ต่อไป →

[พิมพ์อุบล]

**..วันนี้ ทีรัก..**

**..สวัสดีพี่น้องและผองเพื่อน
ตะวันเลื่อนลงลับกับเวหา
สายลมเย็นโชยพัดสะบัดมา
ในอุราสดชื่นรื่นกมล

*..อุบล..*

**..ทักทายกันฉันเธอเสมอนิตย์
ผูกพันมิตรหมายมุ่งผดุงผล
แวะมาร่อนกลอนไปพอได้ยล
มีสองคนคอยหารีบมาไว

*..ไร้รัก..*

**..ตะวันรอนก่อนค่ำลำนำถึง
คอยคะนึงซึ้งหาพาหลงใหล
คนร่ายพจน์บทกลอนอ้อนอาลัย
ฝากฤทัยให้หวนชวนอาวรณ์

*..วรรณ..*

**..ยินเสียงพจน์หยดย้อยที่ร้อยรับ
ยามจันทร์ลับเลือนหายปลายสิงขร
สุขหัวใจเหลือล้นคนมีกลอน
จึงสัญจรมาเจอเพ้อรำพัน

*..พิสิท..*

**..ห้องแชทกลอนตอนนี้จึงมีนัด
แม้อึดอัดอกพังได้สังสรรค์
วางลิขิตนิดหนึ่งส่งถึงกัน
จิตหุนหันหายลับกลายกลับเลือน

*..ชฎา..*

**..เคยเปี่ยมทุกข์รุกโรมโหมกระหน่ำ
เจ็บจนจำระส่ำจิตผิดใครเหมือน
ก้าวต่อไปให้พ้นคนย้ำเตือน
ยังมีเพื่อนเยือนเย้าเหงาคลายคลอน

*..นกหลับ..*

[พิมพ์อุบล]

**..นางตรม ขมใจ..**

**..มองดวงดาว พราวพราย ประกายสวย
ส่องระรวย แวววับ ขับเวหา
แสงจันทร์นวล งามเด่น เย็นอุรา
สุขหรรษา เริงรื่น ชื่นหทัย

**..เฝ้าคิดถึง คนรัก สลักจิต
อยากจุมพิต กอดก่าย คลายหวั่นไหว
อยากอิงซบ อกอุ่น กรุ่นละไม
ปล่อยดวงใจ สุขสม อารมณ์ปอง

**..หวนคะนึง คืนวัน ผันบรรจบ
ได้ประสบ เคียงคู่ อยู่เราสอง
ฤดูเปลี่ยน เวียนมา น้ำตานอง
นั่งเหม่อมอง ภาพถ่าย หน่ายชีวัน

**..สายลมโรย ลอยจูบ ลูบไล้พักตร์
เมื่อไหร่จัก มาขอ รอสู่ขวัญ
น้องคอยพี่ ปีเดือน เคลื่อนคล้อยพลัน
นอนหนาวสั่น อุรา จนชาชิน

**..หรือมัวหลง สาวกรุง จรุงจิต
ยั่วยวนชิด เชยชม สมถวิล
ทิ้งน้องให้ ตรอมตรม จมชีวิน
มลายสิ้น ความหวัง พังลงครืน

**..หากหมดรัก วานเอ่ย เฉลยบอก
อย่ากลิ้งกลอก ลวงเล่ห์ เสน่ห์ขืน
สุดชอกช้ำ หมองหม่น ทนกล้ำกลืน
คงขมขื่น มอดม้วย...ด้วยคนลวง

**..อุบล..**



**..เดือนเด่นฟ้า ดาวไสว ไฟสว่าง
จำแรมร้าง สู่กรุง มุ่งเมืองหลวง
แสงนีออน สยบดาว คราวจ้องดวง
ให้นึกห่วง น้องพี่ ที่อยู่ไกล

**..สิ้นวสันต์ เหมันต์ย่าง นางคงหนาว
โลมแก้มสาว สายลมลูบ จูบแก้มใส
เก็บเงินพอ จะมาขอ ยอดยาใจ
รอได้ไหม สองปี พี่จะมา

**..อยู่เมืองหลวง เลิกห่วง เลยที่รัก
พี่ไม่ปัก ชอบใคร ให้ห่วงหา
น้องจงรอ หน่อยน่ะ จ๊ะขวัญตา
วันวิวาห์มีแน่...แม่จงคอย

**..พนา..**

[พิมพ์อุบล]

**..จำปี คืนทุ่ง..**

**..กลิ่นจำปี หอมกรุ่น ละมุนขวัญ
ฝนซาพลัน หนาวเยือน สะเทือนไหว
สายลมโบก โยกพลิ้ว ปลิวต้องใจ
หวามหทัย รวยริน ถวิลทรวง

**..เห็นหมอกจาง ยามเช้า เฝ้าคิดถึง
ครวญรำพึง จำพราก จากเมืองหลวง
เบื่อผู้คน พูดพร่ำ คำหลอกลวง
น้ำตาร่วง รินไหล ใจร้อนรน

**..ทิ้งแสงสี ตึกหรู สู่ท้องทุ่ง
ไม่คิดมุ่ง เงินทอง ทำหมองหม่น
กลับหวนคืน บ้านนา ที่ว่าจน
ดีกว่าทน ถูกเหยียด เสียดสีเอย...

**...อุบล...**


**..มอบอกอุ่น ให้ซบ สยบเศร้า
อยู่บ้านเรา อุ่นรัก นักน้องเหย
ในเมืองกรุง ฝุ่นหนา อย่าอยู่เลย
กลับถิ่นเคย อยู่มา แต่เยาว์วัย

**..ดอกจำปี เคยหอม เคยดอมดม
ถูกเขาชม เชยชื่น สิ้นสดใส
จะคอยเก็บ จำปีร้าง ล้างคาวใจ
แอบอุ่นไอ อกชาย หายตรอมตรม

**...พนา...**

[พิมพ์อุบล]

**  เมาหล้า หรือ...เมารัก  **
(ภาค ๑)

**..ยามค่ำคืน มองดาว สกาวสวย
อกระทวย รวยริน ถวิลหา
โอ้ยอดชู้ อยู่ไหน ไยไม่มา
ปล่อยอุรา รวดร้าว หนาว...หทัย

**..นั่งดื่มเหล้า คนเดียว เปลี่ยวหม่นหมอง
เฝ้าตรึกตรอง ครุ่นคิด จิตหวั่นไหว
พร่ำพรรณนา ตราตรึง ถึงคนไกล
ครวญคิดใคร่ รัญจวน หวน...คะนึง

*..อุบล..*

**..อยากจะดื่ม ลืมรัก สลักจิต
ช่วยสะกิด ชวนหน่อย คอยคิดถึง
เห็นน้องดื่ม เดียวดาย คลายบึ้งตึง
มงคลจึง ขอด้วย ช่วยชวนที

*...มงคล...*

**..หากจะชวน น้องนั้น หวั่นเจ้าของ
กลัวขุ่นข้อง หมองใจ ไม่สุขี
หากว่ามา หาพลัน หวั่นเจอดี
คนเป็นศรี ภรรยา อาจมาทวง...

*..อุบล..*

**..มิต้องหวั่น มั่นใจ ว่าไร้เมีย
เพราะเธอเสีย สิ้นขาด มิอาจหวง
พี่จึงโสด โปรดจำ ใช่คำลวง
ไม่มีบ่วง บ้านว่าง ยังร้างนวล

*..มงคล..*

**..เป็นจริงหรือ คำที่ พี่เอ่ยบอก
กลัวลวงหลอก ช้ำใจ ให้กำสรวญ
หากไม่โสด ดั่งว่า อุรารวน
คงเซซวน ตกระกำ ช้ำชอกใจ..

*..อุบล..*

*******************

**  เมาหล้า หรือ...เมารัก  **
(ภาค ๒)

**..ยามค่ำคืน มองดาว สกาวสวย
อกระทวย รวยริน ถวิลหา
โอ้ยอดชู้ อยู่ไหน ไยไม่มา
ปล่อยอุรา รวดร้าว หนาว...หทัย

**..นั่งดื่มเหล้า คนเดียว เปลี่ยวหม่นหมอง
เฝ้าตรึกตรอง ครุ่นคิด จิตหวั่นไหว
พร่ำพรรณนา ตราตรึง ถึงคนไกล
ครวญคิดใคร่ รัญจวน หวน...คะนึง

*..อุบล..*

**..พี่เมาอยู่ บางใหญ่ ไม่กล้าขับ
กลัวโดนจับ อีกไม่ช้า คงมาถึง
ดื่มไปพลาง นั่งรอ ขอแป๊บหนึ่ง
จะรีบบึ่ง มาหา ...ห้านาที

**..พอมาถึง ซึ่งหน้า ประตูเจ้า
เห็นรองเท้า ใครไม่รู้ วางอยู่นี่
แอบฟังดู จึงรู้ ผู้ชายมี
ด้วยเร็วรี่ คว้ารองเท้า...วิ่งอ้าวเลย

**..อยากเข้าไปหวัดดีพี่มงคล..**
แต่เห็นรองเท้าหนังอย่างดีก็เลย..555

*..พนา..*

[พิมพ์อุบล]

@..หิว..@

@@..หิวแล้วหนอ พอดี ยังมีไข่
ต้มเอาไว้ วันวาน อาหารฉัน
น้ำปลาใส่ ไปหน่อย อร่อยพลัน
สองใบนั้น นะหรือ อิ่มตื้อเลย

@..ชฎา..@

@@..มีสองใบ ไข่น้อง อยากลองบ้าง
แต่น้องนาง นั้นซด ซะหมดเฉย
น้องไม่เหลือ เผื่อแผ่ แม่ทรามเชย
พี่ตามเคย เคลื่อนตา มองหานม

 @..พิสิท..@

@@..ส่วนของฉัน วันนี้ มีข้าวเปล่า
จึงสั่งเอา ทั้งพะแนง และแกงส้ม
พร้อมปลาทู ทอดไข่ ใส่ชะอม
แกงหอยขม ทานไป ถูกใจจัง

 @..อุบล..@

@@..วันนี้ทานเ กาเหลา ข้าวอีกถ้วย
น้ำเปล่าด้วย ยี่สิบห้า แม่ค้าตั้ง
รีบส่งเงิน เพลินยุ่ง มัวนุงนัง
จ่ายหรือยัง ย้อนถาม ด้วยความงง

 @..เบญจวรรณ..@

[พิมพ์อุบล]

** แก่แล้ว...รักไหม **

**...แก่แล้วหนารักไหมใจขอถาม
มิเลิศงามเฉกเช่นเด่นคนสวย
ไร้สมบัติต้อยต่ำใช่ร่ำรวย
อกระทวยกล้ำกลืนฝืนระทม

**...เธอเด็กกว่ามากมายหลายปีนัก
มาขอภักดิ์คบนั่นหวั่นจะขม
หากโดนทิ้งคงผันพลันนอนซม
ต้องตรอมตรมหงอยเหงาเศร้า...อุรา

*..อุบล..*

**...เมื่อคนแก่มาเหงาเศร้าเพราะเด็ก
เรื่องไม่เล็กแล้วหนอขออาสา
แม้นโดนทิ้งตรอมตรมจมน้ำตา
จะหายาแก้ไข้ไว้ให้เธอ

*..มานพ..*

**...เด็กบอกรักคุณป้าอย่าทำเฉย
รีบบอกเลยว่ารักจักเสนอ
จะมัวช้าอยู่ใยเดี๋ยวใครเจอ
งาบเสียก่อนนะเอออดลงคาน

**...ของที่เตรียมนะหล่อนก่อนเข้าหอ
หม่องลิงถือลูกท้อหนึ่งขนาน
หอมเจดีย์มีไว้ได้รับทาน
มีติดบ้านเผื่อออกฤทธิ์ผิดสำแดง

*..พนา..*

[พิมพ์อุบล]

@@... สนทนาประสามิตร ...@@

@@...อยากจะทัก ด้วยกลอน มาตอนค่ำ
กลัวมิขำ ขุ่นเคือง จะเรื่องใหญ่
ก็เพียงคิด จิตเปลี่ยว แอบเสียวใจ
อาจโดนไม้ มาหวด เจ็บปวดกาย

@..พิสิท..@

@@..ดั๊นมาทัก ตอนนี้ ขอครี่ก่อน
แหมนะออน เอิ้นมา บ้าอิ๊บอ๋าย
ไม่รู้วัน เวลา เลยนะชาย
อย่าแพร่งพราย ใครถาม..เนี่ยความลับ

@..ศศิ..@

@@...จะได้มา ทักถาม ก็ยามว่าง
เฟซออนค้าง ที่จริง อาจนิ่งหลับ
หรือตัวอาจ ไม่ว่าง งานค้างครับ
การขยับ เลื่อนเมาส์ เหมือนเฝ้ามอง

@..คนโสต..@

@@...คุณเอ๋ไม่ ว่างเติม ต้องเสริมสวย
เสือมาช่วย เขียนนี่ ตอนตีสอง
ท่านอำนวย พรุ่งนี้ พร้อมพี่ลอง
ที่แอบมอง นั้นหรือ คือแก้วตา

@..พิสิท..@

@@...เมียงสอดส่อง ห้องกลอน ตอนสองทุ่ม
ซ่อนที่มุม เสาแนบ แอบมองหา
คิดถึงจัง หวังเจอ จึงเผลอมา
ปู่ลุงป้า ดุจดาว สวัสดี

@..ดุจดาว..@

@@...น่าตกใจ ใครน้า ลุงป้าปู่
แอบมองดู ดุจดาว สกาวศรี
ผม มงคล คนใหม่ไม่รอรี
ฝากวจี จากจิต สนิทงาม    

@..มงคล..@

@@...สวัสดี พี่น้อง และผองเพื่อน
เช้ามาเยือน ตะวันส่อง ผ่องอร่าม
นกตัวน้อย บินวน บนฟ้าคราม
สุขสันต์ยาม เหม่อมอง ท้องนภา

@@...ขอทุกคน มีสุข ทุกแห่งหน
อยู่ตำบล เมืองใด ไกลคูหา
ฝากสายลม เย็นชื่น รื่นอุรา
ห่มชีวา พี่น้องฉัน ทุกวันคืน..

@..อุบล..@

[พิมพ์อุบล]

**... ผกากรอง ..**

**...ผกากรองมองไปชื่นใจนัก
สวยน่ารักลานตาเริงร่าสม
ช่อดอกจ้อยน้อยนิดยามพิศชม
ทุกข์ขื่นขมคลายลงจนงงงัน

*..ชฎา..*

**...ยิ่งเพ่งพิศอยากหยอกเด็ดดอกเจ้า
ยังหวั่นเย้ารวนเรให้เหหัน
ดั่งเชื้อเชิญพลิ้วแกว่งเหมือนแกล้งกัน
ให้รำพันจนผมอยากดมลอง

*..วาที..*

**...กลิ่นผกาน่าค้นฉงนจิต
ใคร่เชยชิดสดใสไม่มัวหมอง
เหล่าภมรหลงไหลด้วยใจปอง
เฝ้าแลมองดอมดมสมฤดี

*..อุบล..*

**...ผกากรองต้องใจในสีสัน
งามเฉิดฉันท์พิศเพลินเจริญศรี
กลีบแย้มบานหลายหลากล้วนมากมี
รับระวีล่อแมลงแอบแฝงชม

*..ป้าเล็ก..*

**...สีสันช่างงดงามอร่ามแท้
ได้เพียงแค่มายืนก็ขื่นขม
จ้องมองอยู่เคียงข้างอย่างลมลม
ใครเด็ดดมสักช่อเขาก็เมิน

*..วาที..*

[พิมพ์อุบล]

oo.. ขำๆ ประสามิตร..oo

oo... พี่ประเมิน เดินมา สวยน่ารัก
ชอบยิ่งนัก ยามยล โฉมเฉลา
นั่นน้องเอ๋ ทรามวัย สวยไม่เบา
คุณศิเล่า ทุกยาม สวยงามตา

*..พิสิท..*

oo... คุณพิสิท มากรัก มิอยากคบ
หมายประจบ ประแจง แสร้งมุสา
คิดแล้วเบื่อ เชื่อยาก ปากพ่อค้า
หันหลังลา ละเด้อ เชิญเพ้อไป

 *..ศศิ..*

oo... พี่พิสิท ปากหวาน สำราญนัก
มาหว่านรัก ชวนชิด พิศมัย
ทำเอาสาว หลายคน หมองหม่นใจ
ช้ำฤทัย คำพ่อค้า มาหลอกลวง

*..อุบล..*

oo... ขอแก้ต่าง วางใจ ได้น้องสิท
กัลยา ณมิตร คิดกล่าวล่วง
เชื่อเถิดนะ ดีจริง สิ่งทั้งปวง
รับประกัน หายห่วง การันตรี

*..ประเมิน..*

[พิมพ์อุบล]

❄❄ .สนทนา. ❄❄
เรื่องอาหาร

❄❄...กลิ่นไข่ทอด พร้อมชะอม ทำผมหิว
จึงเดินลิ่ว ตามกลิ่น ถวิลหา
มื้อเที่ยงนี้ บังเอิญ เดินผ่านมา
น้องเอ๋จ๋า คนสวย ทานด้วยคน

❄..พิสิท..❄

❄❄...เดี๋ยวจะทำ เผื่อนะ คะคุณพี่
ตอนนี้มี ไข่เจียว เต้าเจี้ยวหลน
ต้มยำกุ้ง รสเด็ด เปรี้ยวเผ็ดปน
น้ำพริกป่น ปลาทู ดูน่าทาน

❄..อุบล..❄

❄❄..พี่ขอร่วม รวมไป ได้ป่าวจ้ะ
กับข้าวเจ ด้วยละ ทั้งคาวหวาน
ลาบเต้าหู้ เผ็ดหนอ พอประมาณ
หนมอีกจาน บ้าบิ่น กินด้วยกัน

❄..ประเมิน..❄

[พิมพ์อุบล]

❤❤..ทักทาย ก่อนนอน..❤❤

❤❤...ก่อนนิทรา มาทัก กันสักนิด
ประสามิตร พี่น้อง และผองเพื่อน
สมัครสมาน ร่วมใจ ไม่แชเชือน
รักใคร่เหมือน ญาติมิตร สนิทกัน

❤..อุบล..❤

❤❤..อยากจะทัก ให้ทั่ว แต่หัวค่ำ
แต่ข้าวยัง มิได้หม่ำ สักคำนั่น
มายิ้มตอบ พิสิท สนิทกัน
แล้วก็พลัน พบเอ๋...สวยเก๋จัง

❤..ฅนโสต..❤

❤❤..ขอให้หลับ คืนนี้ มีความสุข
ให้สนุก ทุกยาม ตามที่หวัง
ฝากบทถ้อย ร้อยใจ ในภวังค์
ตื่นอีกครั้ง สุขชีวา ในอารมณ์

❤..พิสิท..❤

[พิมพ์อุบล]

..** เหงาใจ **..

**..คงมีบ้าง บางครั้ง ต้องนั่งเหงา
ตอกย้ำเศร้า ซึมใน หทัยเอ๋ย
วันนี้ไซร้ ไหวเอน ดั่งเช่นเคย
มิน่าเลย ล่วงกาล ยังพานเป็น

*..ชฎา..*

**..มีอะไร ในอก รีบยกออก
หรือเผยบอก บ้างก็ได้ ให้พี่เห็น
สิ่งที่เศร้า เหงาน่ะ กี่ประเด็น
เรื่องลำเค็ญ คนดี ให้พี่ฟัง

*..พิสิท..*

**..คงได้แต่ แลมอง เจ้าผ่องศรี
หากยังมี ความหมอง ครองใจฝัง
คงต้องรอ ท้อหนัก รักรุงรัง
อยู่ลำพัง นั่งเหม่อ เพ้อผู้เดียว

*..เบญจวรรณ..*

**..ตกสู่ห้วง อารมณ์ จมความคิด
ตรมดวงจิต หมองหม่น จำทนเปลี่ยว
เหมือนอยู่ใน วังวน ที่คดเคี้ยว
ยากจะเลี้ยว หนีห่าง ทางวุ่นวาย

*..อุบล..*

**..พอได้สุข สมบ้าง แม้บางเสี้ยว
จากโดดเดี่ยว ดูสิ เพื่อนมิหาย
มาหมุนเวียน เขียนกลอน พอผ่อนคลาย
แม้นทุกข์ร้าย รุมเร้า ก็เบาลง

*..ชฎา..*

**..จงนิ่งหน่อย ปล่อยวาง เสียบ้างนะ
ใจก็จะ คลายกลุ้ม คราวลุ่มหลง
ยังมีเพื่อน ปลอบกัน คอยบรรจง
เขียนกลอนส่ง ไมตรี ทุกวี่วัน

*..วาที..*

**..ด้วยสื่อศิลป์ จินตนา คำปรากฏ
ศาสตร์สวยสด เสร็จสรรพ เพื่อรับขวัญ
แม้ห่างเหิน เกินทาง ระหว่างกัน
สายสัมพันธ์ มวลมิตร ลิขิตกลอน

*..ตุ๊กตา..*

[พิมพ์อุบล]

เช๊อะ

~..เฝ้าแต่งกลอน เวียนวน จนเพื่อนทัก
ว่าฉันจัก ตรอมตรม ขมถึงไหน
เห็นแต่ช้ำ กล้ำกลืน ทุกคืนไป
เป็นไฉน วานเอ่ย เฉลยความ

 ~..อยากให้เปลี่ยน แนวหวาน สำราญบ้าง
หรืออ้างว้าง หว่างจิต คิดวาบหวาม
เขียนแบบอื่น บ้างเถอะ เนอะคนงาม
เบื่อจะตาม ความเศร้า เปลี่ยวเหงาใจ

..อุบล..

~..ช้ำเสียจน ชินชา มิน่าเชื่อ
เขาคงเบื่อ คำว่าเหงา เราใช่ไหม
ดูระรื่น เริงร่า บ้าหรือไง
มาบอกได้ คิดดู หรือหนูเมา..555

 ..พนา..

~..เมื่อต้องเล่น บทนี้ ที่ให้เล่น
แสดงเช่น แบบนี้ สิไม่เฉา
เพราะชินแล้ว ได้บทรัก จักไม่เอา
ติดบทเศร้า เหงาช้ำ ประจำการ

 ..ยงศักดิ์..

~..บทตลก เล่นประจำ คนขำกลิ้ง
ชีวิตจริง เคล้าน้ำตา น่าสงสาร
เป็นพระเอก อย่าง"พรมคำ" มิชำนาญ
อย่ารำคาญ ช่วยกดไลท์ ให้สักอัน..

..พนา..

[พิมพ์อุบล]

.. เศร้า หรือ ขำ ..

~.. อยู่โดดเดี่ยวเดียวดายมิวายคิด
รัญจวนจิตตกลงตรงห้วงเหงา
มองท้องฟ้าคราที่สีหม่นเทา
ยิ่งพาเศร้าโศกศัลย์ทุกวันคืน

~. อุบล .~

~.. อยากจะลืมอดีตเลิกคิดฝัน
ลบเลือนรอยจาบัลย์วันขมขื่น
ลบรอยคราบน้ำตาครากล้ำกลืน
หยุดทนฝืนลืมรักที่หนักทรวง

~. คนหัดเขียน .~

~.. ขยับย่างร่างท้วมเดินต้วมเตี้ยม
กินให้เปี่ยมพุงก่อนนอนนะง่วง
เปิดเพลงดังฟังหวานแม้ฝันลวง
ก็หมดห่วงหายเหงา ...เอ้า ลองดู

~. ศศิ .~

~.. กินแล้วนอนผ่อนคลายสบายใจ
เป็นอย่างไรฉุกคิดจิตหดหู่
เอ๊ะ..ไขมันมาจากไหนมิใคร่รู้
มันมาอยู่ฝังร่างข้างในกาย....

~. อุบล .~

~.. มองดูพุงเหมือนโตโอ้น่าเกลียด
แหมมันเครียดคราวนี้ฤดีหาย
อยากนี่นั่นกินไปไม่นึกอาย
อุ๊ยต๊ายตายพุงย้อยห้อยลงมา

~. จิ๊ก ธนพรพรรณ .~

~.. โอ๊ะแม่คุณทูนหัวคงกลัวหิว
เดินตัวปลิวเข้าร้านแล้วสรรหา
ไอ้นั่นดีอันนี้ชอบตอบกายา
ทั้งหมดหนาเพื่อตนทนทำใจ

~. ยงศักดิ์ .~

[พิมพ์อุบล]

**.. แฟนผิดนัด ..**

**.. อารมณ์เสียเพลียจิตแฟนผิดนัด
นั่งอึดอัดอกยิ่งเสียจริงหนอ
ไร้วี่แววแล้วยังต้องนั่งรอ
จะไม่ง้องอนแล้วนะแก้วตา

* พิสิท *

**.. เห็นกระวนกระวายมากมายนัก
อยากจะทักเป็นอะไรไฉนหนา
ยืนคอยใครหรือนั่นหวั่นอุรา
แฟนพี่มาพานพบจะตบตาย

* อุบล *

**.. หวังจะจีบเขานั้นก็หวั่นนัก
เขาจะชักปืนมายิงหน้าหงาย
ได้แต่ทำยึกยักแกล้งทักทาย
กลัวโรคร้ายไข้โป้งเข้าโรงเตา

* วาที *

**.. แอบหลบอยู่ดูทีแฟนมีไหม
ค่อยแน่ใจจึงลุยทักคุยเขา
ต้องโสดแท้แน่จริงหากชิงเดา
จะเจ็บเอาอกพังระวังตน

* ชฎา *

**.. คนผิดนัดก่อนปัดจัดไถ่ถาม
ให้รู้ความยามนี้มีเหตุผล
หากเพิกเฉยมิเอ่ยเผยกมล
คงต้องทนหม่นจิตคิดจากจร

* เบญจวรรณ *

**.. เฝ้าโทรถามเขาไปก็ไม่บอก
ทำเลี่ยงหลีกย้อนยอกกล่าวหลอกหลอน
ให้ช้ำจิตอนิจจาไม่อาวร
ความอาทรจะให้ก็ไม่มี

* วาที *

**.. โอ๋โอ๋โอ๋ใครหนอล้อหลอกเจ้า
อย่าหม่นเศร้าเขาไกลไปสุขขี
เริ่มหาใหม่ให้เลิศประเสริฐดี
เดี๋ยวก็มีที่ว่างอย่าหมางใจ

 * เบญจวรรณ *

**.. ยังมีมิตรปลอบขวัญถึงกันอยู่
จะยิ้มสู้ทุกวันมิหวั่นไหว
มิตรหนึ่งเสี้ยวคอยย้ำแนะนำไป
และอยู่ให้ไมตรีตรงนี้เอย

* วาที *

^คลิก .1 ←สนทนาประสามิตร

สนทนาประสามิตร 3 →^คลิก