โฮลเกรนธัญพืชเพื่อหุ่นสวย
ร่างกายของคนเราต้องการคาร์โบไฮเดรตชนิดดี เพื่อการเผาผลาญอาหารที่สมบูรณ์ ดังนั้นในแต่ละวันร่างกายจึงต้องการอาหารจากกลุ่มข้าวและแป้งในสัดส่วนมากที่สุด คือ วันละ 300 กรัม หรือประมาณ 8-12 ทัพพี ส่วนกลุ่มเนื้อสัตว์ที่ให้สารอาหารโปรตีนเป็นหลัก ร่างกายต้องการเพียงวันละ 50 กรัม หรือเท่ากับประมาณ 6-12 ช้อนกินข้าวเท่านั้นการงดอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตเพื่อลดน้ำหนัก จะทำให้กระบวนการเผาผลาญอาหารไม่สมบูรณ์ ซึ่งจะส่งผลให้อวัยวะในร่างกายทำงานผิดปกติ เนื่องจากคาร์โบเดรตมีหน้าที่ช่วยให้สารอาหารอื่นเผาไหม้ได้สมบูรณ์ นอกจากนี้ถ้าร่างกายได้รับคาร์โบไฮเดรตน้อยกว่าวันละ 100 กรัม เป็นระยะเวลานาน จะทำให้เกิดภาวะไฮโพไกลซีเมีย (hypoglycemia) ซึ่งเป็นภาวะที่ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำกว่า 60 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร ทำให้อวัยวะขาดพลังงานโดยเฉพาะสมอง จะเกิดอาการอ่อนเพลียและขาดสมาธิคาร์โบไฮเดรตชนิดดี หรือคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน มีอยู่ในข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท ซีเรียลโฮลเกรน พาสต้าโฮลเกรน ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ ข้าวฟ่าง ข้าวไรย์ ลูกเดือย ข้าวโพด ซึ่งเราพบว่าคนไทยบริโภคโฮลเกรนน้อยมาก ถ้าพิจารณาจากการรับประทานข้าวกล้อง ซึ่งเป็นโฮลเกรนชนิดหนึ่ง พบว่ามีเพียงร้อยละ 11 ที่บริโภคข้าวกล้องเป็นประจำ ทั้งๆ ที่ข้าวกล้องและโฮลเกรนมีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ สารต้านอนุมูลอิสระ และใยอาหารโฮลเกรนหรือธัญพืชเต็มเมล็ด เป็นธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสี จึงคงส่วนประกอบที่สำคัญในธัญพืชอย่างครบถ้วน ได้แก่ เยื่อหุ้มเมล็ด (Bran) เป็นส่วนนอกสุด ที่อุดมไปด้วยใยอาหาร ไฟโตนิวเตรียนท์ (สารต้านอนุมูลอิสระ) วิตามินบี และโปรตีน เนื้อเมล็ด (Endosperm) เป็นส่วนหลักของธัญพืช ประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรต และโปรตีนอีกเล็กน้อย จมูกข้าว (Germ) ส่วนที่เล็กที่สุดของธัญพืช อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีคุณค่าต่างๆ คือไฟโตนิวเตรียนท์ (สารต้านอนุมูลอิสระ) วิตามินบี วิตามินอี ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม ทองแดง สังกะสี และไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนโฮลเกรน มีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ซึ่งจะถูกย่อยอย่างช้าๆ และค่อยๆ ปลดปล่อยพลังงานให้ร่างกายอย่างต่อเนื่อง ทำให้อยู่ท้องมากกว่า รวมถึงมีไฟเบอร์หรือใยอาหาร ซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่งที่ร่างกายย่อยไม่ได้ เมื่อใยอาหารเข้าสู่ระบบทางเดินอาหารในลำไส้ จะสามารถขัดขวางการดูดซึมของคาร์โบไฮเดรตและไขมันเข้าสู่กระแสเลือด ด้วยคุณสมบัติที่ดีต่อสุขภาพเช่นนี้ โฮลเกรนจึงสามารถช่วยในการควบคุมน้ำหนักได้ โดยงานวิจัยกว่า 50 ชิ้นระบุว่า ผู้ที่บริโภคโฮลเกรนเป็นประจำ มีแนวโน้มที่จะมีน้ำหนักได้มาตรฐานมากกว่า มีดัชนีมวลกายน้อยกว่า และมีรอบเอวเล็กกว่าผู้ที่ไม่ได้รับประทานโฮลเกรน ทั้งยังคงน้ำหนักตัวที่เหมาะสมได้ในระยะยาวอีกด้วยขอขอบคุณข้อมูลจาก : นิตยสารเปรียว
ขอขอบคุณภาพจาก : อินเตอร์เน็ต