-/> กินจุบจิบ เลิกไม่ได้ ก็ต้องเลือกกิน

หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: กินจุบจิบ เลิกไม่ได้ ก็ต้องเลือกกิน  (อ่าน 1538 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
คะแนนน้ำใจ 4202
เหรียญรางวัล:
ผู้ดูแลบอร์ดนักโพสดีเด่น
กระทู้: 681
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« เมื่อ: 08 กันยายน 2556, 04:38:39 PM »

Permalink: กินจุบจิบ เลิกไม่ได้ ก็ต้องเลือกกิน

กินจุบจิบ เลิกไม่ได้ ก็ต้องเลือกกิน



จริงอยู่ว่าพวกของกินเล่นจุบจิบไม่ได้จำเป็นอะไรมากมาย แต่ถ้าเลือกดี ๆ ประโยชน์จากสแน็คก็มีไม่น้อย หากกินก่อนถึงมื้อหลัก ความหิวก็จะลดลงครึ่งหนึ่ง แต่ที่สำคัญก็คือ กินแล้วต้องหยุดปากบ้าง อย่ากินเรื่อย ๆ ไม่เป็นเวลา เพราะจะทำให้ระบบการย่อยและการเผาผลาญรวนไปหมด และควรงดของขบเคี้ยวที่นิยมกันทั่ว พวกมันฝรั่งทอด ขนมกรุบกรอบ เพราะเวลากินมาก ๆ  ข้างในร่างกายเราก็จะแห้ง ขาดน้ำ จนเกิดการร้อนในได้



ซีเรียลธัญพืช
ถ้าคุณเป็นคนที่ต้องมีขนมติดโต๊ะทำงานไว้เคี้ยวเรื่อย ๆ ก็ลองเปลี่ยนจากพวกมันฝรั่งทอดมาเป็นซีเรียลธัญพืชรสธรรมชาติแทน นอกจากจะมีโปรตีนสูงแล้ว ยังเป็นแหล่งสารต้านอนุมูลอิสระชั้นเลิศอย่างโพลิฟีนอลที่ช่วยป้องกันโรคหัวใจและมะเร็ง



ผลไม้แห้ง
ไม่ใช่ผลไม้กวน หยี หรือโรยน้ำตาลหวานเจี๊ยบนะคะ แต่เป็นผลไม้ที่ถูกทำให้แห้งโดยการใช้เครื่องพัดความชื้นออกไป ไม่ได้มีการปรุงแต่งรสใด ๆ เพิ่มเติมเข้ามาทั้งสิ้น  นี่เป็นหลักการของ Raw Food อย่างหนึ่ง โดยจะใช้ความร้อนไม่เกิน 40 องศาเซลเซียสมาทำให้ผลไม้แห้ง เก็บรักษาได้นาน กินได้สะดวก แต่คุณค่าทางสารอาหารยังไม่สูญเสียไป



กล้วยตาก
เห็นว่าเยิ้ม ๆ ดูจะอ้วนจัดขนาดนั้น ที่จริงกรรมวิธีการทำกล้วยตากไม่ได้ใส่น้ำตาลเลยสักนิด มีเพียงแค่น้ำตาลธรรมชาติของกล้วยน้ำว้า และอาจจะมีการทาน้ำผึ้งที่เป็นยาอายุวัฒนะช่วยเคลือบกระเพาะและฟื้นฟูความอ่อนเพลียตามตำรับยาไทยบ้างเล็กน้อยเท่านั้น  หากหิวจัด ๆ กล้วยตากสัก 3 ลูก กับน้ำเปล่า 1 แก้ว ก็ทำให้คุณอิ่มท้องสบาย ๆ ไป 1 มื้อ



ลูกชิ้นปิ้ง
ช่วงหิว ๆ ระหว่างมื้อ แทนที่จะจัดของหวาน ๆ มัน ๆ ก็เลือกลูกชิ้นปิ้งหอมกรุ่นสักไม้ ราดน้ำจิ้มเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ กินคู่กับกะหล่ำสดและแตงกวา จะได้รับโปรตีนจากลูกชิ้น ไฟเบอร์และวิตามินจากผักสดมากขึ้น




กล้วยหอม
ร้อนจัด ๆ แทนที่จะกินไอศกรีมแคลอรี่สูง ก็หยิบกล้วยหอมสุก ๆ แช่ช่องแข็งไว้สักผล แล้วก่อนเสิร์ฟโรยถั่วลิสงคั่วสักหน่อย หรือจะหั่นกล้วยเป็นชิ้น ๆ กินคู่กับโยเกิร์ตธรรมชาติก็ได้ อิ่มท้อง คลายหิว คลายอยาก มีทั้งไฟเบอร์และวิตามิน แถมยังไขมันต่ำสุด ๆ ด้วย



ถั่วพิสตาชิโอ
ถั่วพิสตาชิโอ มีไขมันต่ำและช่วยในการบำรุงหัวใจ อีกทั้งคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก  มีผลวิจัยว่าหากรับประทาน 3 มื้อต่อวัน จะช่วยลดความดันโลหิตและความตึงเครียดทั้งทางร่างกายและจิตใจ ทั้งยังอุดมไปด้วยสารอูทีนและเบตาแคโรทีนที่เป็นหนึ่งในสารแอนตี้ออกซิแดนต์ ที่ช่วยลดคอเลสเตอรอล แค่เพียง 1 ออนซ์ หรือ 45 เมล็ด เป็นถั่วสัญชาติฝรั่ง หาได้ในไอศกรีมและเบเกอรี่ มีวิตามินเอ ไฟเบอร์สูง มีแร่ธาตุทองแดง แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามินบี ทำงานร่วมกันช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย และมีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ป้องกันโรคหัวใจ แต่ก็ควรเลือกแบบที่ไม่เค็มมาก ไม่อบเนย และไม่เคลือบน้ำตาล






ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : อินเตอร์เน็ต 


บันทึกการเข้า




หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: