หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: นิทานเรื่อง แก้วสารพัดนึก ๑๗  (อ่าน 374 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 25515
เหรียญรางวัล:
ผู้ดูแลเว็บนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลบอร์ดนักเโพสดีเด่นมีความคิดสร้างสรรค์
กระทู้: 2,067
ออฟไลน์ ออฟไลน์
รักทุกคนที่รักเรา รักทุกคนที่เรารัก
   
« เมื่อ: 30 ตุลาคม 2567, 06:33:52 PM »

Permalink: นิทานเรื่อง แก้วสารพัดนึก ๑๗



☆นิทานเรื่อง แก้วสารพัดนึก๑๗☆
  (เมขลาอวตาร๓ กระต่ายกับเต่า)

☆ปางที่สองล่องฟ้ามาจุติ
เรื่องบานผลิแตกกอส่อคำสอน
มิตรรักรื่นยืนนั่งรอฟังกลอน
เรียงคำซ่อนอิ่มอ่านสำราญใจ

☆อวตารผ่านเห็นเป็นกระต่าย
ขาวทั่วกายหูตั้งปลั่งสดใส
กระโดดดึ๋งผึ๋งโผนกระโจนไว
ฝากฝีไม้ลายมือแสนลือชา

☆ดั่งจรวดรวดเร็วเอวยักถี่
ในโลกนี้โลกไหนไรักังขา
ใครนักเลงเก่งเอ้า..เจ้าจงมา
แข่งกับข้าสักครั้งคอยนั่งรอ

☆ชะอ้อนแอ้นแก่นแก้วแม่แต๋วจ๋า
วิ่งไล่ท้าทุกคนจนกลัวหงอ
ชนะบ่อยร้อยครั้งยังมิพอ
เฝ้าคุยจ้อข่มทับขับเสภา

☆ชะเอิงเอยเฮ้ยแนะกระแดะปาก
ไม่กระดากขวยอายร้ายเดียงสา
หากใครแน่แท้จริงอย่านิ่งนา
เร็วเถิดมาแข่งด่วนชวนประลอง

☆วิ่งยักเยื้องเมืองกรุงมุ่งร้อยเอ็ด
ข้ามอีกเจ็ดย่านน้ำล้ำเที่ยวท่อง
ออกจากไทยไปธิเบตเขตปกครอง
ข้าขอจองตั๋วก่อนอยากนอนไป

☆ปีนเขาแอลป์แถวเทียบเหยียบปุยเมฆ
จะเขยกขาเขย่งเกรงที่ไหน
แม้นมุดน้ำดำดินถิ่นแดนใด
อย่าสงสัยชนะแน่แพ้มิเป็น

☆รออยู่นานพาลเบื่อจนเหลือที่
คนลองดีมีไหมไอ้ขี้เหม็น
ตั้งแต่เช้าเหงาหงอยคอยถึงเย็น
ก็มิเห็นคนไหนใครรับคำ

☆พอเห็นเต่าเฝ้าคลานเลยผ่านหน้า
ตะโกนท้าลองไหมด้วยใจขำ
ย้ายยืดเยื้อเหลือเกินเดินเหมือนคลำ
เอ่ยเสียงย้ำยียวนกวนบาทา

☆เจ้าเต่าน้อยพลอยคิดจะผิดไหม
ด้วยเจ็บใจเหลือล้ำคำกล่าวหา
ลองสู้นิดคิดกลผลออกมา
แพ้หรือว่าชนะนั้นฉันไม่แคร์

☆ทั่วป่ากรูรู้ข่าวเรื่องราวเด็ด
รวบรวมเสร็จของพนันประชันแห่
ต่อกระต่ายทายผลทุกคนแล
ชนะแน่เต่าน้อยด้อยแรงเดิน

☆ขาก็สั้นบั้นท้ายย้ายมิเก่ง
กระดองเต่งอนิจจังยังงกเงิ่น
ถ่วงติดตัวหัวขาพาหนักเกิน
มองประเมินรู้แน่คงแพ้เยอะ

☆พอถึงวันขันแข่งต่างแย่งที่
อยากชมชี้แถวหน้ามาบานเบอะ
มองเห็นชัดถนัดตาดีกว่าเนอะ
วุ่นกันเปรอะเชียวหนอเพื่อรอเชียร์

☆ทางที่ท้าห้าโยชน์จากโขดหิน
แล้วสุดสิ้นกลางพงคงได้เสีย
ใครถึงนะชนะแน่แต่ขอเคลียร์
แพ้เป็นเบี้ยรับใช้ไปจนตาย

☆พอนับหนึ่งถึงสามตามที่นัด
กระต่ายงัดเอวพลิ้วปลิวตัวหาย
ดั่งลมกรดทดบึ่งตะบึงกาย
เห็นแดดสายส่องจับลับกายา

☆เต่าสตาร์ทมาดเข้มเต็มสปีด
จิกเท้ากรีดหนักแน่นแล่นถลา
มองกระต่ายหายวับไปกับตา
ได้แต่อ้าปากค้อนถอนใจยาว

☆กระต่ายวิ่งชิงถึงครึ่งทางแข่ง
ผ่อนเรี่ยวแรงที่จุดแล้วหยุดหาว
เอามือป้องจ้องแดดแผดร้อนพราว
แสนอบอ้าวเหลือดีมิมีลม

☆เห็นใต้สนต้นไทรที่ใบแน่น
โอบเป็นแผ่นเงาพร่างช่างสุขสม
พักเสียทีดีกว่าน่าภิรมย์
เห็นเงางมของเต่าเราค่อยไป

☆ความอวดดีขี้เล่นเช่นกระต่าย
นั่งผ่อนคลายเคลิบเคลิ้มเริ่มหลับไหล
ลมสะบัดพัดผ่านสำราญใจ
จึงเผลอไผลพลาดพลั้งเกินยั้งตัว

☆เต่าอืดอาดมาดว่ามานะมาก
อดทนลากกระดองดั้นเดินชันหัว
แดดจะร้อนชอนไชไม่เคยกลัว
ย่ำเท้ารัวไปเรื่อยยอมเหนื่อยกาย

☆มิช้านานคลานถึงจึงสำเร็จ
ชนะเสร็จเด็ดขาดตามวาดหมาย
กระต่ายตื่นฟื้นมาเกือบบ้าตาย
ต้องแพ้พ่ายแก่เต่าเศร้าอุรา

☆ต้องตกเป็นเช่นทาสอนาถนัก
จ่งประจักเรื่องสอนอ่อนเดียงสา
ใฝ่เรียนรู้สู้บั่นหมั่นตรวจตา
อย่าชักช้าเสียงานพาลเสียใจ

☆ขอจบตอนกลอนเต้นเป็นหางว่าว
เรื่องยืดยาวสักหน่อยปล่อยลื่นไหล
ปางสามเสกเมขลาว่าต่อไป
เป็นอะไรกันเล่าโปรดเดาดู.

                      เริงอักษร
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: