ่งช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็กได้มากขึ้น




     ธาตุเหล็กชนิดที่มีอยู่ในไข่และพืช ผักใบเขียวต่าง ๆ รวมไปถึงถั่วเมล็ดแห้ง
 อาหารพวกนี้มีธาตุเหล็กสูง แต่ธาตุเหล็กในกลุ่มนี้จะดูดซึมเข้าร่างกายได้ไม่ดีนัก จึงควรรับประทานร่วมกับอาหารที่มีวิตามินซีสูงในมื้อเดียวกัน
เพื่อช่วยในการดูดซึม


ขอบคุณข้อมูล และ ภาพ จาก อินเทอเนท ค่ะ


บันทึกการเข้า


♪♪♪ รวมบทกลอนน้องจ๋า คลิกค่ะ ...

ขอบคุณทุกภาพจาก Internet และเพลงจากYouTube
pibpypidgayah
บุคคลทั่วไป
   
« ตอบ #1 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2557, 11:46:03 AM »

Permalink: Re: โรคโลหิตจาง อาการป่วยของคนขาดธาตุเหล็ก
อ่านเเล้วได้ความรู้ที่ดีมากเลยอ่า
บันทึกการเข้า
Rabrineszta
บุคคลทั่วไป
   
« ตอบ #2 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2557, 10:41:50 AM »

Permalink: Re: โรคโลหิตจาง อาการป่วยของคนขาดธาตุเหล็ก
ใครที่เป็นโรคแบบนี้มีทางแก้ไหม๊ครับ
บันทึกการเข้า
ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 65535
เหรียญรางวัล:
PJ ดีเด่นนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลเว็บ
กระทู้: 18,130
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สาวหวาน กับ ความฝันไม่รู้จบ "
   
« ตอบ #3 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2557, 01:49:25 PM »

Permalink: Re: โรคโลหิตจาง อาการป่วยของคนขาดธาตุเหล็ก
มีสิคะ   หาหมอเลยค่ะ
บันทึกการเข้า


♪♪♪ รวมบทกลอนน้องจ๋า คลิกค่ะ ...

ขอบคุณทุกภาพจาก Internet และเพลงจากYouTube
หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: